เราได้มีโอกาสวิ่งในงาน "ห้วยยางเทรล ครั้งที่ 1 " เมื่อวันที่ 13 มกราคม 62 ซึ่งเป็นการจัดงานนี้ครั้งแรกและไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัครวิ่งใด ๆ ทั้งสิ้น ห้วยยางเทรล เป็นงานวิ่งเทรลที่ถูกจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬาของ อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เราได้ทราบข่าวสารการสมัครงานนี้จากการแชร์โพสข่าวสารใน Facebook ของคุณนพดล ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ดังกล่าว "ห้วยยางเทรล" ในขณะนั้นเป็นการจัดงานที่บรรยากาศค่อนข้างบ้าน ๆ ซึ่งมี จุด Start / Finish ที่สวนรุกขชาติน้ำผุดทับลาว มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ ของกินของใช้ในงานส่วนใหญ่จะเป็นผลไม้ และพืชพรรณอาหารที่ปลูกในพื้นที่ใกล้เคียงสวนรุกขชาติ ที่ห้วยยางเทรล # 1 นี้ เป็นงานวิ่งเทรลครั้งแรกของเรา เราจึงได้ลงวิ่งแค่ระยะ 10 km เท่านั้น อากาศในตอนเช้าของช่วงเดือนมกราคมค่อนข้างเย็นพอสมควร ในงานเริ่มปล่อยตัวนักวิ่งระยะ 10 km เวลา 06:00 น. ก่อนออกวิ่งเราได้เด็ดกล้วยทาน ณ จุด Start เพื่อเพิ่มพลังงานก่อนการออกกำลังกายหนัก ๆ ซึ่งจุดตรงนี้ทีมงานใช้กล้วยเครือใหญ่แขวนประดับจุด start ไว้หลายเครือทีเดียว นักวิ่งสามารถเด็ดทานได้เต็มที่ นอกจากกล้วยแล้วจุด Start ตรงนี้ยังประดับประดาไว้ด้วยผ้าพื้นเมืองของท้องถิ่นชัยภูมิ อีกทั้งมีทะลายหมากและทะลายมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งเป็นพืชเกษตรกรในพื้นที่ปลูกเป็นจำนวนมากอีกด้วย เมื่อเริ่มสตาร์ทออกวิ่งก็ได้พบกับอุปสรรคและขวากหนามมากมายระหว่างทาง การวิ่งไม่ได้วิ่งในพื้นที่เรียบเหมือนในสนามมาราธอนที่เราเคยสัมผัสมา สนามวิ่งเทรลที่เราได้พบได้วิ่งทางเรียบแค่ช่วงที่เป็นจุดสตาร์ทเพียงประมาณ 1 km เท่านั้น พอผ่านพ้นจากนั้นจะเป็นการเข้าป่าล้วน ๆ ป่าแรกที่เราได้เข้า คือ ป่าอ้อยของชาวบ้าน ที่มีหญ้าขึ้นสูงมองไม่เห็นสภาพพื้นดินที่เราจะได้หยั่งเท้าลงไป ทำให้ทุกช่วงก้าววิ่งของเราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะพื้นมีความไม่สม่ำเสมอบางช่วงอาจทำให้เกิดข้อเท้าพลิกได้ จากนั้นก็ได้ข้ามคลองน้ำที่ใช้ในการทำเกษตรของชาวบ้านเข้าสู่สวนหม่อน และเลี้ยวออกมาสู่พื้นที่การปลูกอ้อยอีกครั้งซึ่งเป็นป่าอ้อยที่ถูกตัดเรียบร้อยแล้ว