ท่องเที่ยว
เชียงคาน รอบที่ล้าน มากี่ครั้งก็ยังหลงรัก

ถ้าหากถามว่าความสุขคืออะไร ความสุขหาไดจากที่ไหน
สำหรับเรา ความสุขอยู่รอบตัวเลย แต่จะดีไหม ถ้าได้ลองเปลี่ยน เปลี่ยนวิถีชีวิตแบบเดิมๆ ลองไปสัมผัสชีวิตในรูปแบบใหม่ ใช้ชีวิตแบบช้าๆ หลีกหนีความวุ่นวาย จากแสงสี มันเป็นอะไรที่สามารถเติมเต็ม และชาร์ตพลังบวกให้กับชีวิตเรามากขึ้นเลย
เชียงคาน จังหวัดเลย เมืองเล็กๆ แต่อบอุ่น อบอุ่นทั้งผู้คนที่พบเจอ อบอุ่นทั้งบรรยากาศ
เรามาเชียงคานรอบนี้รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ เสน่ห์ของเชียงคานที่เราหลงรักเลยก็คือ เป็นเมืองเล็กๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขงกับภูเขา สายหมอก วิถีชีวิตที่มีผู้คนน่ารัก เป็นเมืองที่เรียบง่าย มาเดินกี่ครั้งก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองได้ย้อนเวลา กับบรรยากาศสองข้างริมถนนที่ให้กลิ่นอายของความเก่าแก่ผสมผสานกับความอาร์ต มีของกินอร่อย เหมาะมากๆ สำหรับคนที่อยากมาพักผ่อน นอนชิล หรือจะมาพักกายหรือพักใจก็ได้ เป็นเมืองที่ดีต่อใจเลยทีเดียว
Advertisement
Advertisement
เดี๋ยวเล่าในส่วนการเดินทางแบบง่ายๆ ให้ก็คือ นั่งรถมา บขส.เลย เพื่อนั่งรถไปอำเภอเชียงคาน ซึ่งจะไปได้ 2 วิธี คือ ถ้าอยากเร็วก็ไปรถนครชัยแอร์ แต่ถ้าช้าหน่อยก็นั่งรถสองแถวอำเภอเชียงคาน ซึ่งเราเลือกนั่งรถสองแถว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง มีนั่งบ้าง ยืนบ้าง เบียดบ้าง ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
ความสุขสีเขียวๆ ระหว่างทาง
พอถึงเชียงคาน ปกติรถจะไปจอดที่หน้าโรงพยาบาลเชียงคาน เราลงซอย9 เพื่อไปเอารถมอเตอร์ไซค์เช่าที่ข้างร้านลุกโภชนาเพื่อขับไปที่พัก
ที่พักหลังนี้คือชอบมาก น่าพักสุดๆ มีความร่มรื่นมากกกกก บอกให้ละกันว่าบ้านหลังนี้ชื่อ....บ้านสามล้อ
ถึงแดดข้างนอกจะร้อนแค่ไหน แต่ภายในที่พักเย็นสบายมาก มีต้นไม้เต็มไปหมด
ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนของเชียงคาน ก็จะเห็นความคลาสสิคของบ้านเรือน ร้านค้า หรือแม้ก็ทั้งที่พัก เดินเล่นมาเรื่อยๆ มาสะดุดตากับบรรยากาศร้านนี้ มันน่ารัก น่านั่งจริงๆ นะ
Advertisement
Advertisement
ไปต่อกันที่กินไข่กะทะ ข้าวเปียกเส้นรสเด็ดที่ซอย 10 ร้านนี้รสชาติเข้มข้นมากๆ
กินเสร็จเราไปเดินย่อย เดินถ่ายรูป ชมวิวแม่น้ำโขงที่แก่งคดคู้ สำหรับที่นี่ถ้าน้ำลด ตรงแม่น้ำโขงจะเป็นเหมือนหาดทราย เราสามารถลงไปเดินเล่นถ่ายรูปกันได้
