คนส่วนมาก เมื่อจะเริ่มทำอะไรครั้งแรกมักจะเกิดขึ้นจากการตั้งใจก่อน ตั้งใจว่าจะทำ... ตั้งใจว่าจะไป... ตั้งใจว่าจะกิน... แต่สำหรับเรา 5 คน การไปเกาะช้างครั้งนี้ เราไม่ได้ตั้งใจ! ทริปของเราเริ่มต้นจากการไปทำงานต่างจังหวัดธรรมดา ๆ ที่จ.ตราด โดยพวกเรามีเวลา 3 วัน 2 คืน วันแรกเราเดินทางกันแต่เช้าจาก จังหวัดปทุมธานี เพื่อให้ไปถึงตราดก่อนมืด เพราะในวันถัดไปเราจะต้องเริ่มงานแต่เช้า แต่ก็ไม่วายแวะชิวไปเรื่อย เนื่องจากหัวหน้าแก๊งครั้งนี้ของเราเป็นนักซิ่ง และรับประกันว่า ทันก่อนมืดแน่นอน หลังจากขับรถทำเวลาได้ดีระดับหนึ่ง เราก็แวะทานอาหารเช้าง่ายๆ ตรงจุดแวะพักมอเตอร์เวย์ กับเบอร์เกอร์ และกาแฟ ร้อน ด้วยโปรโมชั่นลดราคา 10% พี่พนักงานบริการดีมาก แจ้งว่าหากตอบแบบสอบถามจะได้โปร เมื่ออิ่มกันดีแล้วก็มุ่งหน้าสู่ตราดของเราต่อ สักพักเราก็มาถึงจันทบุรี ตอนเกือบเที่ยงกว่าแวะกินส้มตำตาม gps แนะนำ เลยหาดแขมหนูมาสักพัก บอกเลยอร่อยเกินคาด โดยเฉพาะไก่ทอดนะ แซ่บหลาย พอออกจากร้านแล้วไกด์นำทาง (1 ใน 5 คนที่อ้างตนว่าเคยมาแถวนี้บ่อย) จะพาเราแวะจุดชมวิว แต่ก็พาเราหลง! ด้วยการเลี้ยวเข้าผิดวงเวียน แต่เราก็มาถึง ดังปาฏิหาริย์ ฮ่าๆๆ จุดชมวิวแรกที่เราแวะคือจุดชมวิวเนินนางพญา ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีงานคงนอนนี่กันและ และเจดีย์บ้านหัวแหลม โดยระหว่างจุดชมวิวทั้งสองจะมีรถซาเล้งคอยให้บริการในการเดินทางไปเจดีย์เพียงคนละ 10 บาท ลงเนินกันแบบซิ่ง ๆ ไปเลย หากใครอยากชิวเปลี่ยนบรรยากาศก็สามารถเดินลงไปที่เจดีย์ได้เช่นกัน แต่ถ้าไปถึงช่วงบ่าย ๆ แนะนำ เป็นซาเล้งดีกว่านะคะ ไม่เกิน 10 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ หลังจากนี้เราก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดตราดอย่างรีบเร่ง และหลังวันทำงาน เราก็เก็บกระเป๋า เพราะตอนนี้เหลือเวลาอีก 1 คืน กับอีก 1 วัน เราเลยเริ่มเที่ยวใน จ.ตราดบ้าง ด้วยการไปหาดทรายดำที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ทำงานเราเท่าไรนัก และเพราะวิวนี้นี่แหละ ที่ทำให้เราเห็นเกาะช้าง เราจึงเริ่มต้นคุยกันว่า เราไปเกาะช้างกันดีไหม และไกด์ของเราก็บอกมา เดี๋ยวพาไป! หัวหน้าแก๊งก็ยังลังเลเราจะไปทันเรือไหม เรือมีกี่โมง ... หลายสิ่ง เราจึงเริ่มหาข้อมูลว่าพักที่ไหน ยังไงดี เพราะไม่ได้เตรียมตัวมาเกาะช้าง และระหว่างนั้น หัวหน้าแก๊งขอแวะแปปนึง เมื่อเรายังหาข้อสรุปไม่ได้ก็มาโผล่ที่นี่ ขอถ่ายรูปแปป เดินเล่นร่าเริงถ่ายรูป