สวัสดีค่ะ มาพบกับพี่บัวอีกแล้ว ที่ผ่านมาพี่บัวรีวิวร้านอาหารที่น่าอร่อยไปเยอะแล้ว วันนี้พี่บัวเลยมารีวิวเรื่องความสวยความงามกันบ้าง แต่เอ๊ะ! น้องๆมีสิวเหมือนพี่บัวบ้างไหมเอ่ย? พี่บัวก็มีสิวเหมือนกันแต่ตอนนี้สิวได้หายไปจากพี่บัวบ้างแล้ว แค่เพราะอะไรหนะเหรอ ก็เพราะครีมที่บัวหาซื้อใช้เอง ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆจนเจอลูกรักหรือตัวที่ขาดไม่ได้เลย มีไม่เยอะมากแต่คุณภาพและความคุ้มค่ามีมากเลยค่ะ อยากรู้กันแล้วใช่ไหม (ครีมเหมาะกับคนแต่ละสภาพผิว พี่บัวเป็นผิวมัน ผิดแพ้และบอบบางมากๆ)น้องๆคนไหนที่แพ้ง่ายสามารถใช้ได้ ตามไปดูกันเลย ตัวแรกเป็นคลีนซิ่งไว้สำหรับล้างหน้าคนเป็นสิว ตัวต่อมาเป็นน้ำตบเห็ดที่ไว้ใช้หลังจากล้างหน้าเสร็จ เป็นของ origin (ราคาประมาณ750-1000บาท)ตัวนี้จะช่วยในเรื่องของผดผื่นที่อยู่บนหน้าที่สร้างความรำคาญใจให้เรา เทลงบนฝ่ามือแล้วตบเบาๆให้ทั่วใบหน้าเลยค่ะ ใช้ได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอน เครดิตรูปภาพ:เบญจมาภรณ์ โพธิ์ราม สำหรับตัวต่อไปคือลูกรักและเป็นตัวกู้ผิวหน้าของเราจากรอยด่างดำจากสิวทั้งหลายได้อย่างดีเยี่ยม ใครเป็นสิวต้องมีครีมตัวนี้เลยค่ะ DRAGON'S BLOOD (ราคา 295 บาท)สามารถแต้มบริเวรที่เป็นจุดด่างดำได้ทั้งเช้าและก่อนนอนเลยค่ะ ทาแล้วไม่มีความแสบให้ระคายเคืองแน่นอน เครดิตรูปภาพ:เบญจมาภรณ์ โพธิ์ราม ต่อจากนี้ก็จะเป็นการทากันแดดเพื่อกันแดดสำหรับประเทศไทยของเราที่มีความร้อนตลอดทั้งปี สำหรับ NIVEA SUN protect&sensitive สำหรับคนผิวบอบบางแพ้ง่าย(ราคา 149 บาท) ทาก่อออกแดด 15นาที สามารถทาได้เรื่อยๆตลอดทั้งวันเพราะเป็นการปกป้องผิว เนื้อครีมซึมง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะ เครดิตรูปภาพ:เบญจมาภรณ์ โพธิ์ราม ตัวสุดท้ายคือโทนเนอร์สำหรับคนที่มีรอยดำมากๆ ต้องการการผลัดเซลผิว pixi (ราคา 450-550 บาท) ใช้สำหรับกลางคืนในวันที่เพราะตัวนี้จะทำให้หน้าไวต่อแสง นำสำลีมาชุบให้พอหมาดแล้วเช็ดเบาๆทั่วใบหน้า จะมึความแสบอยู่นิดหน่อย แต่เพื่อความสวยก็ต้องทนได้ใช่ไหมหละคะ เครดิตรูปภาพ:เบญจมาภรณ์ โพธิ์ราม สำหรับครีมที่พี่บัวนำมาแนะนำน้องๆสำหรับใครที่เป็นสิวแล้วอยากซื้อครีมมาใช้ก็สามารถซื้อตามได้เลยเพราะพี่บัวลองมาแล้วไม่แพ้ แต่ผลรับจะขึ้นอยู่กับผิวหน้าของแต่ละบุคคลด้วย คนที่เป็นสิวอุดตันพี่บัวแนะนำให้ไปกดออก ลองหาคลินิกเสริมความงามดูนะคะ ถ้ากดเองอาจจะมีรอยด่างดำเพิ่มมาอีกก็ได้ น้องๆคนไหนได้ไปซื้อมาลองใช้แล้วอย่าลืมมารีวิวมห้ดูด้วยนะคะ รูปภาพหน้าปก : เครดิตรูปภาพ:เบญจมาภรณ์ โพธิ์ราม