มะละกอ พืชล้มลุก ปลูกง่าย โตเร็ว ให้ผลผลิตดี หากจะคิดหาผลไม้ที่เป็นที่ต้องการของชาวบ้านในเขตภาคอีสาน ชื่อผลไม้ที่คุณจะได้ยืนคำตอบจากปากชาวบ่านเยอะที่สุดก็น่าจะมีเจ้าผลไม้ชื่อ บักหุ่ง หรือภาษากลางคือ มะละกอ เป็นรายชื่อต้นๆเลยทีเดียว เพาะพืชชนิดนี้ชาวบ้านกินได้ทั้งผลดิบ และผลสุก โดยเฉพาะผลดิบที่มีการนำไปทำอาหารได้หลากหลาย เช่น แกงส้ม และที่โด่งดังไปถึงต่างชาติเลย คือ เมนู ส้มตำ อาหารขึ้นชื่อแห่งเมืองอีสานซึ่งตอนนี้มีขายทุกภาคของประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และความแซบนัวของปลาร้าแล้วยิ่งชูรสให้มะละกออร่อยยิ่งขึ้น ในบทความนี้ผู้เขียนจะขอมาอธิบายการปลูกและจัดการพื้นที่การปลูก มะละกอในพื้นที่แปลงผสมผสาน ให้เกิดรายได้กับตัวเกษตกร และเป็นแหล่งอาหารสำหรับสมาชิกในครับเรือนอีกด้วย ซึ่งจะขอเล่าในสิ่งที่เกิดขึ้นในสวนของผู้เขียนเอง เพื่อจะได้เป็นการอธิบายด้วยประสบการณ์จริง ของผู้เขียนการปลูกในสวนของผู้เขียนนั้นมีกล้วยเป็นไม้เดิมอยู่แล้ว ซึ่งปลูกในระยะห่าง 3×3 เมตร จึงมีระยะห่างระหว่างต้นกล้วย 3เมตร เมื่อนำต้นมะละกอไปปลูกจะมีระยะห่างจากต้นกล้วย 1.5 เมตร ซึ่งจากประสบการณ์ของผู้เขียนถือว่าเพียงพอในการเจริญเติบโตและให้ผลผลิต ผู้เขียนจึงลงมือปลูก ต้นมะละกอ จำนวน 200 ต้น ซึ่งใช้เนื้อที่เกือบ2ไร่ สำหรับการรดน้ำ ทางสวนใช้ระบบน้ำมินิสปริงเกอร์ในการให้น้ำ ซึ่งจะช่วยในเรื่องการประหยัดเวลาได้มาก แต่ถ้าหากผู้อ่านมีเวลาเหลือเยอะก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำระบบน้ำก็ได้ เมื่อได้อายุประมาณ1เดือน ทางสวนจะให้ปุ๋ยครั้งแรก คือ ใช้มูลไก่ ผสมแกลบดิบ ใส่รอบโคนต้นประมาณ 1กิโลกรัมต่อต้น และลดน้ำอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมะละกออายุได้ประมาณ7เดือนก็จะเริ่มให้ผลผลิต ในช่วงนี้ต้องให้ปุ๋ยมลูไก่ผสมแกลบดิบอีกรอบ เพื่อช่วยบำรุงให้ได้ผลผลิตที่ดี และจะช่วยในเรื่องการติดดอกได้ดีอีกด้วย และที่สำคัญคือ ต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้ดินแห้งเพราะจะทำให้ระบบรากเสียหาย ทำให้ได้ผลผลิตไม่เต็มที่หลังจากออกดอกประมาณ1-2เดือน ผลมะละกอจะแก่จัดพร้อมสำหรับการเก็บผลผลิตขายในรูปแบบผลดิบ ช่วงนี้ถ้าราคาดีหรือมีผู้ค้าต้องการผลผลิตก็สามารถขายได้ แต่อาจจะได้ราคาที่น้อย หากปล่อยไปอีกสักประมาณ15-20วัน ผลมะละกอจะห่าม พร้อมสำหรับเก็บขายแบบผลสุก ซึ่งจะมีราคาที่ดีกว่าผลดิบ2เท่าตัว ซึ่งทางสวนของผู้เขียนเองจะนิยมขายในรูปแบบผลสุกมากกว่าผลดิบ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ ความต้องการของตลาดในพื้นที่ด้วย ทางสวนของผู้เขียนมักจะขายในรูปแบบผลสุกเพราะจะสามารถตั้งราคาในการขายได้เอง เมื่อผลผลิตเราดี มีคุณภาพ เขาก็จะเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ทั้งเรื่องราคา และลูกค้าที่ต้องการของจากเรา สุดท้ายนี้ ผู้เขียนหวังว่าเนื้อหาข้างต้นจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย สุดท้ายนี้ ขอกล่าวคำว่า ต้นไม้โตได้ด้วยเงาคน สวัสดี ภาพถ่ายโดยผู้เขียนทั้งหมดเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !