ทริปวันเดียวเที่ยวบุรีรัมย์วันนี้จะชวนมาเที่ยวสไตล์ “OTOP นวัตวิถี” บ้างดีกว่าเนอะ OTOP ย่อมาจาก One Tambon One Product (คำนี้คิดว่าทุกคนคงคุ้นเคย) ส่วน นวัตวิถี มาจาก คำว่านวัตกรรม ผสมกับคำว่า วิถีชีวิต ดังนั้น “OTOP นวัตวิถี” จึงหมายถึงการนำวิถีชีวิตออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ และบริการ สนับสนุนให้คนในท้องถิ่นลุกมาช่วยกันพัฒนาชุมชนของตนเองให้เข้มแข็งโดยเน้นความเรียบง่าย และนำสินค้าที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นมาสร้างรายได้ โดยการนำมาขายให้แก่นักท่องเที่ยว ในราคาที่ไม่แพง ตรูธม(Truthom)…เป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวโอทอปนวัตวิถี ที่พัฒนามาจากแนวคิดของเจ้าของร้านตัดเสื้อยี่ห้อดัง “เซราะกราว” ที่อยากสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับคนในชุมชน จึงได้สร้างตรูธมขึ้นมาบนพื้นที่นากว่า 7 ไร่ ตรู ในภาษาเขมร หมายถึงไซใส่ปลา ธม หมายถึง ใหญ่ ตรูธม หมายถึง ไซใหญ่ ตรูธมแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ ต.จันดุม อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ บนเนื้อที่กว่า 7 ไร่นั้น ประกอบไปด้วยร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านขนมโบราณฝีมือชาวบ้านใน ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และอื่น ๆ โดยที่ทุกอย่างราคาไม่แพง และจากการที่เราได้มีโอกาสคุยกับคุณอนงค์ (เจ้าของตรูธม) ทำให้รู้ว่า นอกจากจะชอบทำบุญแล้ว ยังใจดีไม่เก็บค่าเช่าที่กับชาวบ้านที่มาขายของที่นี่ด้วย… โซนด้านในตัวอาคาร ตกแต่งสไตล์ยุคเก่า ไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป… เราเดินชิม ช้อบ แชะ ขนมแปลก ๆ หลายอย่างฝีมือชาวบ้านอร่อยดี และโซนด้านนอกก็เดินชมสวน ลมธรรมชาติเย็น ๆ เพลงยุคเก่าอันไพเราะ ขับกล่อมผู้คนที่มาเดินเที่ยวอย่างเพลิดเพลิน มีบ่อเลี้ยงปลา และมีเรือถีบไว้บริการในบ่อด้วย เดินจนถึงท้ายสวนจะมีสัญญลักษณ์ของที่นี่คือ กระท่อมตรูธม ที่ทำจากไม้ไผ่ เก๋ไก๋ มีห้องนอนให้นักท่องเที่ยวเช่านอนได้ ออกจากตรูธม เราก็ขับรถเที่ยวไปเรื่อย ๆ… บุรีรัมย์ในวันนี้เจริญและแปลกตาขึ้นกว่าสมัยก่อนเยอะทีเดียว ร้านกาแฟสวย ๆ หลากหลายสไตล์ ในตัวเมือง มีเยอะหลายร้าน (วันหลังจะมารีวิวเฉพาะร้านกาแฟ เพราะเรามาบ่อย เนื่องจากอยู่ใกล้บ้าน) สถานที่ท่องเที่ยวก็เยอะเช่นกัน อาทิ เพลินวาน ลูกชิ้นยืนกินสถานีรถไฟ สนามช้างอารีนา(Chang Arena ชื่อเดิมคือ ไอ-โมบายสเตเดียม) หรือจะไปเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งก็ไม่ไกลมาก… ก่อนที่จะออกนอกเส้นทางไปมากกว่านี้ เราขอกลับมาที่ทริปวันเดียวเที่ยวเมืองบุรีรัมย์ต่อนะคะ… ออกจากตรูธม เราตั้งใจไปต่อที่…เขากระโดง เพื่อไปตามหา “โยนีปีศาจ” เขากระโดง ตั้งอยู่ที่อ.เมือง บุรีรัมย์ ขึ้นชื่อว่าเป็นป่าในเมืองของจังหวัดบุรีรัมย์ ภูเขาไฟที่ดับสนิทมาเป็นเวลาหลายแสนปีแล้ว มีปากปล่องทะลุเห็นชัดเจน และ โยนีปีศาจที่เราตามหาก็อยู่ที่นี่!! เหตุที่ต้องตามหา ... เพราะพี่ที่รู้จักกันเล่าให้ฟังว่า โยนีปีศาจเป็นต้นไม้ประหลาด ผลของมันเมื่อผ่าออกมาจะมีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศหญิง หลังจากได้ฟังเราก็เลยอยากเห็นของจริง แต่ก่อนไปก็อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ว่า... ต้น “โยนีปีศาจ” หรือภาษาพื้นถิ่นชาวเขมรเรียกว่าต้น “กะ-นุย-ขะ-มอย” ต้นไม้นี้มีชื่อหลายชื่อ ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Schrebera swietenioides ชื่ออื่น ๆ หีผี มะกักป่า มะกอกโคก มะกอกดอน มะกอกเผือก...