ขอนแก่น- เกษตรกร “บ้านนาเพียง” ปลูกกุยช่าย สร้างรายได้ถึงเดือนละ 1 แสนบาท และยังทำในชุมชนเกิดการสร้างงานไม่ต้องออกไปทำงานไกลบ้านหลังจากที่สภาพอากาศหนาวเย็นลง ส่งผลดีต่อเกษตรกรที่บ้านนาเพียง ตำบลสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ที่ทำการ เพาะปลูกกุยช่ายเขียว และ กุยช่ายขาว ซึ่งสภาพอากาศหนาวเช่นนี้ ทำให้กุยช่ายเขียวและกุยช่ายขาว นั้นมีสภาพที่แข็งแรงสวยงาม เกษตรกรสามารถขายได้จำนวนมากขึ้นจนทำให้มีรายได้จากการปลูกกุยช่ายเขียวและกุยช่ายขาว เพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัวนางสำรวย ชินคำ อายุ 58 ปี เกษตรกรที่เพาะปลูกกุยช่ายเขียวและกุยช่ายขาว มานานกว่า 30 ปี เปิดเผยว่า หลังจากที่จังหวัดขอนแก่นได้เข้าสู่ฤดูหนาวนั้น ส่งผลทำให้กุยช่ายเขียวและกุยช่ายขาว ที่ตนเองได้ทำการเพาะปลูกนั้นมีผลผลิตที่ดี โดยเฉพาะกุยช่ายขาวที่เวลาปลูกต้องเอากระถางต้นไม้คลอบปิดไว้ไม่ให้โดนแสงแดดและต้องค่อยดูแลอย่างใกล้ชิดให้น้ำมากหรือน้อยเกินไป ทำให้กุยช่ายขาวนั้นมีราคาที่สูงกว่ากุยช่ายเขียวธรรมดาถึง 3 เท่า แต่หากปลูกในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูฝนนั้นผลผลิตที่ได้จะเสียหายเยอะถึง 30 เปอร์เซ็นต์ จากการผลผลิตที่ปลูกทั้งหมด แต่เมื่อเข้าฤดูหนาวนั้นจะได้ผลผลิตเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และในหนึ่งเดือนสามารถตัดขายได้ 2-3 รอบส่วนราคาการขายผักกุยช่ายนั้น หากเป็นกุยช่ายเขียวจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 25 บาท ส่วนกุยช่ายขาวจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 90 บาทแต่ ซึ่งหากเปรียบเทียบในฤดูร้อนและฤดูฝนปกติตนเองนั้นจะมีหลายได้จากการปลูกกุยช่ายทั้ง 2 ชนิดอยู่ที่ประมาณเดือนละ 4-6 หมื่นบาทแต่ในช่วงฤดูหนาวนั้นตนเองจะมีรายรับจากการปลูกกุยช่ายเพิ่มขึ้นถึง เดือนละ 7 หมื่นถึง 1 แสนบาท ซึ่งยอดรายได้ที่แตกต่างกันนั้นเนื่องจากผลผลิตในฤดูหนาวสมบรูณ์กว่า ฤดูร้อนและฤดูฝน ที่ต้องคัดกุยช่ายทิ้งครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียวนอกจากนี้ การทำกุยช่าย ที่บ้านนาเพียงนั้น เป็นการปลูกพืชแบบสร้างงานให้กับชุมชน หลังจากที่เกษตรกรทำการเก็บเกี่ยวกุยช่ายมาแล้ว ก็จะจ้างประชาชนในพื้นที่ ที่รับจ้างลอกเด็ดใบที่ไม่สมประกอบออก เพื่อความสวยงามก่อนส่งจำหน่าย ซึ่งมีค่าจ้างสูงถึงกิโลกรัมละ 5 – 10 บาท เนื่องจากกุยช่ายเป็นพืชที่มาราคาคงที่ตลอดทั้งปี