เสร็จแล้วก็กลับมาที่ริมโขงด้านหลังถนนคนเดินช่วงเย็น ที่นี่จะนิยมมารอดูพระอาทิตย์ตกกัน บอกเลยว่าสวยมาก อากาศเริ่มเย็น ท้องฟ้ากลายเป็นสีแดง บนผืนน้ำจะมีหมอกเกิดขึ้น มันดีมาก
การเดินมาชมพระอาทิตย์ตก มองดูแสงสุดท้ายที่ริมโขง เป็นบรรยากาศที่ดูโรแมนติกสุดๆเลยหละ
วันนี้คือแสงสวยมากกกก
พอพระอาทิตย์ตกแล้ว ท้องฟ้ามืดลง ถนนคนเดินก็เริ่มสว่างด้วยแสงไฟ จากบ้านเรือนและร้านค้า 2 ข้างทาง ชวนให้เราไปเดินเล่นต่อ เลือกซื้อเลือกกินกันไม่ถูกกันเลย
บรรยากาศถนนคนเดินที่นี่ ไม่เหมือนถนนคนเดินที่ไหนเลย ด้วยบรรยากาศรอบๆ ข้าง ผู้คน ที่อยู่อาศัยยังคงรักษาความเก่าแก่ โบราณ และความศรัทธา
Advertisement
Advertisement
สิ่งแรกที่เราเดินออกมาจากซอยจะเห็น วงดนตรีของเด็กๆ เหล่านี้ เป็นความประทับใจที่อธิบายยากจัง เอาเป็นว่าไปสัมผัสมันด้วยตัวเองดีที่สุด
เดินเล่น เล่น ไป เรื่อย เรื่อย ชีวิตมันค่อยๆ ช้าลง ช้าลง แบบไม่ทันตั้งตัว เดิน เพลิน เพลิน ดูวิถีชีวิตของคนที่นี่ น่าอิจฉาจริงๆ
และที่พลาดไม่ได้สำหรับคนที่มาเชียงคาน ต้องมากินกุ้งเสียบไม้
นั่งชิลๆ ริมแม่น้ำโขงความรู้สึกที่อยากนั่งเฉยๆ อยู่ตรงนี้นานๆ อากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้เพราะอุณหภูมิภายนอก หรือ ภายในใจกันแน่แต่จริงๆ ก็ไม่ได้เหงาขนาดนั้นนะ นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่พักใหญ่ๆ ก็ได้เวลาเดินเล่นต่อ เดินไปเรื่อย วนไปวนมา
เป็นการเดินเล่นที่ไม่เหนื่อยเลยซักนิด ไม่อยากให้หมดเวลาเลย คนน้อยลง เสียงดนตรีดังมากขึ้น เรายืนฟังอยู่พักนึง เพลงเพื่อชีวิต มันช่างเข้ากับบรรยากาศที่เชียงคานจนบอกไม่ถูก ทั้งรยากาศ และเสียงเพลงมันทำให้หลงรักที่นี่แบบไม่รู้ตัว
ตื่นเช้ามา ลงมาใส่บาตรข้าวเหนียว สัมผัสอากาศเย็นๆ กับบรรยากาศยามเช้าริมโขง วันนี้อากาศดีมาก เห็นหมอกคลอเคลียภูเขาอยู่ไกลๆ เสร็จแล้วก็แว๊นมอไซค์ไปภูทอกเพื่อจะไปดูหมอก ตามล่าหา "ทะเลหมอก" ผู้คนมากมายต่างคนต่างมา มารวมกัน ณ จุดนี้ เพื่อมารอรับแสงแรกของวัน มาให้ไอหมอกพัดผ่านตัวเอง แสงอาทิตย์อ่อนๆ กับหมอกจางๆ บรรยายเป็นความรู้สึกตอนนั้นยากจริงๆ
โดยจะมีรถกะบะพาขึ้นอีกที
เราขึ้นไปถึงบนภูทอกประมาณ 05.45 น. ทันเห็นแสงสีทองเริ่มจับที่ขอบฟ้า และสิ่งที่ไม่ทำให้ผิดหวังก็คือ ทะเลหมอก เช้าวันนั้นมาแบบจัดเต็ม วิวดีมาก คุ้มนะที่ได้ขึ้นไปใครมาเชียงคานแล้วไม่ได้มาภูทอกถือว่ามาไม่ถึงนะ
