บอร์ดเกมแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ปัจจุบันการเรียนรู้สามารถศึกษาอย่างไร้ขีดจำกัด เทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ ล้วนอยู่ในมือของมนุษย์เกือบทุกคน ทั้งโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ 5 ของใครหลายคน บางครอบครัวเลือกที่จะเลี้ยงลูกด้วยโทรศัพท์ ทำให้เด็กบางคนมีสื่อในมือตั้งแต่เด็ก แต่การที่เด็กมีสื่ออยู่ในมือใช่ว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้เขาเห็นความเปลี่ยนแปลงของโลกมากยิ่งขึ้น เกิดพฤติกรรมที่เลียนแบบและนำพาไปสู่ปัญหาภายในครอบครัว การจัดการเรียนรู้สำหรับเด็กจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ย้อนไปในอดีตการศึกษาของหลาย ๆ ประเทศเลือกยึดครูเป็นศูนย์กลาง ( Teacher - centered) ซึ่งเป็นการจัดการเรียนรู้แบบเก่าที่ครูมีหน้าที่บรรยาย ไม่มีการลงมือปฏิบัติ ไม่มีการทดลอง ทำให้นักเรียนไม่เกิดความรู้อย่างแท้จริงหรือเรียกว่าความรู้มือสอง คือ ความรู้ที่ไม่ได้เกิดจากการศึกษา ค้นคว้าด้วยตัวเองอย่างท่อแท้ ไม่เกิดจากการเรียนเรียนรู้ จึงของนิยามว่าเป็นความรู้มือสอง บอร์ดเกมหรือเกมกระดานมีมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน และหลายประเทศนำมาเป็นสื่อการการจัดการเรียนรู้ เช่น หมากรุก หมากฮอส แม้กระทั้งแระเทศไทยก็นำเกมกระดานหมากฮอสมาบรรจุไว้ในหลักสูตรการศึกษาเพื่อให้เด็กเกิดการคิด การวางแผน วอเคราะห์ความเป็นไปได้ สำหรับบอร์ดเกมที่นำมาเขียนบทความในครั้งนี้คือ บอร์ดเกม Game of Farm ประเภทการวางแผน โดยเกมจะเกี่ยวกับการทำฟาร์ม ผู้เล่นจะมีฟาร์มเป็นของทีมสามารถปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์ได้โดยการตอบคำถาม ถ้าตอบถูกมีสิทธิ์ที่จะซื้อผัดและสัตว์มาไว้ในฟาร์มได้ และในแต่รอบจะมีอุปสรรคที่ทำให้ฟาร์มนั้นเสียหาย ทั้งโดยโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม และเกิดภัยธรรมชาติทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหาย เกมนี้ทำให้เด็กได้เล่นสนุกผ่านการเรียนรู้แบบเกม ( Game based learning ) ในบอร์ดเกมนี้มีไอเทม หรือเบี้ยต่าง ๆ ไว้ให้ผู้เรียนอย่างเพียงพอ โดยมีวิธีในการเล่นดังนี้แบ่งจำนวนผู้เล่น โดยจะเล่นเป็นคู่ และใน 1 กระดานจะสามารถเล่นได้ 4 คู่ ให้ผู้เล่นเลือกภายในทีมว่าจะเป็นตัวละครใด โดยมี เจ้าของฟาร์ม และ ชาวไร่ผู้เล่นได้รับหมากสีประจำทีม และเงินทีมละ 500 บาทให้ผู้เล่นทอยลูกเต๋าเพื่อให้ทีมเล่นเล่นก่อนผู้จัดการเดินหมากเดินเกมช่องแรกและให้ทีมที่ได้เล่นก่อนเล่นเกมโดยให้ตอบคำถามเพื่อสร้างพื้นที่ในการปลูกผัก และเลี้ยงสัตว์ หากผู้เล่นไม่สามรถตอบคำถามได้จะโดนปรับโดยพื้นที่นั้นจะไม่สามาถซื้อได้ในแต่ละช่องของรอบเล่นเกมจะมีอุปสรรค โดยถ้าเจอการ์ดให้โจมตีฝ่ายตรงข้ามก็ต้องทำการโจมตี โดยมี การจับการ์ดพิเศษ ราคา 100 บาท หรือเลือกปล่อยศัตรูพืชเพื่อทำให้พืชเสียบางส่วนโดยมีราคาดังนี้ 1. ปู 10 บาท/ตัว ปู 10 ตัวทำลายนาข้าวเสียหายได้ 50% 2. สุนัขจิ้งจอก 10 บาท/ ตัว สุนัขจิ้งจอก 10 ตัว ทำลายเล้าไก่ได้ 50% 3.หนู 10 บาท/ตัว หนู 10 ตัวทำลาย มันสำปะหลัง 50% 4. กระรอก 10 บาท/ตัว กระรอก 10 ตัวทำลาย อ้อยได้ 50%นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคจากภัยธรรมชาติโดยมีราคาดังนี้ 1. ฝนตกหนัก น้ำท่วม ส่งผลให้พืชเสียหาย ฟื้นฟู 50 บาท/ไร่ 2. แห้งแล้ง ส่งผลให้พืชเสียหาย พื้นฟู 20บาท/ไร่เมื่อหมดเวลาในการเล่น ต้องหาผู้ชนะจากการนับพื้นที่ในการเล่น ทีมใดมีเยอะมากที่สุดชนะ แต่หากมีพื้นที่เท่ากันก็นับจำทรัพย์สินที่มีหากทีมใดได้มากที่สุดเป็นฝ่านชนะ สำหรับบอร์ดเกม Game of Farm ตัวผู้เขียนเป็นคนออกแบบโดยมีกลุ่มเพื่อนที่ศึกษาและออกแบบร่วมกันและได้นำไปทดลองกับกลุ่มนักเรียนจำนวน 3 โรงเรียน ผลปรากฏว่า ผลการทดสอบระดับชาติ (O-net) ของนักเรียนเพิ่มขึ้น เพราะในคำถามที่เด็กได้ตอบเป็นคำถามเกี่ยวกับข้อสอบที่นักเรียนจะได้นำไปสอบและมีเทคนิคที่สามารถใช้ได้จริง เด็กสนุกกับการเรียนรู้มากขึ้น นอกจากนี้ยังได้เห็นทัศนคติของเด็กหลายคนที่กล้าตอบคำถาม โดยผู้เขียนเองได้สร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ให้เด็กรู้สึกปลอดภัย หรือเรียกว่าการสร้างอารมณ์ในการเรียนรู้ ปล่อยให้เด็กได้แสดงความรู้สึก ทำให้เขารู้สึกเหมือนไม่ได้เรียนแต่ที่จริงแล้วเขากำลังเรียนเนื้อหาเลยแหละ บอร์ดเกมนี้ตัวผู้เขียนก็ไม่ได้มีความรู้ในการทำบอร์ดเกมแต่ก็มีการศึกษาทดลอง เล่นเอง หลายรอบ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องบอร์ดเกมหลายท่านจากมหาวิทยาลัยที่ผู้เขียนได้ศึกษาอยู่ เป็นการแลกเปลี่ยนกระบวนการเรียนรู้หากมีคำแนะนำอื่น ๆ ก็ช่วยแนะนำกันมาได้ บอร์ดเกมนี้จัดทำขึ้นเอง หากเพื่อน ๆ ท่านใดสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเข้ามาในอินบล็อคเลยนะครับ F: ตะจิ ทาโร่ผมเชื่อว่าเด็กทุกคนสามารถเรียนรู้ได้และเรียนรู้ได้ดี หากครูเลือกนำสื่อมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่มีนักเรียนที่สอนไม่ได้ มีแต่ครูที่สอนไม่เป็น ขอบคุณครับ