เป็นไม้ยืนต้น ผลัดใบ ลำต้นสูงใหญ่ ประมาณ 15 เมตร เป็นไม้เปลือกแข็ง ออกดอกช่วงต้นเดือนพฤษภาคม และผลคล้ายลูกมะกอกขนาดประมาณ 3-5 เซนติเมตร ผลของมันเมื่อสุกเต็มที่จะร่วง และแตกออกเป็น 2 ซีก มีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศหญิง เป็นพันธุ์ไม้ชนิดเดียวที่พบในประเทศไทยที่เดียว ตามซากภูเขาไฟเก่าเท่านั้น… เรื่องราวในตำนานท้องถิ่น จากประวัติศาสตร์ เล่าว่า ต้นโยนีปีศาจ เป็นต้นไม้ตำนานรักระหว่าง “ท้าวปาจิต โอรสแห่งนครธม กับ นางอรพิม หญิงสาวสามัญชน ที่ทั้งสองมีความรักต่อกัน แต่กลับมีเหตุให้ต้องพลัดพรากจากกัน ทั้งต้องผจญภัยฟันฝ่าอุปสรรค ซึ่งเป็นเรื่องราวปาฏิหาริย์เป็นเวลากว่า 7 ปี แต่ระหว่างที่ต้องผจญภัยในป่า นางอรพิม เกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงอธิษฐานจิตขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แปลงร่างให้เธอเป็นชาย โดยขอให้บางส่วนที่เป็นหญิงหลุดหายไปจากร่าง จากนั้นอรพิม ก็ได้นำโยนีหรืออวัยวะเพศหญิง ไปฝากไว้ที่ต้นมะกอกโคก หรือต้นโยนีปีศาจดังกล่าว เมื่อรอดชีวิตออกจากป่าได้ ในที่สุดอรพิม ก็ได้กลับมาเป็นหญิง และครองรักกับท้าวปาจิตเหมือนเดิม นั้นคือข้อมูลเกี่ยวกับ โยนีปีศาจ… ที่เราอ่านมาจากอินเตอร์เนต… และตอนนี้เราก็มาถึงเขากระโดงแล้ว การขึ้นยอดเขากระโดง มี 2 วิธี คือเดิน กับ ขับรถ เราเดินขึ้นบันไดจำนวน 297 ขั้น ก็ถึงยอดเขากระโดง บนยอดเขามีโบราณสถานกู่เขากระโดงซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองและมี “พระสุภัทรบพิตร” พระพุทธรูปองค์ใหญ่ หลังกราบพระเสร็จเราก็เดินชมป่าที่ยังอุดมสมบูรณ์ เดินชมรอบปล่องภูเขาไฟ และยืนชมมุมสูงของปล่องบนสะพานแขวน สำหรับท่านใดอยากมาขึ้นเขากระโดงสักครั้ง หรือจะมาเดินออกกำลังกายหลาย ๆ ครั้ง ขอแนะนำให้มาช่วงเช้า หรือ ช่วงเย็นนะคะ เพราะจะเดินสบายกว่าช่วงกลางวัน เนื่องจากอากาศบ้านเราค่อนข้างร้อน ส่วนต้นโยนีปีศาจนั้น บนยอดเขาก็มี 1 ต้นใหญ่… ขากลับเราเดินลงจากยอดเขาทางที่รถขึ้น พอถึงด้านล่างก็เจอโยนีปีศาจอีก 1 ต้น ในวัดพระพุทธบาทเขากระโดงอีก 3 ต้น แต่ช่วงที่เราไปเป็นช่วงกลางเดือนมิถุนายน เลยไม่เจอดอกและผล ได้แค่รูปต้นมาฝาก ก่อนจบทริปวันเดียวเที่ยวบุรีรัมย์ในวันนี้ เรายังพอมีเวลาแวะเติมพลังให้ร่างกายสดชื่น เครื่องดื่มเย็น ๆ หรือจะดินเนอร์คลุกเคล้ากับบรรยากาศทุ่งนา ที่นี่มีให้บริการเต็มรูปแบบแนวนวัตวิถีอีกเช่นกัน… ที่… วัวแดงคาเฟ่ ต.สวายจีก อ.เมืองบุรีรัมย์ วันเดียวเที่ยวบุรีรัมย์สำหรับนักเดินทางอย่างพวกเรา คุ้มค่ามาก เพราะได้ทั้งความรู้แบบนวัตวิถี ได้เจอโยนีปีศาจ และได้มิตรภาพระหว่างทาง หลังโควิด-19… ขอเชิญชวน ออกเดินทางไปช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจไทยด้วยกันนะคะ I want to invite you to travel together. ภาพประกอบเรื่องทุกภาพ โดยผู้เขียน : ไข่ฟู ครูนอกกรอบ