อื่นๆ
ศุกร์สิบสามสยอง

ภาพโดย Andreas Lischka จาก Pixabay
ศุกร์สิบสามสยอง
พยาบาลสาวใหญ่เหลือบมองปฏิทินบนผนัง สายตาเลื่อนไปหยุดอยู่ที่...วันศุกร์ ที่ 13 อย่างไม่ได้ตั้งใจ นาทีนั้นภาพของคุณหมอหนุ่มคนหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาประจำการก็ผุดขึ้นในความคิด พยาบาลสาวใหญ่ลุกจากเก้าอี้ที่นั่งพักผ่อน ชงกาแฟนำเข้าไปในห้องทำงานของคุณหมอคนใหม่
คุณหมอหนุ่มเงยหน้าจากเอกสารบนโต๊ะมองหน้าผู้เพิ่งก้าวเข้ามาในห้อง
“ฉันเห็นคุณหมอยุ่งตั้งแต่เช้า ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยใช่มั้ยคะ ก็เลยชงกาแฟมาให้ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่ถือวิสาสะ”
“ขอบคุณครับพี่...”
“ฉันชื่อพรค่ะ”
“ขอโทษนะครับ ผมยังไม่รู้จักใครเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ งานที่นี่ค่อนข้างยุ่งมากจริงๆค่ะ”
คุณหมอเป็นชายหนุ่มวัยยังไม่ถึงสามสิบปีด้วยซ้ำ ผิวขาวจนซีด สวมแว่นตาหนาเตอะ ดวงตาเบื้องหลังแว่นนั้นดูเป็นคนมุ่งมั่นจริงจัง จากใบปริญญาแสดงถึงความรู้ความสามารถที่เขามีอยู่ ไม่จำเป็นต้องเลือกมาอยู่โรงพยาบาลชุมชนประจำอำเภอติดชายแดน มีเหตุผลเดียวที่คุณหมอหนุ่มเลือกมาที่นี่คือ อุดมการณ์
Advertisement
Advertisement
ส่วนพยาบาลพร ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลประจำอำเภอแห่งนี้ตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ เส้นทางอาชีพพยาบาลของพรไม่มีอะไรโลดโผน มีเพียงหน้าที่ความรับผิดชอบเหมือนๆเดิมทุกวันไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับเธอแล้ว ไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายมีความต้องการมากไปกว่านี้ การดูแลคนไข้แต่ละคน แต่ละรายเป็นไปอย่างเสมอภาคทัดเทียมกัน
ชีวิตของคนไข้ก็คือชีวิตของเธอ คนไข้มาโรงพยาบาลด้วยความเชื่อมั่น เธอก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองจนสุดความสามารถเช่นกัน
ตำแหน่งของพร แม้เขยิบจากพยาบาลเด็กๆกลายเป็นหัวหน้าพยาบาล แต่การทำหน้าที่ของเธอยังไม่เคยเปลี่ยน ขณะยังเด็กทำงานอย่างไร ปัจจุบันก็ทำอย่างนั้น
เมื่อมาเห็นคุณหมอหนุ่มจากแดนไกลเลือกมาลงในโรงพยาบาลชุมชนเล็กๆ และได้เห็นการทุ่มเท เธอจึงรู้สึกชื่นชมเป็นการส่วนตัว
คุณหมอหนุ่มมีท่าทีผ่อนคลายขึ้นหลังจิบกาแฟฝีมือของพยาบาลสาวใหญ่ เขาชวนคุยซักพัก สัญญาณมือถือของเขาดังขึ้น พรจึงเลี่ยงออกจากห้อง
Advertisement
Advertisement
เวลาในโรงพยาบาลดูจะถูกบีบคั้นโดยจำนวนคนไข้ที่เข้ามาพึ่งหมอมากกว่าตารางกำหนดเวลาทำงานปกติ พยาบาลพรเองในฐานะหัวหน้าพยาบาลในตึกผู้ป่วยใน ก็แทบจะหาเวลาว่างได้ค่อนข้างยาก เพราะเธอทำงานมากกว่าหน้าที่ตัวเอง
“พี่พรสังเกตหรือเปล่าคะว่าคุณหมอดูเครียด ๆยังไงไม่รู้ค่ะ”
พยาบาลเด็กรุ่นน้องเปรยกับพยาบาลพรในอีกหลายวันต่อมา
“เครียดไง คนไข้มากเหลือเกินนี่”
“มันไม่ใช่ยังงั้นนะคะ”
“ยังไง”
“หนูรู้สึกว่าคุณหมอเหมือนมีเรื่องอะไรในใจมากกว่าค่ะ ไม่เกี่ยวกับงานเลย เรื่องงานน่ะ คุณหมอดูตั้งใจเหมือนเดิม”
“เราท่าจะว่างเกินไปมั้ย ถึงได้แอบสังเกตอาการของคุณหมอได้ละเอียดซะขนาดนั้น”
“จริงๆนะคะพี่ หนูรู้สึกแบบนั้นจริงๆ”
“ไม่มีอะไรหรอกน่า”
พยาบาลพรไล่รุ่นน้องให้ไปทำหน้าที่ แต่กลับเป็นฝ่ายสังเกตคุณหมอหนุ่มผู้นั้นเสียเอง และรู้สึกเช่นเดียวกับคำพูดของพยาบาลรุ่นน้อง
Advertisement
Advertisement
คุณหมอหนุ่มดูเครียด เหมือนมีเรื่องส่วนตัวจริงๆ
คนหนุ่มวัยนี้ เรื่องเครียดที่สุดคงไม่มีเรื่องใดเกินเรื่องของความรักละกระมัง พยาบาลสาวใหญ่อดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ และยังอยากจะเข้าไปช่วยเหลือคุณหมอหนุ่ม อย่างน้อยเพื่อให้เขาได้ระบายความในใจออกมาบ้างก็ยังดี
เย็นวันจันทร์ พยาบาลพบหน้าคุณหมอแค่ไม่กี่นาที คุณหมอก็ถูกตามตัวไปดูแลคนไข้ฉุกเฉิน และหลังจากวันนั้น พยาบาลพรก็แทบไม่มีโอกาสได้เจอหน้าคุณหมออีก จนกระทั่งวันศุกร์ วันนี้พยาบาลพรไม่ได้อยู่เวร เธอเองเหนื่อยมาตลอดสัปดาห์ ต่อให้ใจสู้เพียงใด ก็ไม่อาจฝืนร่างกาย
พยาบาลสาวใหญ่ขับรถกลับมาถึงบ้าน เปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ สระผมแล้วเอนร่างลงบนเตียง ม่านตารูดปิดลง หลับใหลเข้าสู่นิทรารมย์อย่างรวดเร็ว
เธอฝันเห็นคุณหมอหนุ่มคนนั้น ในความฝัน เหมือนเธอกำลังพยายามตามหาคุณหมอ
“คุณหมอคะ...คุณหมอ”
สีหน้าของพยาบาลพรในความฝัน ดูหวาดหวั่น ตื่นตระหนก คล้ายมีเรื่องเร่งด่วน
“มีใครเห็นคุณหมอบ้าง?”
พยาบาลพรเที่ยวตามหาคุณหมอพล่านไปทั้งตึก
“ไม่เห็นค่ะ โทร.เข้ามือถือสิคะ” พยาบาลรุ่นน้องบอก
“โทร.แล้วคุณหมอไม่รับสาย”
“ที่พักล่ะคะ?”
“ไม่มี พี่ไปดูมาหมดแล้ว”
“ห้องผ่าตัดล่ะคะ?”
“ไม่มี” พยาบาลพรส่ายหน้า “บอกตามตรง พี่เป็นห่วงคุณหมอนะ”
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมพี่ถึงได้ร้อนรนขนาดนี้?”
“ไม่รู้สิ”
“พี่ว่าแต่พวกหนูนะคะ หลายวันมานี้พวกหนูรู้สึกเหมือนกันเลยว่าคุณหมอดูเครียดๆเหมือนมีเรื่องส่วนตัว แต่พี่บอกว่าไม่ใช่”
“จริงๆพี่ก็รู้สึกแบบเดียวกับพวกเรา”
“งั้นหรือคะ?”
“ใช่ พี่ถึงได้เป็นห่วงอยู่นี่ไง”
“งั้นพวกเราจะช่วยตามหาอีกนะคะ”
“ดีๆ ช่วยกัน ถ้าเจอโทร.บอกพี่ด้วยล่ะ”
“ค่ะพี่พร”
พยาบาลเด็กๆเลี่ยงจากไป พยาบาลพรก็เริ่มต้นออกตามหาคุณหมอหนุ่มอีกครั้ง ใจวิตกกังวลยิ่งขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ จนกระทั่งมาถึงอาคารผู้ป่วยนอก 4 ชั้น ชั้นที่สี่
พยาบาลพรชะงักเท้า เมื่อมองเห็นร่างของคุณหมอหนุ่มยืนอยู่
“คุณหมอคะ”
คุณหมอหนุ่มสะดุ้งเฮือก ค่อยๆหันใบหน้ามาทางต้นเสียงเรียก
“อ้อ... พี่พร มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
พยาบาลสาวใหญ่ยิ้มอย่างโล่งอก “เปล่าหรอกค่ะ พอดีฉันเดินผ่านมา เห็นคุณหมอยืนอยู่ก็เลยเข้ามาทักน่ะค่ะ เผื่อคุณหมออยากได้ความช่วยเหลืออะไร”
“ไม่หรอกครับพี่พร ขอบคุณมากครับ”
“ไม่มีอะไรแน่นะคะ”
“ครับ” คุณหมอยืนยันน้ำเสียงหนักแน่น แต่จะด้วยเหตุใดก็ตาม พยาบาลพรกลับรู้สึกว่าแววตาของคุณหมอหนุ่มแฝงเอาไว้ด้วยความทุกข์บางอย่าง เป็นความทุกข์ชนิดไร้หนทางออกเสียด้วย เมื่อคุณหมอยืนยันว่าไม่ได้มีอะไร เธอก็ไม่มีสิทธิ์จะมาเซ้าซี้ถามเอาความจริง
พยาบาลพรหมุนร่างก้าวจากไป
ไม่วายเหลียวมองหลัง และแล้วพยาบาลสาวใหญ่ก็มีอาการสะดุ้งเฮือก เพราะ...ไม่เห็นส่วนศีรษะของคุณหมอหนุ่ม
หัวหาย!
พยาบาลพรกะพริบตา คราวนี้กลับเห็นส่วนหัวของคุณหมอหนุ่มตามเดิม คุณหมอหนุ่มคงรู้สึกว่ามีคนกำลังมองอยู่ จึงได้หันมาทางพยาบาลสาวใหญ่
อีกครั้งหนึ่งที่พยาบาลพรสะดุ้งเฮือกสุดตัว อะไรกันเนี่ย ใบหน้าของคุณหมอหนุ่มโล่งเตียน ไม่มีอวัยวะส่วนที่เป็นตา จมูก และปาก เป็นใบหน้าโล่งๆ! พยาบาลสาวใหญ่กะพริบตาหลายครั้ง จึงได้เห็นใบหน้าของคุณหมอหนุ่มกลับมาเป็นปกติดังเดิม
“มีอะไรหรือเปล่าครับพี่พร?”
เสียงคุณหมอถาม
“ปะ...เปล่าค่ะ”
พยาบาลสาวใหญ่ตอบเสียงตะกุกตะกักแล้วรีบขยับก้าวออก จวนถึงบันไดทางลงอยู่แล้วก็ยังอดเหลียวมองหลังอีกครั้งไม่ได้
คราวนี้เธอสะดุ้งสุดตัว เพราะร่างของคุณหมอหนุ่มได้ปีนข้ามระเบียง
“คุณหมอจะทำอะไรคะนั่น?”
พยาบาลพรร้องถาม
ใบหน้าของคุณหมอหนุ่มหันกลับมามอง รอยยิ้มที่ปรากฏนั้นดูเศร้ากว่าทุกครั้ง ไม่มีคำตอบจากคุณหมอหนุ่มว่าปีนข้ามรั้วไปยืนหมิ่นเหม่อย่างนั้นทำไม
พยาบาลพรใจหาย รู้ด้วยสัญชาตญาณว่าคุณหมอหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ เธอวิ่งเข้าไปหา แต่ไหนเลยจะทันการณ์
ร่างของคุณหมอหนุ่มลอยละลิ่วลงสู่เบื้องล่าง
พริบตาเดียว ร่างนั้นก็ลงไปอยู่กับพื้นในสภาพมือเท้ากาง ใบหน้ากระแทกกับพื้นคอนกรีต มองเห็นเลือดปนสมองกระจาย
“กรี๊ดดดดด!”
พยาบาลพรร้องออกมาสุดเสียง ก่อนจะสะดุ้งตื่น เหงื่อผุดพราวชุ่มร่าง แม้จะรู้ว่าเป็นเพียงความฝัน แต่ยังรู้สึกว่า ภาพที่ปรากฏในความฝันนั้น ช่างชัดเจนเหลือเกิน และที่รู้สึกว่ามันเหมือนกับเป็นเหตุการณ์จริงก็เพราะ... มันเคยเกิดขึ้นมาเมื่อก่อนหน้านี้
เสียงเคาะประตู
สาวใหญ่พรลุกไปเปิด เห็นแม่ยืนมองอยู่
“เป็นอะไรหรือเปล่าร้องซะลั่นบ้าน?”
“ขอโทษจ้ะแม่” สาวใหญ่บอกมารดาผู้สูงวัย “หนูฝันร้ายน่ะค่ะ”
“สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนนะ จะได้ไม่ฝันร้าย”
“จ้ะแม่ แม่จ้ะ วันนี้วันอะไรแน่คะหนูจำไม่ได้”
ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นวันอะไร ก็ยังอดถามมารดาอีกครั้งไม่ได้เพื่อความมั่นใจ
“วันศุกร์” มารดาหันมาตอบ “ศุกร์ที่สิบสาม”
“ศุกร์ที่สิบสาม”
พยาบาลพรทวนคำ ใจคอไม่สู้ดี และไม่ทันจะขาดคำด้วยซ้ำ มือถือในห้องส่งเสียง พยาบาลสาวใหญ่รีบไปหยิบมากดรับ
“ฮัลโหล”
“พะ...พี่พรคะ เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ”
เสียงของพยาบาลรุ่นน้องที่อยู่ประจำเวร
“คุณหมอค่ะ คุณหมอ...”
“หา! เกิดอะไรขึ้น?”
“ไม่รู้ค่ะ รู้แต่ว่าคุณหมอกระโดดลงมาจากชั้นบนของตึกผู้ป่วยนอก บาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ผอ.กำลังช่วยอยู่ในห้องฉุกเฉิน”
“คุณพระช่วย!”
พยาบาลพรหลุดปากอุทาน ใจหวิวๆเหมือนจะเป็นลม แต่ก็สามารถตั้งสติได้ในเวลาต่อมา เธอรีบไปที่โรงพยาบาล ทว่าเป็นการไปเพื่อรับรู้ข่าวร้ายของคุณหมอหนุ่มว่า เขาได้เสียชีวิตแล้ว!
จู่ๆคุณหมออนาคตไกลไฟแรงคนหนึ่งต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้ ย่อมสร้างความกังขา โดยเฉพาะกับครอบครัวของคุณหมอเอง พยาบาลพรเข้าใจถึงความรู้สึกเช่นนี้ดี เพียงระยะเวลาไม่นานนักที่ได้ทำงานร่วมกับคุณหมอหนุ่ม เธอย่อมรู้ดีว่าการสูญเสียบุคลากรมีฝีมือเป็นความสูญเสียที่ไม่สามารถวัดได้ว่ามหาศาลเพียงใด แต่ก็นั่นแหละ เธอเองก็อยากรู้สาเหตุว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
คืนนี้ ไม่ใช่เวรของพยาบาลพร เธอออกเวรแล้ว ถือโอกาสนั้นไปเยี่ยมคนไข้ที่รู้จักเป็นพิเศษ ออกจากห้องของคนไข้ที่รู้จัก พยาบาลพรอดคิดถึงเรื่องของคุณหมอหนุ่มอีกไม่ได้ จึงเดินขึ้นตึกผู้ป่วยนอก บริเวณที่คุณหมอหนุ่มดิ่งลงสู่พื้น
ภาพในความฝันผุดขึ้น มันชัดเจนเหลือเกินตอนที่เห็นคุณหมอหนุ่มทิ้งร่างลงสู่เบื้องล่าง แล้วเป็นเพราะอะไรกันแน่? พยาบาลสาวใหญ่ถอนใจ พยายามนึกปลง เพราะถึงอย่างไร ก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปเอาชีวิตของคุณหมอหนุ่มไฟแรงกลับคืนมาได้อีกแล้ว
เธอกำลังจะหมุนร่างก้าวกลับ... จู่ๆ กลับรู้สึกเหมือนมีคนกำลังยืนอยู่ตำแหน่งเดียวกับคุณหมอหนุ่ม เธอเหลียวไปมองแล้วอ้าปากค้าง
นั่นมันคุณหมอหนุ่มที่เพิ่งเสียชีวิตนี่ แต่เวลานี้พยาบาลสาวใหญ่ลืมเสียสนิทว่า เขาตายไปแล้ว รีบผวาเข้าไปหาพร้อมกับร้องเรียก
“คุณหมอคะ”
ใครคนนั้นหันมา ใช่เขาจริงๆ คุณหมอหนุ่มยิ้มให้เธออย่างเศร้าๆ
“อย่าค่ะคุณหมอ”
พยาบาลพรผวาเข้าไปหมายจะคว้าแขนเอาไว้ แต่...สัมผัสเพียงอากาศธาตุ ใจหายวูบ สติสัมปชัญญะกลับคืนมา
เธอหมุนร่างก้าวยาวๆลงจากตึก เป็นครั้งแรกที่รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างจับใจ ทั้งๆที่คุ้นเคยอยู่กับความตายแทบจะทุกเมื่อเชื่อวัน…
//**//
ความคิดเห็น
