รีวิว ประยุกต์ใช้เครื่องสีข้าวขนาดเล็กติดรถไถนา สำหรับครัวเรือนเมื่อ 10 ปีก่อนพอพูดถึงเครื่องสีข้าวหรือโรงสีข้าวขนาดเล็กนั้น ยังเป็นเรื่องใหม่ที่หลายคนมองว่าไม่น่าจะได้ผลและคงมีปัญหาเกิดขึ้นในระหว่างการใช้เครื่องสีข้าวตามมาอีกมากมายจนต้องหยุดใช้ไปอย่างแน่นอน! แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยค่ะ ซึ่งจะขอพิสูจน์ด้วยเนื้อหาที่จะได้เล่ายาวไปในบทความนี้ค่ะ เพราะที่บ้านสวนของผู้เขียนได้ประยุกต์ใช้เครื่องสีข้าวจริง จึงอยากมาเขียนลงในบทความนี้ไว้เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังคิดอยากจะซื้อเครื่องสีข้าวหรือสงสัยมานานแล้วว่าถ้ามีเครื่องสีข้าวที่บ้านแล้วจะเป็นยังไงเครื่องสีข้าวที่จะได้เล่าในบทความนี้ได้ซื้อมานานมากแล้วค่ะ น่าจะเป็นรุ่นแรกๆ สมัยมีเครื่องสีข้าวเกิดขึ้นก็ประมาณ 10 ปีได้ค่ะ ราคาตอนนั้นหมื่นต้นๆ สั่งซื้อผ่านทางโทรศัพท์โดยค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์จากนั้นโทรติดต่อ โอนเงินและรับสินค้าค่ะ ร้านที่ขายให้ตอนนั้นอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ทางร้านส่งสินค้ามาทางไปรษณีย์ค่ะ พอสินค้ามาถึงสาขาปลายทางบุรุษไปรษณีย์ก็โทรแจ้งให้ไปรับเครื่องสีข้าว แต่ถ้าสั่งซื้อกันจริงๆ สมัยนี้คงง่ายขึ้นมากแล้วค่ะเครื่องสีข้าวที่ซื้อมานั้นจำไม่ได้แล้วค่ะว่ารุ่นอะไรแต่มีรูปช้างอยู่บนเครื่องสีข้าว และตัวเครื่องมีสีน้ำเงิน เครื่องสีข้าวรุ่นนี้มีส่วนที่ใช้บดข้าวหรือหญ้าสำหรับเป็นอาหารสัตว์ได้ด้วยนะคะ ตอนซื้อมาในวันแรกเครื่องสีข้าวเป็นแบบใช้ไฟฟ้า ซึ่งจะมีมอเตอร์ไฟฟ้ามาให้ด้วยแต่ด้วยความที่พ่อของผู้เขียนมีรถไถนาประกอบกับมีความรู้เกี่ยวกับช่าง เกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไกการประกอบกับรถไถนาบ้าง จึงประยุกต์ใช้เครื่องสีข้าวกับรถไถนาค่ะ ตั้งแต่ซื้อมามีแค่วันแรกเท่านั้นที่ใช้ไฟฟ้า เพราะทดลองเครื่องสีข้าวว่าทำงานปกติไหม หลังจากนั้นพ่อของผู้เขียนก็ถอดมอเตอร์ไฟฟ้าออกเก็บไว้ค่ะ ก็คิดดูว่าจากวันนั้นจนวันนี้เครื่องสีข้าวก็ยังทำงานและเป็นการทำงานแบบประยุกต์ติดรถไถนาค่ะ ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้เครื่องสีข้าวอยู่ก็ยังปกติดีค่ะการนำเครื่องสีข้าวมาประกอบเข้ากับรถไถนานั้น เท่าที่สังเกตนะคะคนที่ขับรถไถนาเป็นจะรู้ค่ะว่าทำยังไง ก็แค่ดึงสายพานไปพ่วงติดกันส่วนที่ต้องใช้หมุนเครื่องสีข้าวเพียงเท่านี้เครื่องสีข้าวก็สามารถทำงานได้แล้วค่ะ ไม่มีค่าไฟฟ้าเกิดขึ้นแต่จะมีค่าน้ำมันดีเซลแทน ปกติสีข้าวด้วยเครื่องสีข้าวเฉลี่ยเดือนละ 