เผลอนิดเดียวไกด์ได้โทรติดต่อน้องที่เกาะให้หาที่พักให้เราเรียบร้อยแล้ว เราจึงตัดสินใจขั้นเด็ดขาดไปเกาะช้างแบบไม่พร้อมอะไรทั้งสิ้น เรามาถึงท่าเรือเฟอร์รี่แบบทุลักทุเล เพราะทางมืดมากไม่ค่อยมีไฟถนน โดยมี gps เป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวตอนนั้น เราขับเข้าไปซื้อตั๋วและต่อแถวเอารถขึ้นเรือ มีเพียง 2 คน คือไกด์และหัวหน้าแก๊งเราเท่านั้นที่เคยมา แต่ที่เหลือทุกคนรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ขึ้นเกาะด้วยเรือเฟอร์รี่ ขับไปซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่ที่ช่องขายตั๋ว ค่าตั๋วเรือเฟอร์รี่ข้ามไปเกาะช้าง 80 บาท/คน/เที่ยว ค่าตั๋วเรือเฟอร์รี่ข้ามไปเกาะช้างสำหรับรถ 4 ล้อ 120 บาท/คัน/เที่ยว แล้วก็ขับรถไปต่อแถวขึ้นเรือ เที่ยวสุดท้าย พอดี รอบตัวมืดมาก ถึงแล้วจ้า เราเลี้ยวขวาออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าหาดคลองพร้าว ขับกลางคืนขึ้นเกาะช้างคนขับควรต้องเชี่ยวชาญระดับนึง เพราะมีทั้งทางขึ้นเขา โค้งหักศอก เกือบตลอดทางในช่วงแรก พอมาถึงก็เก็บของเข้าที่พักอันฉุกละหุกมากของเรา ที่ได้มาคืนละ 300 บาท ราคาห้องพัดลม 2 คน อีกห้องนอน 3 คน ใหญ่กว่า เพิ่ม อีก 50 บาท ที่นี่เหมาะกับ backpacker มาก ไว้สำหรับนอนจริง ๆ 😅 เก็บของเสร็จก็ออกไปเดินเล่นเบา ๆ ยามคำ่คืน เพราะทุกคนเสี้ยนทะเล! ฮ่า ๆ ๆ ร่างกายต้องการทะเลสุด เราเดินไปหาดด้วยการดูจาก gps แล้วก็เดินทะลุซอยลงหาด แต่ขอเตือนว่ากลางคืนสำหรับสาว ๆ แล้ว ไม่ควรเดินคนเดียวนะจ๊ะ เพราะมืดมาก พอเดินเล่นพอหอมปากหอมคอ ฟังเพลงยามคำ่คืนแล้วก็เดินกลับที่พักที่อยู่ไม่ไกลนัก แล้วเริ่มวันใหม่ด้วยการขับรถไปใส่บาตรหน้าวัดคลองพร้าว แล้วหาอะไรกินรองท้องง่าย ๆ ก็หนีไม่พ้นโจ๊กและต้มเลือดหมูหน้าวัดนั่นเอง กินเสร็จก็พร้อมเล่นน้ำแล้วจ้า ขับรถย้อนกลับมาแถวหาดคลองพร้าว แล้วเดินทะลุซอยเข้าไป ก็เจอหาดทรายสะอาดตา นำ้ทะเลใสมากกก บรรยากาศเงียบสงบ น่าจะเป็นเพราะช่วง low season ด้วย คนเลยน้อยมาก เราเดินผ่านทางเข้าโรงแรม siam cottage ที่เป็นบังกะโลน่ารัก พลางหมายมั่นว่ามาคราวหน้าต้องที่นี่แหละ มาจนถึงหาด เราดื่มด่ำกับความเงียบสงบ ฟ้าและทะเล ฟังเสียงของคลื่นกระทบฝั่ง พักผ่อนร่างกายและจิตใจ แล้วก็หมดเวลา หลังจากว่ายน้ำอย่างปลาแล้ว ก็เก็บของแล้วกลับไปที่ท่าเรือเฟอร์รี่ ซึ่งมีที่เดียวบนเกาะนะ! แล้วก็อำลาเกาะช้าง ทะเลตอนกลางวันช่างแตกต่างจากตอนกลางคืนมากมาย 😍😍 📸 : iphone xr ช่วงที่ไปเป็นช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนจ้า