ชุมชนบ้านสายยาวได้ชื่อว่าเป็น “หมู่บ้านท่องเที่ยวที่ยาวและหวานสุดๆ” เมื่อแรกคนรุ่นปู่ย่าตาทวดเข้ามาตั้งรกรากใหม่ๆ หมู่บ้านเล็กๆ นี้ถูกเรียกติดปากกันว่า “บ้าน หนองเครือ” โดยเรียกตามชื่อหนองนํ้าบริเวณที่สร้างวัดของชุมชนหรือวัดโนนศิลาลัย แต่ชื่อหมู่บ้านที่ได้รับการตั้งชื่อเป็นทางการคือ “บ้านโนนศิลาสะอาด”และต่อมาเมื่อชุมชนขยายตัวมาเรื่อยๆ จึงได้มีการขยายออกเป็น 4 หมู่บ้านตามชื่อทางราชการ คือ บ้านโนนศิลา หมู่ที่ 3 บ้านสําราญราษฎร์ หมู่ที่ 7 บ้านหนองเครือ หมู่ที่ 10 บ้านโนนสําราญ หมู่ที่ 16 ซึ่งอยู่ในตําบลถลุงเหล็ก อําเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ แต่ด้วยรากฐานที่มาจากสายสัมพันธ์เดียวกันทางเข้าถนนในหมู่บ้านสายยาว เมื่อไม่กี่ปีมานี้ชุมชนของทั้ง4 หมู่บ้านจึงมีชื่อเรียกเป็นชุมชนเดียวกันโดยใช้คําว่า “บ้านสายยาว” ซึ่งมีที่มาจากพื้นที่ทางกายภาพของชุมชนที่เป็นถนนสายยาวถึง 3 กิโลเมตร โดยมีชาวบ้านของทั้ง 4 ชุมชน ตั้งบ้านเรือนอยู่ยาว ตลอดสองฟากของถนนสายยาวและวิถีพอเพียงที่สืบทอดกันมายาวนานการทำน้ำตาลปึกจากอ้อยแบบโบราณที่สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย และมีเอกลักษณ์ในการทำไม่เหมือนใคร ซึ่ง 1 ปีก็จะทำประมาณ 5 เดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม - เดือนเมษายน ของทุกปี เพราะช่วงนี้อ้อยจะหวานเป็นพิเศษครับ ใครที่อยากดูกรรมวิธีการทำน้ำตาลแบบโบราณ ก็มาดูกันได้ครับ ที่นี่เค้าเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว ต้อนรับแขกผู้มาเยือนกันอย่าเป็นกันเอง วิธีการทำก็เริ่มตั้งแต่การนำต้นอ้อยมาบีบคั้นเอาน้ำอ้อยด้วยเครื่องครับ แล้วนำมาใส่กระทะใบใหญ่ๆ เคื่ยวด้วยไฟที่ก่อด้วยฟืนต้นอ้อยตากแห้งแล้ว (ต้นอ้อยนี่เอามาทำฟืนได้จากเศษต้นอ้อยที่บีบเอาน้ำออกหมดแล้วตากจนแห้งครับ) เคี่ยวประมาณ 3-4 ชั่วโมง จนกระทั่งน้ำระเหยและน้ำตาลเหนียวข้นได้ที่ ทิ้งน้ำตาลให้เย็นสักพัก ตักเทลงเบ้าที่ทำจากไม่เนื้อแข็งที่ทำความสะอาดแล้ว ขั้นตอนนี้ต้องใช้เทคนิคพอสมควรครับ สามารถลองทำดูได้ครับรอจนกว่าก้อนน้ำตาลจับตัวกันเป็นก้อน แล้วก็แคะออกจากเบ้าน้ำตาลที่นี่มีหลายแบบหลายขนาดให้เลือกครับกะเทาะน้ำตาลออกจากเบ้า โดยคว่ำแท่นไม้ให้ก้อนน้ำตาลหล่นลงที่ตาข่ายด้านล่าง ใช้เวลาจับตัวเป็นก้อนนี่ก็ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีเลยทีเดียวครับเมื่อได้น้ำตาลเป็นก้อนมาแล้วก็นำมาแพ็ค เพื่อจำหน่ายกันครับ ก็ใช้วัสดุใบอ้อยที่คัดมา ตากแห้ง แล้วมาแพ็คมัดละ 5 ก้อน ดูแล้วเหมือนไม่ยาก มาลองทำดูได้ครับสนุกแน่ๆ คุณยายยินดีสอนให้ครับวัสดุที่ใช้มัดก็ทำจากไม้ไผ่ครับ เรียกว่าตอก ผ่าบางๆแช่น้ำให้อ่อนต้วสักหน่อย เวลามัดจะได้ไม่ขาดง่ายครับ เสร็จแล้วหน้าตาก็จะสวยงามเลยทีเดียวครับ แพ็คหนึ่งก็ 5 ก้อน ประมาณ 50 บาท ซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้านได้ครับ แวะผ่านไปรับรองไม่ผิดหวัง นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์หัตกรรมฝีมือชาวบ้านให้เลือกซื้อเป็นของฝากกันครับผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติการทอผ้าไหม ผ้าซิ่นตีนแดง เป็นผ้าเอกลักษณ์ประจำจังหวัดบุรีรัมย์เรียนรู้สวนเกษตรปลอดสารพิษ ชมบรรยากาศสวนป่าตาหมื่น นอกจากนี้ยังมีฐานเรียนรู้การเกษตรอีกมากมาย เช่น เผาถ่านทำน้ำส้มควันไม้ เพาะเห็ดนางฟ้าและเห็ดนางรม เลี้ยงกบ จิ้งหรีด ไก่คอนโด ทำปุ๋ยหมักชีวภาพ บัญชีครัวเรือน น้ำยาอเนกประสงค์ และดอกไม้จัน ใครที่อยากไปสัมผัสบรรยากาศเค้ามีบริการโฮมสเตย์ด้วยครับ ที่นี่เค้าต้อนรับแบบเป็นกันเองดีรับรองไม่ผิดหวังครับ