1-2 ครั้ง น้ำมันดีเซล 50 บาท เกินพอสำหรับสีข้าว จำนวน 1 ครั้งค่ะ สีข้าวในแต่ละครั้งประมาณ 1-2 ถุงปุ๋ยค่ะ ซึ่งผู้เขียนมองว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนั้นค่อนข้างน้อยจากการใช้เครื่องสีข้าวสำหรับหนึ่งครัวเรือนตั้งแต่ใช้มาเคยต้องเปลี่ยนอะไหล่ 2 ครั้ง ซึ่งทั้งสองครั้งเป็นอะไหล่ชนิดเดียวกัน ที่เปลี่ยนเพราะสภาพชำรุดค่ะ อะไหล่ที่ว่านี้เป็นตะแกรง ซึ่งก็นานมากแล้วเหมือนกันค่ะที่ซ่อม จำได้ว่าสั่งตะแกรงทางช้อปปี้ ร้านขายอยู่พิษณุโลก ราคาตะแกรง 100 ต้นๆ แต่สั่งมาเผื่อไว้ยามฉุกเฉินด้วย สมัยนี้การจะสั่งอะไหล่เป็นเรื่องง่ายมากขึ้นแล้วค่ะ ร้านค้าที่เกี่ยวกับอุปกรณ์การเกษตรในบางอำเภอก็มีขายกันแล้ว การซ่อมเล็กๆ น้อยๆ พ่อของผู้เขียนสามารถทำได้ด้วยตัวเองค่ะ ที่ซื้อตะแกรงมาก็เปลี่ยนเอง บำรุงรักษาเองหมด ปัญหาจุกจิกไม่ค่อยมีค่ะ การใช้เครื่องสีข้าวมีเสียงดังจากรถไถนากับมีฝุ่นในระหว่างสีข้าว โดยที่พ่อของผู้เขียนทำเพื่อแก้ปัญหานี้คือ ตั้งเครื่องสีข้าวที่ประกอบติดกับรถไถนาไว้ให้ห่างจากพื้นที่อยู่อาศัยค่ะ กับตอนไปสีข้าวให้ดูทิศทางลม ในระหว่างสีข้าวให้ยืนอยู่เหนือลมและสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นอีกที เครื่องสีข้าวที่บ้านสวนของผู้เขียนนี้เป็นรุ่นเล็กสำหรับครัวเรือน สีข้าวในแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมงค่ะ ข้าวมีหักบ้างแต่ส่วนหนึ่งเกิดจากความแห้งของตัวข้าวเปลือก ซึ่งโดยภาพรวมคือได้ข้าวสารในลักษณะที่เป็นที่น่าพึงพอใจค่ะ เพราะไม่ต้องขนข้าวเปลือกไปสีที่อื่นๆ ในบางครั้งในตัวอำเภอหรือหมู่บ้านจะมีคนรับสีข้าวแต่คิวยาวก็ต้องรอนานไปอีกนานค่ะ ยิ่งถ้าบ้านเราห่างจากบ้านคนรับสีข้าวเราต้องขนข้าวเปลือกไปส่งและพอสีข้าวเสร็จก็ต้องไปรับเองด้วยแต่พอมีเครื่องสีข้าวเองแล้วจะสีข้าวตอนไหนก็ได้ค่ะ ค่าใช้จ่ายน้อยมากแถมยังได้รำข้าวเอาไว้ให้สัตว์เลี้ยงด้วยค่ะ ผู้เขียนจึงมองว่าหากใครต้องการมีเครื่องสีข้าวเพื่อนำมาสีข้าวในครัวเรือนถือเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ เพราะเครื่องสีข้าวมีการบำรุงรักษาน้อยมาก ทำให้เรื่องสีข้าวภายในบ้านสะดวกมากขึ้น ยิ่งถ้าใครมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ขนาดเล็กและรถไถนายิ่งจะดีเลยค่ะ และถ้ามีรถไถนาอยู่แล้วก็จะได้ใช้ประโยชน์จากรถไถนาของตัวเองด้วย และถ้าไม่มีไฟฟ้าใช้การใช้รถไถนาจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดค่ะ แต่สำหรับคนที่ไม่มีรถไถนาแต่ต้องการจะใช้เครื่องสีข้าวและมีไฟฟ้าใช้ก็ยังถือว่าเป็นสิ่งที่น่าลงทุนค่ะ เพราะน้องชายของพ่อผู้เขียนนั้นมีเครื่องสีข้าวเหมือนกันค่ะแต่ใช้ไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะเอามาสีข้าวในครัวเรือนแล้วยังเอามารับจ้างสีข้าวในกับคนในชุมชนใกล้เคียงด้วยค่ะ ก็ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมาอีกจากการมีเครื่องสีข้าวพอเราใช้เครื่องสีข้าวประกอบเข้ากับรถไถนาดีแล้ว ถ้ามีคนมาติดเครื่องรถไถนาให้ คนอื่นๆ ในบ้านสามารถมาช่วยสีข้าวได้ด้วยค่ะ เพราะขั้นตอนในการสีข้าวด้วยเครื่องสีข้าวที่ประกอบติดกับรถไถนานั้นง่ายมากค่ะ เพียงแค่ตักข้าวเปลือกใส่ลงไปในช่องใส่ข้าวเปลือกทีละน้อยไปเรื่อยๆ จนหมดเท่านั้นเอง กับถ้าข้าวสารเต็มในส่วนที่รองรับข้าวสารก็เอาข้าวสารไปเทเก็บไว้ค่ะโครงสร้างและกลไกในเครื่องสีข้าวก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรค่ะ เพราะใช้มาเป็นสิบกว่าปีแล้วก็ยังทำงานได้ตามปกติอยู่เลยค่ะ เพียงแค่ต้องตั้งไว้ในร่มกันแดดกันฝนค่ะ ตอนหลังมาเริ่มมีเครื่องสีข้าวรุ่นใหม่ๆ ออกมาขาย ถูกลงมากและประสิทธิภาพในการสีข้าวก็ดีขึ้นก็อยากได้ใหม่เหมือนกันค่ะ แต่เครื่องสีข้าวตัวเดิมก็ยังทำงานปกติอยู่เลยค่ะ ทนมากและคุ้มค่ามากๆ ค่ะจึงอยากแนะนำเครื่องสีข้าวให้กับใครที่กำลังสนใจมีเครื่องสีข้าวในครัวเรือนสักเครื่องค่ะ ซึ่งวิธีการหนึ่งที่ใช้ได้ดีก็คือการประยุกต์ใช้เครื่องสีข้าวติดรถไถนานี่ล่ะค่ะ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดผู้เขียนก็ได้เล่าไปหมดแล้วค่ะ และหวังว่าบทความนี้พอจะช่วยให้คุณผู้อ่านได้ข้อมูลและนำไปประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับเครื่องสีข้าวนะคะ อย่างไรก็ตามถ้าไม่ได้สนใจที่จะสีข้าวผู้เขียนแนะนำว่าอย่าซื้อค่ะ เพราะบางคนอาจเห็นคนอื่นซื้อเลยซื้อตามแต่ตัวเองไม่ชอบงานในลักษณะเกี่ยวกับการสีข้าว การมีเครื่องสีข้าวก็อาจจะไม่คุ้มค่าได้ถ้าซื้อมาตั้งไว้เฉยๆ จึงควรใช้ข้อมูลหลายๆ อย่างมาประกอบในการตัดสินใจว่าจะมีเครื่องสีข้าวดีไหมจะดีที่สุดค่ะเครดิตภาพประกอบบทความจาก: ผู้เขียนออกแบบภาพหน้าปกใน Canvaถ่ายภาพโดยผู้เขียนบทความอื่นที่น่าสนใจ✳️ตัวอย่างเตาเผาถ่านจากวงคอนกรีตที่เหลือใช้ ง่าย ต้นทุนต่ำและได้ผล อ่านเลย👈ตัวอย่างการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง @บ้านโคกขี้เหล็ก อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ อ่านเลย👈ตัวอย่างสรุปอนามัยสิ่งแวดล้อม บ้านนาดี อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม อ่านเลย👈เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !