เมื่อถึงคราหมดลมหายใจ สิ่งที่คนอยู่มอบให้ในคราสุดท้าย เส้นด้ายสีขาวร้อยผูกสิ่งของแขวนไว้บนหัวศพ ภูมิปัญญาชาวบ้านต่างครรลอง มีสิ่งต้องจำกัดจัดให้ดี เชื่อต้นไม้นี้ต้นสุดท้ายนำทางไปสู่สวรรค์ ความเชื่อจะคงอยู่ถ้าหากมีการสานต่อ ชาวภูไทมีความเชื่อในเรื่องของการตาย พิธีสำคัญที่ห้ามทำผิดประเพณี ถ้าหากผิดจะเรียกว่า “ผิดผี” หรือบางครั้งผิดคนอยู่ ทำให้เกิดการเสียชีวิตต่อก้นไปเรื่อยๆ พิธีกรรมที่ไม่อาจสูญหายไปจากชุมชน แต่ก่อนเมื่อมีคนตายในหมู่บ้าน ทุกคนจะหยุดกิจกรรมทุกอย่างเพื่อมาร่วมงานแสดงความอาลัยต่อศพ ซึ่งถ้าสมัยก่อนจริงๆ จะห้ามขนฟืนเข้ามาบ้าน ญาติจะมานอนร่วมกันที่บ้าน เรียกว่าการมานอนอุ่นบ้าน จะพากันนอนหน้าโลงศพ เพื่อในตอนเช้าจะตื่นมาเพื่อนึ่งข้าวหุงหาอาหาร เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญสุดท้าย ที่คนอยู่จะทำให้กับผู้ตาย ซึ่งในหมู่บ้านจะมีเพียงตาผู้มีอายุคนหนึ่งเท่านั้นในหมู่บ้านจะเป็นคนจัดเครื่องต้นให้ เมื่อมีการตายเกิดขึ้น ชาวบ้านก็จะเดินทางไปหาและบอกว่า จัดต้นงานศพให้หนึ่งชุด คงจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นในหมู่บ้านที่รู้จักและเป็นร้านค้าที่มีของครบ ซึ่งจะไม่มีการจัดไว้ล่วงหน้าเพราะจะทำให้เป็นลางไม่ดีกับผู้อยู่ ถ้าหากว่าไม่สังเกตดีๆ ในเวลาที่เรานั้นไปร่วมงานศพก็จะไม่เห็น ส่วนใหญ่แล้วจะสนใจชื่อและอายุ มองรูปถ่ายผู้ตาย ตื้นตันพอแล้ว คนที่เคยเห็นกันทุกวัน เดินไปมาพูดคุยด้วยกัน สุดท้ายแล้วยกลงจากรถเพียงกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ภายนอกดูงดงามแต่คนภายในที่นอนนั้นไม่มีวันได้เห็น มุมของต้นหัวศพ หลังจากที่นำศพวางเรียบร้อยต้นหัวศพจะถูกนำมาแขวนไว้ ซึ่งใครจะนำไปแขวนได้ทั้งหมด ถ้าหากว่าไม่มีที่แขวน จะต้องใช้การตอกตะปู ทำที่แหวนให้จงได้ ไม่มีศพไหนในหมู่บ้านที่ไม่มีต้นหัวศพ หลังจากที่มีการตายเกิดขึ้น หน้าที่ของญาติพี่น้องคือ ชายเมื่อรู้มีการตาย จะต้องเดินทางไปหาหญ้าคาสดประมาณหนึ่งกำมือ พร้อมกับไม้ไผ่ ตอกมัดข้าวที่ทำจากไม้ไผ่เหลาบางๆ นำมาไว้ที่บ้านผู้ตาย ซึ่งอาจจะเป็นน้องหรือพี่ผู้ตายได้ทั้งหมด ไม่ได้จำกัด ส่วนของหญิงนั้นก็จะเตรียมครัว และซื้อเครื่องต้น เทียน ธูป นำมาเตรียมพร้อมในการใช้ การมัดต้นหัวศพ จะเป็นหน้าที่ของชาย เพราะจะต้องจับมีดพร้า เจียนไม้ไผ่ ซึ่งใช้หญ้าคาหนึ่งกำมือ มัดด้วยไม้ไผ่เจียนบางๆเหมือนตอกมัดข้าว นำไปแช่น้ำ ซึ่งหลังจากนั้นจะนำมามัดหญ้าคา ระยะห่างกันประมาณสามนิ้ว สองนิ้วให้แน่นและแข็งแรง ซึ่งวิธีการมัดจะต้องดึงแรงและมัดแน่น เพราะหลังจากนั้นจะต้องเสียบไม้ไผ่ใส่และมัดข้าวของใช้ต้นหัวศพด้วยถ้าหากไม่แข็งแรงจะทำให้หลุดหรือหักได้ และไม้ที่เสียบสำหรับมัดปัจจัยใส่จะทำเป็นฝอยๆ เหมือนกันกับเส้นมาม่า เพื่อให้มีมุมได้มัดด้ายขาวใส่ให้ ถือเป็นอันเรียบร้อย ซึ่งในการทำต้นหัวศพ การมัดหญิง ต้นหัวศพนั้นจะต้องทำก่อนที่ศพจะมาถึงหรือทำทันทีที่รู้ว่าผู้ตายหมดลมแล้ว ซึ่งใช้เวลาในการทำไม่นาน เวลาที่มีงานศพจึงต้องนึกถึงต้นหัวศพก่อนอันดับแรก เพื่อให้วิญญาณผู้ตายได้รับรู้ว่าตนเองได้จากโลกนี้ไปแล้ว ที่สำคัญต้องเป็นบุคคลที่เคยทำถึงจะทำออกมาได้รวดเร็วและทนทาน ต้องทำใหม่ทุกครั้งไม่มีการใช้ซ้ำ และไม่มีขาย ร้อยใส่ ต้นหัวศพ หลังจากที่ได้ เครื่องต้น ครบแล้วก็จะมาทำการร้อยด้ายขาวใส่มุมของใช้ทุกชิ้นที่ได้มา ซึ่งมีจำนวน 21 อย่าง สิ่งของทุกอย่างจะต้องทำเป็นัสองชุดด้วยกัน นำมาร้อยด้วยด้ายขาวความยาวประมาณ 10 นิ้ว หรือพอสำหรับการร้อยใส่แล้วมัดได้ ซึ่งด้ายที่ใช้ร้อยนั้นมีชื่อว่า ฝ้ายใน ซึ่งในสมัยก่อนนั้นจะต้องทำเองทุกขั้นตอนตั้งแต่ ปลูกจนมาถึงเป็นเส้น แต่ปัจจุบันนี้เน้นการซื้อขาย เพราะไม่ค่อยมีใครทำ เมื่อซื้อมาแล้วจะนำมาม้วนเป็นเส้น เครื่องต้นประกอบด้วยอะไรบ้าง เรามาดูเครื่องต้นทั้งหมดที่จะนำมาใส่ในต้นหัวศพว่ามีอะไรบ้าง เป็นสิ่งที่หาได้ง่ายตามร้านค้ากระจกหวีแปรงสีฟันยาสระผมเข็มดินสอปากกายาสีฟันแป้งสบู่ทิชชูฝอยขัดหม้อสก๊อตไบรท์สมุดมาม่าขนมผงซักผ้าโอวัลตินผงชูรสซันไลขนมปัง เมื่อได้มาครบแล้ว ก็จัดการร้อยฝ้ายขาวใส่ทั้งหมด ซึ่งการทำต้นหัวศพจะต้องใช้ทั้งหมดสองใน ในแรกคือใช้เย็บห้อยข้าวของ ในที่สองจะใช้ผูกใส่กับหญ้าคามัดที่เตรียมสำหรับการร้อยสิ่งของใส่ เข็มที่นำมาร้อยด้ายใส่นั้นต้องเป็นคนละอันกับที่เราจะใส่ต้นหัวศพ เพราะถ้าสิ่งของไหนที่ใช้แล้วจะไม่นำมาเป็นของทาน ฝ้ายที่นำมาทำต้นหัวศพ ฝ้ายขาวที่นำมาทำเชือกมัดของต้นหัวศพจะต้องเป็นฝ้ายมัดใหญ่ จากนั้นจะนำมาแกะออกทีละชิ้นเพื่อนำมาแยกออกทีละเส้น ซึ่งฝ้ายนี้จะใช้ในการทำพิธีทั้งหมดในงาน เกี่ยวกับพิธีสงฆ์ การนำฝ้ายมาร้อยต่อเข้าด้วยกัน จะต้องใช้มือทั้งหมด วิธีการร้อย ร้อยด้วยมือถ้าเป็นดินสอ ปากกา ขวดแป้ง ขวดซันไล จะต้องใช้วิธีพันหลายๆรอบให้แน่น จากนั้นจะมัดแน่นเพราะถ้าหากไม่ทำแบบนี้ จะทำให้หลุดได้ง่ายเมื่อนำไปร้อยใส่ต้นหัวศพที่ทำไว้ เพราะสิ่งเหล่านี้ค่อนข้างจะน้ำหนักเยอะ ซึ่งใช้เวลาในการร้อยไม่นาน ร้อยใส่ฝ้ายขาวเพื่อรอต้น ซึ่งจะต้องทำให้เสร็จก่อนที่จะตั้งศพ ทำเองด้วยฝีมือชาวบ้าน ญาติพี่น้อง ไม่เน้นสวยงาม เน้นการใช้งานได้ แข็งแรง หน้าตาของต้นหัวศพที่พร้อมสำหรับการร้อย อุปกรณ์ในภาพด้านบนมีจำนวนครบ แต่ยังเหลือไม้สำหรับร้อยที่จะต้องทำให้บางเพื่อเวลาที่ร้อยใส่ไม้จะโค้งโน้มลงมา จำนวนของไม้ ซึ่งจำนวนของไม้นั้นจะประมาณ 14 อัน ซึ่งจะแล้วแต่การร้อยของเรา ถ้าหากว่าต้องการใส่จำนวนมาก สามารถที่จะมัดหนึ่งไม้สองอย่างสามอย่สงได้ การผ่าไม้ไผ่ให้เป็นเส้นบางๆ การทำต้นไม้ไผ่และหญ้าคา ในขณะที่มัดหญ้าคานั้นจะต้องมีการหมุนต้นให้ไปในทางเดียวกัน เพื่อความเรียบร้อยและสวยงาม เทคนิคอย่างหนึ่งที่จะทำให้ต้นหัวศพนั้นดูดีจะต้องทำไม้ให้บางสวยและเสมอกัน ไม้ไผ่ที่นำมาทำ การนำไม้ไผ่มาทำต้นหัวศพเราใช้ไม้ไผ่ไร่ ซึ่งมีความเหนียวและนุ่มเมื่อนำไปแช่น้ำ และจะต้องนำมาใหม่ ใช้ไม้ที่เหลืออยู่หรือเตรียมที่จะทำอย่างอื่นไม่ได้ เพราะต้นหัวศพเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเตรียมตัวและอยากให้เกิดขึ้น ใช้ข้าวของใหม่ทุกอย่าง วิธีการร้อยใส่ การร้อยใส่เมื่อได้ต้นหญ้าคามา จะนำมามัดด้วยฝ้ายในหนึ่งใน มัดสำหรับหิ้วต้นหัวศพ ลำดับของการร้อยจะเริ่มร้อยในสิ่งที่จำเป็นก่อนเป็นอันดับแรกเพราะเราจะไม่ร้อยใส่ทั้งหมด ให้เต็มและครบสิ่งของที่จำเป็นพอ ส่วนของที่เหลือนั้นจะนำไปใส่กะลามังไว้ ถ้าหากว่าร้อยใส่ทั้งหมด อาจทำให้หล่นหรือตกลงมาได้ สิ่งของที่จำเป็นอย่างเช่น ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ยาสระผม แป้ง สมุด ทิชชู ผงซักผ้า ซันไล ใส่ประมาณนี้ได้ ไม่ต้องใส่หมด ใส่ตามความเหมาะสมไม่เยอะหรือไม่ดูน้อยจนเกินไป จากนั้นจะทำไปผูกไว้บนหัวศพ การร้อย ในการร้อยของใส่ อาจจะหาที่ตั้งไว้หรือแขวนไว้ เพื่อความสะดวกในการร้อย มัดใส่ไม้ละหนึ่งละสองแล้วแต่ความเหมาะสม เมื่อมัดเรียบร้อย ก็สามารถนำไปใช้งานได้เลย ควมมเชื่อเรื่องต้นหัวศพนั้น เชื่อว่าจะทำให้วิญญาณรู้ว่าตนเองเสีนชีวิตแล้วเพราะจะได้รับรู้ ได้รับของที่ห้อยไป เพราะวิญญาณอาจจะมาที่บ้าน แล้วเห็นงานศพเมื่อเดินเข้าไปหาจะเห็นต้นหัวศพของตนเอง ทำให้รู้ตนเองเสียชีวิตตายจากโลกนี้ไปแล้ว การใช้ประโยชน์จากหญ้าคา ต้นหญ้าคาที่นำมาคือต้นสด นำมาจะแบ่งทำสองอย่าง อย่างแรกคือการทำต้นหัวศพ อย่างที่สองคือการทำที่พรมน้ำมนต์ ทั้งสองอย่างทำจากหญ้าคามีดเดียวกัน ลักษณะของการมัดตอก จะมัดเหมือนกัน มัดให้แข็งแรง ต้นหัวศพ จะแขวนอยู่แบบนั้นจนถึงวันที่เคลื่อนศพออกพ้นจากบ้าน เพื่อนไปเผายังเมรุ ซึ่งตั้งแต่แขวนก็จะไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวจนถึงเวลาของการจากลา ตัดต้นหัวศพ หลังจากที่ศพเคลื่อนออกจากบ้านไปไกลพ้นจากบ้าน จึงปลดต้นหัวศพลงมาด้านล่าง ใช้กรรไกรตัดออกทีละชิ้นและนำต้นที่เป็นหญ้าคานำไปทิ้งขยะ ซึ่งมีความเชื่อว่าเมื่อพระสวดให้แล้วจะได้รับ และรู้แล้วการตัดต้นหัวศพ หมายถึงการตัดขาดจากการเป็นพี่น้องในโลกมนุษย์ การตัด ต้องใช้กรรไกรตัดไม่ใช้การดึงเพราะถ้าหากใช้มือดึงอาจจะทำให้ด้ายบาดมือได้ ใช้กรรไกรตัดดีที่สุดหรือจะใช้มีดตัดได้เช่นกัน ส่วนของต้น นำไปทิ้ง หลังจากที่ตัดของออก สามารถนำไปทิ้งได้ ถือว่าใช้ประโยชน์เรียบร้อยแล้ว สามารถทิ้งได้ ส่วนของที่ตัดออกก็จะนำไปใส่ถุงเพื่อนำไปแจกทำบุญที่วัดต่อ ชีวิตของคนเรามีเพียงเท่านี้ เมื่อไหร่ที่หมดลมหายใจ แม้เงินในมือยังมีคนนำมาใส่ให้ แต่ใช่ว่าจะนำอะไรไปได้ การทำต้นหัวศพให้ผู้ตายเช่นกัน ไม่มีใครกลับมาบอกว่าได้อะไรไปบ้าง แต่สำหรับคนที่อยู่ต่างมีความหวังดีในครั้งสุดท้ายส่งให้กับคนที่เรารัก แม้อาจจะไม่รู้ว่าเขาเหล่านั้นได้รับจริงหรือไม่ ใจที่ให้บริสุทธิ์เสมอภาพถ่ายทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน(อุ้งเท้าแมว) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !