ก็ ขึ้นชื่อว่าถนนรอบป่าช้า มันก็ต้องน่ากลัวพอสมควรคือ ตั้งแต่ประมาณสัก 20 ปีก่อนนั้นนะ มันไม่มีหรอกครับถนนรอบป่าช้า ก็ มันเพิ่งจะมีมา ได้สักสองสามปีนี้ละครับ แต่ก่อน คนในหมู่บ้านก็ มาหาของป่าบ่อยๆ แต่ ก็ไม่เยอะเท่าไหร่นัก คนที่มา เขาก็ไม่กลัวกันหรอกครับ ส่วนมากก็จะเป็นคนแก่ มีอายุหน่อยครับ ห้าสิยหกสิบปี คือเคยชินกับบรรยากาศแถวนี้ว่างั้นเถอะ แต่ถ้าป็นผม ก็ คงไม่ไปหรอกครับถ้าไม่จำเป็น ที่ ที่เป็นป่าช้าตรงนี้ มันมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็ไม่รู้หรอกครับ เกิดมาก็เห็นเลย น่าจะสักร้อยกว่าปีได้ บรรยากาศรอบๆก็อย่างว่านะ ก็ป่าช้านิ่นะด้านตะวันออกชองป่าช้า ก็จะเป็นริมเขื่อนมองจากถนนใต้ป่าช้า ด้าทิศเหนือก็ เป็นที่ท่องเที่ยว ชื่อว่า พัทยา2 ตั้งมาได้สักสิบปีละมั้ง ด้านทิศไต้ก็เป็นที่นาริมเขื่อนครับ ส่วนด้านตะวันตกของป่าก็เป็นหมู่บ้านที่ผมอยู่ครับ ที่มาของเรื่องหลอนๆนั้นมันก็มีครับ แต่ก็ไม่ได้เจอกันทุกคน จะมีบ้างบางคน และก็เป็นความเชื่อส่วนบุคล ส่วนตัวผมเองก็เคยเจอมาเหมือนกัน แต่ก็ไม่บ่อยนัก ส่วนมากก็จะเป็นหน้าฝนซะส่วนมาก ทำไมต้องเป็นหน้าฝนนั้นเหรอครับ !! ก็ส่วนมากแล้วคนอีสาน หน้าฝนจะหากินกันง่ายๆ พอฝนตครั้งแรกนะครับ มันจะมีพวก อึ่ง กบ เขียด และอื่ๆที่สามารถเอาไปทำเมนูอาหารได้ ผมคนหนึ่งครับที่ชอบออกหากินกลางคืน ไม่ใช่ปอปนะครับ !! โดยเฉพาะฝนแรก เพราะมันจะหากินได้ง่าย แม้กระทั่งรายได้ในครอบครับ จึงเป็นที่มาของความหลอนนี่ละครับฝนแรกของปีกลาย ประมาณรี้ครับ คือคนเราต้องดิ้นรนอะนะ คืนวันนั้นก็ปกติของฝนแรก หรือฟ้าฝนใหม่ ก็มีฟ้าร้อง ฟ้าแลบ เป็นปกติ คืนนั้น ฝนนิ่ห่าใหญ่มากนำ้นิ่โอ้โหเยอะครับ เหมาะแก่การส่องกบเป็นอย่างยิ่ง ถึงเวลาที่ต้องออกหากินล่ะ นานที ว่าแล้วก็ไปละครับ แรกๆ ก็เริ่มจากทุ่งนาใกล้บ้าน แต่ใกล้บ้านคนจะเยอะหน่อย กบ เขียด ก็มีบ้างแต่ไม่มากพอที่จะเอาไปขาย ก็เลยต้องไปเรื่อยๆตามเสียงร้องของกบ เสียงอยู่ตรงใหนเราก็ ดิ่งไปตามเสียงทันที แรกๆคนก็เยอะครับ แต่ตกดึก ก็เหลือไม่กี่คนทุ่งมันกว้างก็ไม่ค่อยจะเห็นกันเท่าไหร่ เริ่มดึกแล้ว เสียงกบ เขียด อึ่งอ่าง มันก็ยิ่งร้องมากขึ้น อย่างว่าคนหากิน ผมก็เดินไปตามเสียง เรื่อยๆ จนไปถึง ทางรอบป่าช้าเก่า แม้เสียงกบ มันช่างเย้ายวนจริงๆ เสียงข้างในป่าช้านี่มันน่ามีเป็นหมื่นๆครับ แต่ผมคงไม่เข้าไปหรอกครับ ว่าแล้ก็หามันขา้งๆป่าช้านี่ละครับ น่าจะได้เยอะดี แต่มองไปรอบๆ ไม่มีใครเลยครับนอกจากผม แต่ก็จำเป็นเพื่อเงินครับ เริ่มส่องไป ตามข้างทาง สุดยอดมันช่างเยอะจริงๆแป๊ปเดียว ได้จะเต็มถุงแล้วถ้าเต็มถุงก็จะได้สัก สิบห้ากิโลได้ไปได้สักสามสี่ร้อยเมตร ก็ไปเจอไฟอยู่ดวงหนึ่งเหมือนคนกำลังส่อง กบ เหมือนเราละ่ แต่ด้วยความที่กลัวว่าเขาจะจับหมดก่อน ก็เลยต้องรีบเดินไปให้ออกข้างหน้าไฟดวงนั้น พอรีบๆหน่อยก็ไม่ได้กลัวอะไรแล้วครับ กลัวไม่ได้อย่างเดียว พอถึงไฟดวงนั้นครับ แว๊บ !!!!! ครับ แว้บเดียวไฟดวงนั้ก็ลอยขึ้นสูงท่วมหัวผมเลยครับ เอ๊ะ !!!! ผมตาฝาดหรือเปล่าวะ ยังไงก็ต้องรีบเดินออกไปจากตรงนี้ก่อน แต่ก็อดหันหลังมองไม่ได้ ก็เลยต้องมอง แต่ โอ้แม่เจ้า นั่นมันไม่ใช่ไฟส่องกบอย่างที่เราคิด มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ครับมันลอยได้ มันลอยขึ้นสูงเลยครับ ว่าแล้วก็กลับหลังหัน กลับบ้านดีกว่าเราว่ิงสิครับอยู่ทำไม ได้ไม่ได้ก็ไม่อยู่แล้วครับ ! ถึงบ้าน นอนละครับพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน กบก็ได้เยอะพอสมควร ถ้าไม่มีไอ้ไฟนั่นคงได้เยอะกว่านี้ ตื่นเช้ามาก็เอากบไปขาย ก็ได้หลายร้อยครับ แต่ไม่ถึงพัน น่าเสียดาย ถ้าไม่มีอะไรมากวนก่อนน่าจะได้หลักพัน แต่ถ้าไม่มีก็คงไม่มีเรื่องเล่าสู่กันฟังเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ผมเจอมากับตัวเอง สุดท้ายก็ อย่าออกไปใหนคนเดียวกลางคืน โดยเฉพาะข้างป่าช้า !!!!!!!!!!!!!!!!รูปภาพและเนื้อเรื่อง โดย สนธยา พาเพลิน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !