ปฏิบัติธรรม ที่ไหนดี ต้องทำอะไรบ้าง ที่วัดโนนดินแดงเหนือ บุรีรัมย์ช่วงนี้ในหลายๆ วัดเริ่มมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม ในบทความนี้ผู้เขียนเลยอยากมาเล่าให้ฟังค่ะว่า ไปปฏิบัติธรรมต้องทำอะไรบ้าง เพราะเชื่อว่าหลายๆ คนคงอยากรู้เพื่อที่ว่าจะได้เอามาวางแผนว่าจะไปปฏิบัติธรรมดีไหม? แล้วถ้าตั้งใจจะไปจะต้องเตรียมอะไรบ้าง ในบทความนี้ผู้เขียนตั้งใจมาบอกแบบละเอียดยิบเลยค่ะ ที่ได้จากการปฏิบัติธรรมของตัวเองจากประสบการณ์ตรง การปฏิบัติธรรมในแต่ละวัดกิจกรรมหลักไม่แตกต่างกันค่ะ ส่วนกิจกรรมย่อยๆ เล็กๆ อาจมีบ้างที่แตกต่างกัน แต่ถ้าคุณผู้อ่านได้ลองอ่านเนื้อหาในบทความนี้จนจบรับรองว่าจะมองเห็นภาพใหญ่ของคำว่า "ไปปฏิบัติธรรม" แน่นอนค่ะการปฏิบัติธรรมในฐานะคนทั่วไปถ้าเป็นผู้หญิง จะเรียกคนนั้นว่า อุบาสิกา แต่ถ้าเป็นผู้ชาย เราจะเรียกคนนั้นว่า อุบาสก อุบาสกและอุบาสิกาคือส่วนหนึ่งของศาสนาพุทธ เหมือนมีพระภิกษุ มีแม่ชี หรืออาจเรียกว่าบวชอุบาสกและอุบาสิกา การบวชอุบาสกและอุบาสิกานี้ไม่ต้องโกนผม แต่ต้องนุ่งขายห่มขาว และต้องถือศีล 8 สำหรับผู้เขียนนั้นเคยได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่วัดโนนดินแดงเหนือ จังหวัดบุรีรัมย์มาค่ะ เนื่องจากเป็นวัดใกล้บ้าน ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรแค่อยากรู้ว่า การปฏิบัติธรรมคืออะไรเท่านั้น จึงตัดสินใจไปปฏิบัติธรรม การเดินทางมาที่วัดโนนดินแดงเหนือสามารถทำได้ง่ายๆ ค่ะ ถ้าเป็นรถประจำทางมาจากจังหวัดสระแก้ว ก็ให้ขึ้นรถสายบุรีรัมย์-จันทบุรี หรืออาจเป็นสายมุกดาหาร-ระยอง และรถตู้ที่จะไปบุรีรัมย์ วัดโนนดินแดงเหนือเป็นวัดที่อยู่ใกล้ชุมชนค่ะ อยู่ห่างจากตลาดโนนดินแดงเหนือประมาณ 800 เมตร มีมอเตอร์ไซต์รับจ้างบริการถ้าใครมาด้วยรถประจำทางค่ะ ค่าบริการ 20 บาท พอลงจากรถประจำทางก็จะเจอมอเตอร์ไซค์รับจ้างเลยค่ะ ข้อดีของการมาปฏิบัติธรรมที่วัดโนนดินแดงเหนือ คือ วัดใกล้ชุมชนจึงเดินมาทางได้สะดวก ห้องน้ำมีหลายห้อง พื้นที่สำหรับเป็นที่พักในระหว่างปฏิบัติธรรมเป็นศาลาขนาดใหญ่ มีไฟฟ้า มีสัญญาณโทรศัพท์ การร่วมมือร่วมแรงของคนในชุมชนที่รับผิดชอบในระหว่างปฏิบัติถือว่าดีมากค่ะ พุทธศาสนิกชนค่อนข้างมากที่มาใส่บาตรและร่วมกิจกรรมอื่นๆ จึงเป็นการปฏิบัติธรรมที่ได้บรรยากาศของความเป็นพุทธศาสนาอย่างเด่นชัด และการปฏิบัติธรรมที่วัดโนนดินแดงเหนือไม่มีค่าสมัครค่ะการปฏิบัติธรรมสามารถใส่ขุดขาวได้ทั้งที่เป็นแบบกางเกงขายาวและผ้าถุงค่ะ สามารถหาซื้อได้ที่ตลาดโนนดินแดงเพิ่มเติมได้ค่ะ ราคาประมาณ 300-400 บาท ครบชุด ให้ซื้อสะใบ้สีขาวเพิ่มมาด้วยค่ะแต่จะไม่ใส่ก็ได้ แต่ถ้าใครอยากได้ความประณีตขึ้นมาและดูสวยงามก็ต้องมีสะใบ้ค่ะ เตรียมสบู่ก้อน แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ยารักษาโรคส่วนตัว หวี ผงซักฟอก เบาะรองนั่งขนาดพอดีสำหรับนั่งทำสมาธิควรเป็นสีขาว ผ้าเช็ดตัวสามารถใช้สีทั่วๆ ไปได้ค่ะ ผ้าห่ม เต้นท์ เสื่อ ไม้แขวนเสื้อ โทรศัพท์เอามาใช้ได้ แต่ถ้าบางคนอยากตัดจากโลกภายนอกก็ทำได้ค่ะ เครื่องสำอางไม่ให้ใช้ เพราะผิดศีล 8 น้ำหอมใช้ไม่ได้ เครื่องหอมทั้งหลายห้ามนำมา ใช้ได้แค่สบู่ยี่ห้อไทบ้านธรรมดาๆ เท่านั้น ห้ามกลับเข้ามาบ้านในระหว่างปฏิบัติธรรม เพราะผิดศีล 8 แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นก็ต้องออกจากการปฏิบัติธรรมและลาศีล 8การปฏิบัติธรรม ทำอะไรบ้างใน 1 วัน? ตื่นนอนตอนตีสาม ไปล้างหน้าและแปรงฟัน ไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุกก็ได้ เพราะเราจะได้ยินเสียงระฆังดังปลุกจากนั้นไปที่ลานธรรมเพื่อทำวัตรเช้า ทำวัตรเช้าก็คือการไปท่องบทสวดต่างๆ และทำสมาธิ ลานธรรมคือสถานที่ๆ วัดกำหนดขึ้นเพื่อทำกิจกรรมทางสงฆ์ในระหว่างการปฏิบัติธรรม พระภิกษุนั่งแถวด้านหน้า อุบาสก อุบาสิกขานั่งในพื้นที่ถัดมา และพุทธศาสนิกชนทั่วไปนั่งในบริเวณถัดมา แต่ส่วนใหญ่จะมีเก้าอี้ให้ เพราะลานธรรมที่วัดโนนดินแดงเหนือเป็นพื้นที่โล่งใต้ร่มไม้ใหญ่ บรรยากาศดีค่ะ ธรรมชาติมากนี่คือข้อดีอีกอย่างของการปฏิบัติธรรมที่วัดโนนดินแดงเหนือจากนั้นประมาณ 05.40 น. ต้องเดินจงกรม การเดินจงกรมคือการทำสมาธิอย่างหนึ่งผ่านการเดินแบบช้าๆ และมีสติกำหนดลมหายใจเข้า-ออกค่ะ06.00 น. เป็นเวลาของข้าวต้ม สำหรับน้ำปานะนี้สามารถดื่มน้ำเปล่าได้ตลอดเวลา แต่ถ้าเป็นน้ำปานะที่พิเศษอาจพบได้ตอนเวลาเช้าและบ่าย โดยข้าวต้มนี้จะเป็นผู้นำชุมชนของหมู่บ้านและสมาชิกของชุมชมที่ได้รับผิดชอบได้นำมาที่วัดในระหว่างการปฏิบัติธรรม เช่น วันจันทร์เป็นชุมชนหมู่ที่ 2 รับผิดชอบ เราก็จะเห็นคนที่อาศัยอยู่ในหมู่ที่ 2 มาตักข้าวต้ม เช่น กำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อสม. และลูกบ้านคนอื่นๆ ที่ว่าง ก็จะมาช่วยกันค่ะจากประมาณ 07.00-08.00 น. เป็นช่วงเวลาพัก สามารถไปซักผ้า ตากผ้า อาบน้ำและงานอื่นๆ ที่นอกเหนือจากที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวที่สามารถช่วยทางวัดได้ เช่น ล้างห้องน้ำ กวาดบนศาลา จัดแจกันดอกไม้ เติมน้ำเปล่าในกาน้ำร้อนไฟฟ้า ฯลฯ รวมไปถึงสามารถไปจุดเทียนธูปไหว้พระ และเตรียมโถข้าวพร้อมดอกไม้ไว้สำหรับใส่บาตรสำหรับตัวเอง โดยเป็นการร่วมทำบุญตามศรัทธาสำหรับโถข้าว ดอกไม้ และเทียนกับธูปค่ะ08.00-09.30 น. จะเป็นกิจกรรมทางสงฆ์ สวดมนต์ ไหว้พระ ญาติโยมมาใส่บาตรและเป็นเวลาฉันเช้า โดยสามารถกินข้าวได้เพียงเวลาเดียว แต่ยังสามารถกินของว่างได้อีกนิดหน่อยแต่จะต้องไม่เกินเที่ยง หลังเที่ยวดื่มได้เฉพาะน้ำปานะเท่านั้น ที่ผู้เขียนเห็นมาคืออุบาสกและอุบาสิกาที่มีอายุมากกว่าผู้เขียนจะเหลือขนม ผลไม้หรือบางอย่างที่เป็นอาหารว่างได้และนำมากินก่อนเที่ยงอีกที เพื่อไม่ให้หิวมากเพราะปกติเราจะกินข้าว 3 เวลากันจากเวลา 09.30-13.00 น. เป็นเวลาส่วนตัวค่ะ สามารถนอนพักได้และทำงานอื่นๆ ช่วยทางวัดไดเ แต่ส่วนใหญ่จะนอนพักกันเพราะตื่นเช้า ช่วงเที่ยงในบางวันมีน้ำปานะที่พิเศษมาถวายค่ะ เช่น น้ำกระเจี๊ยบ หรือน้ำผลไม้อื่นๆ ที่เย็นสดชื่นจากเวลา 13.00 น. เป็นต้นไปจนถึงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น เป็นเวลาของการทำสมาธิค่ะ ถ้าเหนื่อยเราสามารถหยุดและยืดเหยียดขาได้ แต่ต้องอยู่ในอาการสำรวมและมีสติค่ะ สามารถเดินไปเข้าห้องน้ำได้ ดื่มน้ำปานะได้ แต่ไปนอนหลับไม่ได้ งดการใช้โทรศัพท์ แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็สามารถใช้ได้ค่ะ ประมาณ 6 โมงเย็นไปจนถึงสามทุ่ม จะเป็นเวลาทำวัตรเย็น ทำสมาธิและฟังบรรยาย ก็เหมือนกันกับตอนเช้าค่ะ เป็นการสวดมนต์ตามบทสวดต่างๆ ทางวัดมีหนังสือสวดมนต์เล่มใหญ่ให้ค่ะ ช่วงประมาณหนึ่งทุ่มเป็นเวลาของน้ำปานะที่จัดทำมาจากคนในชุมชนค่ะ เช่น น้ำฟักทอง น้ำข้าวโพด เป็นต้น โดยน้ำปาระในช่วงนี้จะช่วยทำให้หายหิวได้ค่ะ ในช่วงนี้บางวันจะต้องนั่งฟังบทเรียนทางธรรมะจากพระภิกษุชั้นผู้ใหญ่ที่มีความรู้จากวัดต่างๆ ที่นิมนต์มา ส่วนใหญ่จะเป็นพระผู้ใหญ่ที่มีความรู้และประสบการณ์คล้ายๆ เป็นครูของพระค่ะ พระบางรูปจบระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยของสงฆ์มา โดยเป็นการบรรยายให้ความรู้ แง่คิด แนวคิดต่างๆ ในการใช้ชีวิต การมีสติรู้เท่าทันความคิด ความรู้สึกของตัวเองค่ะจากสามทุ่มถึงตีสามเป็นเวลาอาบน้ำและพักผ่อนนอนหลับตามอัธยาศัยค่ะ จะเป็นแบบนี้ทุกวันจนครบตามกำหนดว่าทางวัดจัดปฏิบัติธรรมกี่วัน อาจมีกิจกรรมเพิ่มมาอีกนิดหน่อย เช่น กิจกรรมเปิดและปิดโครงการปฏิบัติธรรม เนื่องจากการปฏิบัติธรรมเป็นกิจกรรมของทางอำเภอร่วมกับวัด ที่ระบุว่าทางอำเภอต้องมีส่วนร่วมในการส่งเสริมพระพุทธศาสนา และวัดโนนดินแดงเหนือเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่ไม่ได้จัดการปฏิบัติธรรมเพื่อหาเงินหรือระดมคนมาล้างสมองอะไรประมาณนี้ค่ะ จึงมีกิจกรรมเปิด-ปิด มีหน่วยงานของทางราชการมาเกี่ยวข้องและรับรู้สิ่งที่ได้เรียนรู้ในระหว่างที่ไปปฏิบัติธรรม เห็นความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของชุมชนคนในโนนดินแดง โดยเฉพาะผู้นำชุมชนและลูกบ้านในหมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 และหมู่ 5 ที่กระตือรือร้นเตรียมสถานที่ อาหาร น้ำปานะและอื่นๆ จนทำให้การปฏิบัติธรรมเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดีค่ะการปฏิบัติธรรมทำให้ได้เพื่อนใหม่ที่หลากหลายอายุ โดยส่วนใหญ่จะอายุมากกว่า สถานการณ์นี้ทำให้เราได้เรียนรู้บทเรียนชีวิตจากการพูดคุย ได้รู้ว่าคนสูงอายุที่สนใจการปฏิบัติธรรมมีความคิดเห็นว่ายังไงกันบ้างการปฏิบัติธรรมทำให้ได้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการทำสมาธิที่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้ค่ะน้ำหนักลดลงอย่างมาก หน้าใสขึ้น กลายเป็นคนมีสติขึ้น โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องการกิน เดินช้าลง เคี้ยงอาหารช้าลงได้เห็นความร่วมมือร่วมใจของอุบาสกและอุบาสิกาในช่วงที่มีการปฏิบัติธรรมค่ะ โดยเฉพาะการช่วยเหลืองานในวัดที่สามารถทำได้ได้รู้ว่าการปฏิบัติธรรมคือห้องเรียนหนึ่งห้องเรียนที่สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ได้ และไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากค่ะ เพียงแค่ว่ากิจกรรมต่างๆ จะเกิดวนไปในลักษณะเดิมซึ่งทำให้ในบางช่วงอาจเบื่อได้ แต่ก็ต้องมีสติรู้ทุกข์ที่เกิดค่ะ เป็นช่วงเวลาที่ได้พักสายตา พักสมองได้ดีมากค่ะ เพราะไม่ใช้โทรศัพท์เลย! คุยน้อยลง ตอนนอนก็ได้นอนจริงๆ ปัญหาและอุปสรรคที่พบจากการไปร่วมโครงการปฏิบัติธรรม คนที่จะมาร่วมโครงการปฏิบัติธรรม ต้องประเมินสุขภาพตัวเองก่อนนะคะ เพราะหลายคนความดันขึ้น วิงเวียนศรีษะ ท้องเสีย เนื่องจากว่าผู้เขียนได้นำยารักษาโรคไปด้วยจึงไปแจกจ่ายให้กับอุบาสกและอุบาสิกาหลายท่าน ในขณะที่มีโครงการปฏิบัติธรรมไม่มีหน่วยปฐมพยาบาล ทางวัดมีเพียงยาที่เป็นยาพื้นฐานเท่านั้น เช่น ยาพาราเซตามอลอาหารบางอย่างเสียง่ายค่ะ เพราะอาหารถูกทำหลายอย่างที่เวลาหนึ่งเลยต้องทำตั้งแต่เช้ามืด แต่กว่าจะได้นำมาถวายก็ปาเข้าไปแปดโมงกว่า จึงควรระมัดระวังเรื่องอาหารค่ะปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวมากค่ะ ไม่รู้คนอื่นเป็นไหมเพราะปกติไม่ได้นอนกับพื้นค่ะ แต่พอมาร่วมโครงการปฏิบัติธรรมต้องนอนกับพื้น หมอนก็ใช้ไม่ได้ ดังนั้นใครจะมาปฏิบัติธรรมต้องรู้สิ่งนี้ไว้ค่ะ ไม่ได้ให้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะมานะคะ แต่เพื่อให้เตรียมร่างกายมาให้พร้อม ตาตุ่มจะด้านเนื่องจากนั่งสมาธิเป็นเวลานานติดต่อกันหลายวัน แต่หลังจากกลับบ้านประมาณเดือนกว่าก็หายเป็นปกติค่ะอย่างไรก็ตามสำหรับคนที่อยากมาร่วมโครงการปฏิบัติธรรมจริงๆ ให้ประเมินด้านร่างกายของตัวเองเป็นหลักค่ะ อย่าเพิ่งไปนึกถึงเรื่องบาปบุญอะไรนั่นเลยค่ะ ใช่อยู่ว่าอยากมาร่วมแต่ถ้าสุขภาพไม่ได้สนับสนุนการปฏิบัติธรรมก็จะกลายเป็นปัญหาได้ ควรมาร่วมโครงการปฏิบัติธรรมเพื่อการเรียนรู้เท่านั้น อย่างไรก็ตามการทำสมาธิ การมีสติ การเรียนรู้เกี่ยวกับจิตใจ เกี่ยวกับตัวเองสามารถทำได้ตลอดเวลาโดยไม่เกี่ยวว่าจะเป็นโยม เป็นอุบาสกหรืออุบาสิกค่ะและเนื้อหาทั้งหมดที่เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมก็มีเพียงเท่านี้ค่ะ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังจะไปร่วมโครงการปฏิบัติธรรม หรือสำหรับคนที่สงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมมานานแล้วก็ตามแต่ค่ะ ทั้งหมดคือได้จากที่ผู้เขียนได้ไปร่วมโครงการปฏิบัติธรรมมาเป็นเวลา 10 วันเต็ม อยู่ครบจบตลอดงานค่ะ ที่ทำสำเร็จคือได้เอาชนะใจตัวเอง อยู่จนครบ 10 วัน เพราะในระหว่างนั้นมีหลายคนล้มเลิกกลางคันค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาด้านสุขภาพ ถามว่าจะไปร่วมโครงการปฏิบัติธรรมอีกไหม!? ขอตอบเลยค่ะว่าไม่เพราะตอนหลังมาผู้เขียนได้เรียนรู้ว่าเราสามารถปฏิบัติธรรมได้ตลอดเวลา ไม่เกี่ยวว่าตอนนี้จะใส่เสื้อสีแดง จะอยู่เชียงใหม่ หรือกำลังทำอะไรก็ตามค่ะ แต่ถ้าใครเป็นนักล่าน้ำปานะหรืออยากมีประสบการณ์และอยากเรียนรู้อย่างอื่นด้วย ก็ต้องไปร่วมโครงการปฏิบัติธรรมเท่านั้นค่ะ‼️เดินทางไปไปปฏิบัติธรรมที่วัดโนนดินแดงเหนือได้ง่ายๆ ด้วยแผนที่นี้เลยจ้า👇เครดิตภาพประกอบบทความโดย: ผู้เขียนภาพหน้าปกจาก aiworldexplore/Pixabayออกแบบภาพหน้าปกใน Canvaภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1 จาก terimakasihO/Pixabay , ภาพที่ 2 จาก Burst/Pixels, ภาพที่ 3 จาก qimono/Pixabay, และ ภาพที่ 4 จาก Darkmoon/Pixabayบทความอื่นที่น่าสนใจ❇️ธรรมะสอนใจการใช้ชีวิตสั้นๆ กินใจ กดอ่านเลย✅️รีวิวไร่เชิญตะวัน ศูนย์วิปัสสนาฝึกสมาธิ กดอ่านเลย✅️วัดดอนขนาก นครปฐม วัดที่มีพญานาค กดอ่านเลย✅️7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร