เมื่อฤดูร้อนมาถึง หากนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวหรือพักผ่อนหย่อนใจ หลายคนคงต้องนึกถึงทะเลเป็นอันดับแรก สำหรับวันนี้เฟยเฟย จะมารีวิวทะเลเกาะหมาก เกาะขนาดใหญ่ท่อยู่ในพื้นที่จังหวัดตตราด สุดเขตภาคตะวันออกของประเทศไทย สำหรับการเดินทางมาเกาะหมาก จะใข้เวลาประมาณ 5 - 6 ชั่วโมง จากกรุงเทพฯ โดยเดินทางมาเพื่อขึ้นเรือไปยังเกาะหมากที่ ท่าเรือกรมหลวงชุมพร ซึ่งเป็นท่าเรือหลัก ตั้งอยู่ในที่แหลมงอบ ซึ่งบริเวณท่าเรือจะสามารถนำรถส่วนตัวมาฝากไว้ที่ท่าเรือได้ แต่สำหรับใครที่นั่งรถโดยสารสาธารณะ จะมีรถเพียงรอบเดียวที่มาถึงยังท่าเรือคือรอบเวลา 7:45 น. หากเลยจากนี้ จะต้องลงรถที่ท่ารถแสนตุ้งหรือบขส. ซึ่งต้องเหมารถสองแถวนั่งต่อมายังท่าเรือ ราคาเหมาต่อคันประมาณ 300 บาท และสามารถซื้อตั๋วเรือได้เลย ราคาจะอยู่ที่ 350 บาทต่อคน ใช้เวลาเดินทางโดยเรือประมาณ 50 นาทีก็จะถึงเกาะหมาก ซึ่งภายในเกาะจะเห็นได้ว่า มีน้องหมา และน้องแมว เยอะมาก สำหรับการเที่ยวครั้งนี้เราเลือกที่จะพัก เกาะหมาก บุรีฮัท แนชเชอรัล รีสอร์ท ซึ่งอยู่ใกล้ท่าเรืออ่าวนิด โดยเมื่อมาถึงท่าเรือแล้วก็สามารถโทรให้รถของทางรีสอร์ทมารับได้เลย และสำหรับใครที่ต้องการเช่ารถจักรยานยนต์สำหรับขี่เที่ยวรอบเกาะ ทางรีสอร์ทก็มีบริการให้เช่าวันละ 250 บาทต่อวัน ซึ่งจะเท่า ๆ กับร้านอื่นภายในเกาะ ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว ขอแนะนำพักที่นี่เลย เนื่องจากที่พักจะมีหาดส่วนตัว พร้อมเรือคายัคให้เช่า แต่น้ำที่ชายหาดอาจจะไม่ใสมากเท่าหาดอื่น เนื่องจากอยู่ใกล้กับท่าเรือ วันถัดมาของการ่องเที่ยว เราเลือกที่จะนั่งเรือข้ามฝั่งไปยังเกาะขาม ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กใกล้ ๆ กับเกาะหมาก สามารถมาขึ้นเรือข้ามฟากได้ที่เกาะหมากรีสอร์ท หรือที่ koh mak cococape resort ก็ตามสะดวก โดยราคาไปกลับอยู่ที่ 300 - 350 บาท ต่อคนซึ่งตั๋วเรือสามารถนำไปแลกเป็นเครื่องดื่มที่ร้านบนเกาะขามได ซึ่งเรือจะเริ่มวิ่งตั้งแต่เวลา 9:00 ไปเรื่อย ๆ ใช้เวลาข้ามเกาะประมาณ 15 นาทีโดยประมาณ เมื่อไปถึง ต้องยอมรับเลยว่า เมื่อก้าวเท้าเข้าเหยียบเกาะขามครั้งแรก รู้สึกตกหลุมมาก ๆ เพราะทั้งทรายขาว น้ำใส เห็นปลาตัวเล็ก ๆ ลอยไป อีกทั้งจำนวนคนไม่หนาแน่นมากนัก ต้องยกให้เห็นเกาะที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ จากนั้นไปต่อที่บาร์กลางน้ำที่ koh mak cococape resort ซึ่งจะต้องจ่ายค่าเข้าไปชมบรรยากาศสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้พักกับที่นี่ ภายในจะมีชาวต่างชาติและชาวไทยค่อนข้างเยอะเพราะบาร์แห่งนี้เป็นเหมือนไฮไลท์หนึ่งของเกาะหมากค่าเข้าชมสามารถนำมาแลกเป็นเครื่องดื่มได้คนละไม่เกิน 100 บาท หรือใครที่สนใจเดินสะพานกลางทะเลก็สามารถแวะมาได้ที่ สะพานสู่ฝัน (สะพานชินนาม่อน) ที่ The Cinnamon Art Resort and Spa สภาพอาจจะทรุดโทรมมากกว่าแต่เมื่อถ่ายรูปออกมาก็ยังให้ความรู้สึกสวยอยู่ดี อีกทั้งค่าเข้าชมยังถูกกว่าอีกด้วยเพียงแค่คนละ 50 บาทก็สามารถเดินถ่ายรูปได้แล้ว สำหรับค่าใช้จ่ายที่อยู่ที่เกาะมากเนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวและด้วยความที่อยู่ห่างไกลจากฝั่งทำให้ราคาอาหารจะสูงมากกว่าเกาะอื่นๆที่อยู่ใกล้ฝั่งมากกว่าโดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 100 - 500 บาท ซึ่งร้านอาหารที่แนะนำเรียกได้ว่าเป็นร้านขึ้นชื่อของเกาะหมากก็คือร้านเกาะหมากซีฟู้ดซึ่งราคาจะอยู่กลาง ๆสามารถนำเราเที่ยวด้วยกันมาใช้เป็นส่วนลดได้อีกอย่างสำหรับการกินบนเกาะแห่งนี้ก็คือจะเห็นได้ว่าน้ำแข็งค่อนข้างหายากภายในเกาะ ใครที่ติดน้ำแข็งคงต้องทำใจหน่อยถึงสิ่งที่ประทับใจบนเกาะแห่งนี้คือความ eco ของเกาะจะต่างจากเกาะอื่นๆ ตรงที่ส่วนมากของพื้นที่บนเกาะจะเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และต้นยาง ทำให้บรรยากาศดูร่มเย็น อีกอย่างก็คือเรื่องขยะจะต่างจากที่อื่นอย่างเกาะล้านหรือเกาะเสม็ดตรงที่มี จำนวนน้อยกว่ามากเพราะภายในเกาะมีกลุ่มจิตอาสาที่คอยทำความสะอาดและเก็บขยะตามชายหาดอย่าง trash hero ทำให้เกาะหมากน่าเที่ยวมากยิ่งขึ้น ใครที่สนใจจะมาเที่ยวเกาะมากอยากจะให้ช่วยกันลดการนำขยะมาเพิ่มฝุ่นเกาะและช่วยกันทิ้งขยะให้เป็นที่เพื่อให้เกาะหมากยังคงความสะอาดและน่าเที่ยวต่อไปเรื่อย ๆภาพทั้งหมดโดย ผู้เขียน วันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !