อื่นๆ
ปอบนาง

เสียงไก่ร้องตกใจกลางดึก ตามมาด้วยเสียงเห่ากระโชกของเจ้าด่างกับเจ้าดำ หมาพันทางที่เลี้ยงไว้ เจ้าของบ้านสะดุ้งตื่นรีบคว้าไฟฉายติดมือลงจากบ้าน ภาพที่เห็นภายในเล้าไก่ก็คือ ขนไก่กระจัดกระจาย ที่น่าสยดสยองกว่านั้นก็คือยังมีเศษเครื่องในและเลือดกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ หลังจากคืนนั้นเป็นต้นมา ดูเหมือนว่ายังมีอีกหลายบ้านเจอเหตุการณ์คล้ายๆกัน ทำให้เลื่องลือไปว่า ปอบได้กลับมาอาละวาดอีกครั้งแล้ว ปอบหายไปจากหมู่บ้านไปเกือบสิบปีก่อน นับตั้งแต่พระธุดงค์รูปหนึ่งเดินทางผ่านมาแล้วช่วยขจัดปัดเป่าจนหมู่บ้านที่เคยเกิดปัญหาเรื่องปอบสงบสุข ผู้ใหญ่บ้านสูงวัยเรียกประชุมลูกบ้านแล้วต่างลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ปอบได้กลับเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านอีกครั้งหนึ่งแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
“ข้ารู้แล้วว่าใครเป็นปอบ” คำพูดดังกล่าว ทำให้สายตาทุกคู่หันไปมอง ‘นาง’ เธอเป็นหม้ายมานาน ความที่ยังสาวยังสวยสะพรั่ง ชักนำพาให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เดินทางเข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตมากมาย แต่เธอก็เลือกที่จะอยู่ลำพังกับมารดาสูงวัย ผู้เจ็บป่วยออดๆแอดๆในบ้านไม้โบราณใต้ถุนสูง แวดล้อมด้วยพืชผักผลไม้ที่เธอเป็นคนปลูกเพื่อเลี้ยงชีพ เธออายุ 25 ปีแล้ว แต่งงานครั้งแรกตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น การครองคู่ดูเหมือนจะล้มเหลว เพราะต่างฝ่ายต่างยังเยาว์ หลังจากนั้น เธอจึงกลับมาอยู่บ้าน
Advertisement
Advertisement
“ไม่จริงนะ ไม่จริง” หม้ายสาวปฏิเสธเสียงสั่น ใบหน้าซีดเผือด เธอรู้รสชาติของการถูกปรักปรำดีว่า มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดทรมานเพียงใด โดยเฉพาะในสังคมที่เชื่อเรื่องเร้นลับจนยากที่จะหาเหตุผลใดๆมาอธิบาย ชีวิตจริงไม่ใช่นิยายหรือละคร การยืนหยัดต่อสู้กับความเชื่อที่ฝังหัวชาวบ้านเรื่องปอบของหม้ายสาวกับแม่ผู้ชราไม่มีทางเป็นไปได้ยาวนานนัก เพราะไม่มีใครสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพิงคนอื่น เพียงไม่กี่สิบวันหลังจากนั้น นาง-หม้ายสาวผู้น่าสงสารยอมเข้าไปหาผู้ใหญ่บ้าน ขอร้องทั้งน้ำตาให้พาแม่ของเธอเข้าโรงพยาบาล ส่วนเขาจะต้องการอะไรจากเธอก็สุดแท้แต่ นางเหี่ยน หญิงชราผู้ป่วยกระเสาะกระแสะมาแรมปี เนื่องจากไม่ได้รับการรักษาที่ดีพอ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลประจำจังหวัดโดยรถยนต์ของผู้ใหญ่บ้านผู้มีเลศนัย ในคืนหนึ่ง รถยนต์ของผู้ใหญ่บ้านสูงวัยก็พาหม้ายสาวที่มีหน้าที่ไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาลเลี้ยวเข้าโรงแรม ทุกอย่างสมความปรารถนาของผู้ใหญ่บ้านสูงวัยผู้ยังเต็มไปด้วยตัณหาราคะ
Advertisement
Advertisement