มาแล้วสิ่งที่รอคอยอยู่ตรงหน้า
เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบเอาตัวเองไปหาทะเลหมอกมากๆ รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ พระอาทิตย์ค่อยๆ โผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้า ทีละนิด ทีละนิด
เช้าวันนี้คือนักท่องเที่ยวเยอะมาก แต่โชคดีตรงที่วันนี้ฟ้าเปิด แสงสวย เห็นทั้งพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอก และสัมผัสได้ถึงสายลมเย็นต้นฤดูหนาว
สิ่งสวยงามเล็กๆ แถวจุดชมวิว
ราวเจ็ดโมงครึ่ง ทะเลหมอกก็ยังอัดแน่นแบบจัดเต็ม คนที่ขึ้นมาเที่ยวในเช้าวันนั้นคงฟินกันถ้วนหน้า
มองไปทิศทางใดก็เจอทะเลหมอก
เต็มอิ่มกับวิวที่ได้มาเห็น ราวแปดโมงเช้าเราจึงนั่งรถกระบะกลับลงไปตรงปากทางด้านล่าง
วิวระหว่างทางที่กลับลงไปยังสวยเลย
ลงจากภูทอกแล้วเวลาเหลือหลังจากนั้นมาเดินเล่นถนนแถวริมโขง เดินลัดเลาะริมฝั่งโขง
นอกจากร้านกาแฟสวยๆ ที่มีอยู่ทั่วเต็มไปหมด ที่พักชิคๆ ก็มีเยอะไม่แพ้กัน โดยที่พักจะสร้างขึ้นให้กลมกลืนกับบ้านเรือนที่มีอยู่ การนั่งจิบกาแฟชมโขง และนั่งมองบรรยากาศของฝั่งเพื่อนบ้าน กลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราชอบมากๆ ใครอยากจะมาบอกเลยว่าช่วงนี้อากาศหนาวแล้ว บรรยากาศแบบนี้มันเข้ากันกับการออกมาเดินเล่นถนนคนเดิน นั่งทานอาหารริมโขง ชมวิถีชิวิตเอามากๆ
และแล้วเวลาของความสุขก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงเวลาเย็นต้องกลับบ้านกันแล้ว เราก็รีบเก็บของ เก็บความสุขและบรรยากาศดีๆ ใส่กระเป๋า เพื่อเช็คเอ้าท์ สำหรับเชียงคาน เป็นเมืองที่เราเอาไว้พักผ่อน เวลาที่มีเรื่องให้คิดเต็มสมอง ไปที่นั่นทำตัวสบายๆ ใช้ชีวิตแบบช้าๆ นั่งมองแม่น้ำไหลไป ก็เหมือนกับเราได้ทิ้งความไม่สบายใจไปด้วย ปีหน้า หรือไม่อาจจะสามเดือนข้างหน้า หรือหกเดือนต่อไป ถ้าเราอยากพักผ่อนชิลๆ ตอนนั้นเราอาจจะไปอยู่ที่เชียงคานอีกแล้วก็ได้
สำหรับใครที่กำลังวางแผนอยากมาเที่ยวเชียงคาน ขอบอกเลยว่าการเดินทางมาเที่ยวเชียงคานไม่ยากอย่างที่คิดและที่สำคัญสามารถเดินทางมาเที่ยวคนเดียวได้แบบสบายๆ รับรองเลยว่าการเดินทางมาเที่ยวเมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมแห่งนี้จะทำให้เพื่อนๆ ได้รีชาร์จร่างกายจากความเหนื่อยล้า จนต้องพูดว่า หลงรัก...เลย
ภาพโดยนักเขียน
ความคิดเห็น
