หากคนเรามีสติอยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว คงไม่มีข่าวคนขับรถทะเลาะกันบนท้องถนน ไม่มีข่าวโดนหลอกโอนเงิน ไม่มีข่าวชู้สาวของคนดัง ตามหน้าหนังสือพิมพ์ เพราะ สติจะไปยับยั้งความโกรธ สติจะไปยับยั้งความอยากได้ สติจะไปยับยั้งความรักใคร่ที่เกินขอบเขต สติ คือ การระลึกได้ หรือ ความรู้สึกตัว ทำไมในบางครั้ง เรามีสติอยู่ แต่ความโกรธไม่หายไป เป็นเพราะ กำลังของสติมีน้อยไป ขณะที่กำลังความโกรธมีมากไป เหมือน ไฟไหม้ลุกโชนบ้านหลังหนึ่ง แต่มีน้ำดับไฟแค่หนึ่งขัน ย่อมไม่สามารถดับไฟกองนั้นได้ ดังนั้นเราควรฝึกสติสม่ำเสมอ ให้มีพละกำลังมากพอ ให้มีพลังเพื่อจัดการอารมณ์ที่เป็นลบต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาได้อยู่หมัด หลักฐานที่บอกว่าฝึกสติแล้วเกิดกำลัง เกิดพลัง คือ ความสงบ ความสุข ความเป็นหนึ่งเดียวของจิตใจ จากการฝึกสติที่ต่อเนื่อง ขอแบ่งปันเคล็ดลับที่จะช่วยให้สุขภาพจิตเข้มแข็ง ใจมั่นคง จากการฝึกสติในชีวิตประจำวัน ดังนี้ ขณะอยู่ในห้องน้ำตอนเช้า ถ้าแปรงฟันให้นับจำนวนครั้งที่แปรงสีฟันกระทบฟันในแต่ละซี่ เช่น แปรงฟันกรามบนซ้ายครบ 5 ครั้ง ให้เลื่อนไปนับการสีฟันซี่ที่อยู่ถัดไป ทำจนครบทั้งฟันด้านบนและล่าง ถ้าอาบน้ำให้สังเกตความรู้สึกร้อนหรือเย็นจากน้ำที่กระทบผิว หรือให้รู้สึกถึงแรงกดทับกับผิวหนังจากการถูสบู่ ถ้าถ่ายหนักให้สังเกตความทุกข์ก่อนที่จะปล่อยของเสียออก และสังเกตความสุขสบายหลังจากปล่อยของเสีย ขณะรับประทานอาหารเช้า ให้นับจำนวนการกระทบของฟันจากการเคี้ยวอาหาร ตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย ของอาหารมื้อนั้น ขณะเตรียมตัวขับรถ ให้บริกรรมคำสั้นๆ เช่น "ขับรถ" บริกรรมไปเรื่อยๆ อย่างสบาย ไม่บีบเค้น ไม่เร่งรีบ ขณะติดไฟแดง ให้บริกรรมคำว่า แดงๆๆๆ ไปเรื่อยๆ ขณะแวะปั๊มน้ำมัน ให้สังเกตความทุกข์จากการกลั้นปัสสาวะ และสังเกตความรู้สึกสบายจากการปล่อยปัสสาวะออกจากร่างกาย ยังมีอีกหลายกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่สามารถนำเอาการฝึกสติเข้าไปร่วมด้วยได้ เช่น ล้างจาน ซักผ้า รีดผ้า รดน้ำต้นไม้ แม้กระทั่งการออกกำลังกาย เป็นต้น หลักสำคัญ คือ สร้างสติให้สม่ำเสมอ สร้างสติให้ต่อเนื่อง เมื่อสติมีกำลังมากพอ ทุกปัญหาที่เข้ามา ย่อมมีทางออกที่ดี มาฝึกสติในชีวิตประจำวันกันเถิด แล้วชีวิตจะดีขึ้นทุกด้าน