ได้รับผลกระทบไปทุกวงการสำหรับไวรัส COVID-19 ไม่เว้นแม้แต่วงการกีฬาในบ้านเรา ล่าสุด..! การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามที่ 2 ในชื่ออย่างเป็นทางการ OR PTT Thailand Grand Prix 2020 หรือ MotoGP ที่เราคุ้นหูกันดี ถือเป็นรายการระดับโลกที่ กกท. การกีฬาแห่งประเทศไทย ทุ่มทุนกว่า 400 ล้านบาท ได้ลิขสิทธิ์จัดการแข่งขันในฤดูกาล 2018-2020 เป็นเวลา 3 ปี ตามกำหนดเดิมจะมีขึ้นในวันที่ 20-22 มีนาคม 2563 มีอันต้องเลื่อนไปจัดในช่วงปลายปี วันที่ 2-4 ตุลาคม 2563 นี้แทน โดยจะมีขึ้นที่สนาม ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บนแผ่นดินจังหวัดบุรีรัมย์กันเช่นเคย ตามประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการของ MotoGP www.motogp.com/en/calendar ภาพโดย : https://pixabay.com/th/photos/1579045 แม้จะต้องเลื่อนการแข่งขัน แต่ถ้าเจาะลึกไปที่รายละเอียดปัจจัยต่าง ๆ กลับกลายเป็นว่าการตัดสินใจเลื่อนในครั้งนี้เข้าทางเราแบบเห็น ๆ เพราะจากเดิมเมื่อปีที่แล้วเราจัดในช่วงวันที่ 4-6 ตุลาคม 2562 ที่มีความเหมาะสมทุกอย่างทั้งเรื่องสภาพอากาศที่ไม่ร้อนจนเกินไป ตรงกับช่วงปิดเทอมที่สามารถพาครอบครัวมาชมได้แบบยาว ๆ และยังเริ่มเข้าฤดูท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติเริ่มหนีหนาวมาที่บ้านเรา ที่สำคัญ..! เป็นช่วงท้ายของฤดูกาลที่อยู่ในช่วงลุ้นแชมป์กันอย่างสนุก แต่ในฤดูกาล 2020 ทาง ดอร์น่า สปอร์ต ผู้ถือลิขสิทธิ์ MotoGP ได้จัดโปรแกรมสลับให้รายการใหญ่ในบ้านเราไปอยู่ในสนามที่ 2 ช่วงต้นปี ตามกำหนดเดิมคือ 20-22 มีนาคม 2563 ท่ามกลางอุณหภูมิกว่า 40 องศาในบ้านเราที่กำลังเข้าสู่ช่วงต้นฤดูร้อน ไม่เหมาะสำหรับทั้งนักท่องเที่ยว และนักกีฬาแน่นอน ถึงกับต้องเตรียมเปลี่ยนแผนเป็นการแข่งขันแบบ Night Race แข่งขันตอนกลางคืนแบบเดียวกับประเทศกาตาร์ แต่ประเมินแล้วต้องทุ่มงบประมาณปรับสภาพสนามให้เหมาะสม ทั้งเรื่องแสงไฟ และสิ่งอำนวยความสะดวกยามค่ำคืนอีกเป็นเงินก้อนโต พอได้เลื่อนไปเป็นเดือนตุลาคมแบบที่เราต้องการจัดแต่แรกอยู่แล้ว แทบจะถือว่าเป็นเรื่องดีเลยทีเดียว ภาพโดย : https://pixabay.com/th/photos/959812 และในฤดูกาลนี้แชมป์โลกคนล่าสุด มาร์ค มาร์เกซ นักบิดชาวชาวสเปน จากทีม เรปโซล ฮอนด้า ผู้ชนะสนามในบ้านเราเมื่อปีที่แล้ว ประกาศพร้อมเต็มที่สำหรับการมาป้องกันแชมป์ ยังเป็นเต็งหนึ่งเช่นเคย แต่ยังต้องขับเคี่ยวกับเต็งสองอย่าง อันเดรีย โดวิซิโอโซ รองแชมป์ฤดูกาลที่แล้วชาวอิตาลี จากทีมดูคาติ ที่หมายมั่นปั้นมือจะโค่นบัลลังก์แชมป์จากมาร์เกซในฤดูกาลนี้อย่างเต็มที่ แต่ห้ามประมาท มาเวริค บีญาเลส นักบิดดาวรุ่งชาวสเปนวัย 25 ปี ที่เพิ่งต่อสัญญากับทีมยามาฮ่าไปอีก 2 ปี ได้รับการจับตามองว่ามีโอกาสสูงทีเดียวที่จะสอดแทรกลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ ส่วนในรายอื่นที่น่าจับตาคงหนีไม่พ้น อเล็กซ์ ลินซ์ ขวัญใจชาวสเปนอีกคนจากทีมซูซูกิ ที่กวาดแชมป์ไป 2 สนามในฤดูกาลก่อน รวมถึง ฟาบีโย กัวร์ตาราโร วัยเพียง 20 ปีจากฝรั่งเศสของทีมเปโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ที่จบอันดับ 5 เมื่อฤดูกาลที่แล้วเป็นอีกคนที่จะทำให้สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ต้องร้อนฉ่าลุกเป็นไฟ ภาพโดย : https://pixabay.com/th/photos/2017-2702059 คาดการณ์ว่าการแข่งขันที่จะมีในช่วงปลายปีนี้ จะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดการท่องเที่ยวในภาพรวมกว่า 3,000 ล้านบาท เป็นผลดีกับการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างหนักจากไวรัส COVID-19 และทำให้วงการกีฬาในบ้านเรากลับมาตื่นตัวคึกคักกันอีกครั้ง ที่สำคัญโอกาสที่นักกีฬาแข่งรถระดับโลกจะมารวมตัวในบ้านเราอย่างพร้อมหน้าไม่ใช่เรื่องง่าย โดยราคาบัตรเข้าชมเริ่มต้นที่ 2,000 บาท ไปจนถึง 4,000 บาท เปิดจำหน่ายทาง AllTicket ผ่านช่องทาง www.allticket.com/event/ORTHAILANDGRANDPRIX2020 ในเร็ว ๆ นี้ หากปัญหาไวรัส COVID-19 คลี่คลายเราจะได้รับชมตามกำหนดการเดิมอย่างแน่นอน ภาพหน้าปก : https://pixabay.com/th/photos/2850983