นางเหี่ยนนอนอยู่โรงพยาบาลแรมเดือน ผู้ใหญ่บ้านสูงวัยอาศัยช่วงเวลาดังกล่าว แอบพาหม้ายสาวเทียวเข้าเทียวออกระหว่างโรงพยาบาลกับโรงแรมโดยไม่มีใครติดใจสงสัยนัก เพราะเบื้องหน้าของผู้ใหญ่บ้านดูเป็นคนน่าเคารพนับถือคนหนึ่ง เมื่อได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาการของนางเหี่ยนดีวันดีคืน จนกระทั่งหายจากอาการป่วยเป็นปกติ คุณหมออนุญาตให้กลับบ้านได้ ผู้ใหญ่บ้านอาสาขับรถมารับด้วยตัวเอง
นางเหี่ยนพอจะรู้มาบ้างว่าความสัมพันธ์ระหว่างลูกสาวของนางกับผู้ใหญ่บ้านเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหน สำหรับนางแล้วแค่เป็นห่วงอนาคตของลูกสาวเท่านั้น ตัวเองไม่เคยคิดถึง เมื่อลูกสาวเลือกที่จะเดินเส้นทางใหม่ มันอาจไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนัก แต่ก็ต้องสนับสนุนเพื่อการมีชีวิตอยู่ต่อ
อนาคตของหม้ายสาวไม่มีวันพบกับความสงบสุข เพราะภรรยาของผู้ใหญ่บ้านสูงวัยนั้นคงไม่ยอมให้สามีของตัวเองรับเลี้ยงหญิงสาวอีกคน เว้นเสียแต่...ต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ผู้ใหญ่บ้านเรียกประชุมลูกบ้าน เพื่ออธิบายถึงเหตุการณ์เรื่อง ‘ปอบ’ ว่าเป็นความเข้าใจผิด ผู้ใหญ่บ้านลงทุนยืนยันหนักแน่นว่า ปอบเป็นเพียงความเข้าใจผิดเท่านั้น ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าอิทธิพลของผู้ใหญ่บ้านสูงวัยผู้นี้มีอยู่จริง ดังนั้น ไม่มีใครติดใจเรื่องปอบ แม้ว่าจะยังสงสัยอยู่ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับเป็ดไก่ที่ถูกฆ่าและอีกเป็นจำนวนมากหายไปอย่างลึกลับ ข่าวคราวเรื่องปอบไม่ได้เลือนหายไปจากหมู่บ้านแห่งนี้และหมู่บ้านใกล้เคียง
Advertisement
Advertisement
“สักวัน เรื่องปอบจะเลือนหายไปจากความทรงจำของชาวบ้านเองแหละนาง” นั่นคือคำปลอบโยนของผู้ใหญ่บ้านสูงวัยตัณหากลับ อาจจะจริงอย่างคำพูดของผู้ใหญ่บ้านสูงวัย เพราะหลังจากนั้นไม่นานนัก ไม่เคยมีใครปริปากพูดถึงเรื่องปอบ แปลว่าหมู่บ้านกลับคืนสู่สภาวะสงบสุขอีกครั้งอย่างแท้จริง ดึกสงัดของอีกหลายเดือนต่อมา ผู้ใหญ่บ้านสูงวัยแวบมาหาหม้ายสาวกลางดึก หลังจากที่หาโอกาสมาหลายวัน หม้ายสาวสนองความต้องการของชายชราตัณหากลับอย่างถึงใจจนเขาผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ใกล้สว่าง ผู้ใหญ่บ้านสูงวัยสะดุ้งตื่น ตาลีตาเหลือกลงจากบ้านของหม้ายสาว ขณะกำลังก้าวพ้นเขตบ้าน หูแว่วได้ยินเสียงไก่ร้อง สายตาของตาเฒ่าตัณหากลับคุ้นชินกับแสงสลัว และในแสงสลัวๆนั้นเอง ทำให้เท้าที่กำลังก้าวพลันหยุดชะงัก ม่านตาขยายเบิ่งกว้างแล้วถ่างออกสุดขีด เมื่อเห็นใครคนหนึ่งในสภาพยืนถือซากไก่ในมือ
คุณพระช่วย! ผู้ใหญ่บ้านสูงวัยอ้าปากค้าง หลุดปากเสียงตะกุกตะกักเมื่อเห็นว่าเป็นหม้ายสาวในสภาพที่เปลี่ยนไปจากเดิม “นะ...นาง…อะ...เอ็ง...เป็น...ปะ...ปอบ!”
อ.อเวจี เขียน
ภาพโดย Enrique Meseguer จาก Pixabay
ความคิดเห็น