และกำลังแตกยอดออกหน่อชุดใหม่ขึ้นมาเขียวขจีเชียวค่ะ บริเวณนี้เป็นช่วงเนินเขามีพื้นที่สูง ๆ ต่ำ ๆ ตลอดทาง เมื่อมองออกไปมีวิวทิวทัศน์สวยงามมากทีเดียว อ่อ... ลืมเล่าบอกไปค่ะว่าก่อนจะมาถึงป่าอ้อยตรงนี้เราก็ได้ข้ามคลองน้ำที่มีน้ำเจิ่งนองเปียกปอนกันมา ซึ่งทำให้เท้าค่อนข้างหนักและเกาะติดไปด้วยโคลนตมพอสมควร เพราะเราใส่รองเท้าวิ่งที่ไม่ใช่สำหรับวิ่งเทรลโดยเฉพาะมา จุดนี้เป็นจุดให้น้ำจุดแรก ซึ่งอาจเป็นจุดเดียวที่รถสามารถขนน้ำไปส่งให้นักวิ่งได้ เราจึงไม่ชะล่าใจรีบคว้าและพกขวดน้ำขวดนั้น ไว้ดื่มระหว่างทางจนจบการแข่งขันเลยทีเดียว เส้นทางวิ่งห้วยยางเทรลตลอดระยะ 10 km ที่เรานั้นได้วิ่งผ่าน ทำให้เราได้รู้ ได้เห็น และได้สัมผัสการเกษตรของชาวบ้านรอบ ๆ บริเวณนั้น ว่ามีความอุดมสมบูรณ์มากแค่ไหน ซึ่งน้ำที่ใช้ทำการเกษตรบางส่วนเป็นน้ำที่ไหลต่อมาจากสวนรุกขชาติน้ำผุดทัพลาวนั่นเอง นอกจากป่าอ้อยและสวนหม่อมที่เราพูดถึงไปแล้วนั้น ก็ยังมีสวนหมากที่ชาวบ้านปลูกเป็นส่วนใหญ่ สวนลำไย ป่าสัก แตงโม และผลไม้อีกหลายชนิด ซึ่งเราแยกไม่ออกว่าเป็นต้นของผลไม้ชนิดไหนบ้าง การวิ่งเทรลเป็นประสบการณ์ใหม่ของเรา ซึ่งต่างจากการวิ่งมาราธอนอื่น ๆ ที่เราเคยสัมผัสมา วิ่งทั้ง 2 แบบ มีมนต์เสน่ห์ที่แตกต่างกัน ซึ่งตัวเราเองก็รู้สึกชอบทั้ง 2 แบบ การวิ่งมาราธอนเป็นการวิ่งบนทางเรียบที่มีอุปสรรคเป็นเพียงเนินสูง ๆ ต่ำ ๆ เท่านั้น ใช้กล้ามเนื้อไม่มากเท่ากับวิ่งเทรล เพราะการวิ่งเทรลนอกจากวิ่งบนพื้นที่มีอุปสรรคมากกว่า บางครั้งถึงกับต้องใช้การปีนขึ้นปีนลงในพื้นที่ลักษณะที่เป็นภูเขาและมีความชันมาก ๆ อีกด้วย การวิ่งเทรลในครั้งนี้จบ 10 km ด้วยสถิติ 01:10:21 ชม. ติดลำดับที่ 2 ของรุ่นอายุ 30 - 39 ปีค่ะ ได้รับของที่ระลึกดังนี้ - เหรียญที่ระลึกซึ่งมีจำกัดที่ 100 คนแรกที่เข้าเส้นชัย - ผ้าบัฟสวย ๆ - จานที่ระลึกที่ทำจากกาบหมาก 1 ใบค่ะ ห้วยยางเทรล ครั้งที่ 2 ได้ถูกจัดขึ้นในวันที่ 22 ธันวาคม 62 ที่ผ่านมา แต่เราไม่ได้ไปร่วมงานนี้ เนื่องจากติดปัญหาการพักฟื้นร่างกายหลังจบมาราธอนแรก รู้สึกเสียดายมากค่ะ สัญญากับตัวเองว่าจะพยายามวางแผนการวิ่งและการฝึกซ้อม เพื่อให้ได้ไปห้วยยางเทรลอีกครั้ง ถึงแม้ว่าในคราวต่อ ๆไปจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการลงสมัครก็ตามค่ะ