ใครว่าขึ้นภูกระดึงเป็นเรื่องง่าย ผู้เขียนขอเถียงขาดใจเลย จากประสบการณ์การขึ้นภูกระดึงมา 5-6 ครั้ง ถึงจะขึ้นมาเยอะและรู้เทคนิคการขึ้นภูเขาอยู่บ้าง แต่ทุกครั้งที่ได้ขึ้นก็จะแอบบ่นในใจอยู่เสมอว่า "นี่...จะมาขึ้นอีกทำไมเนี้ยยยย!!" (ขออภัยในคำหยาบ เชื่อว่าทุกคนจะต้องอุทานประโยคนี้แน่นอน) แต่ทำไมทุกครั้งที่มีคนชวนขึ้นก็ไม่เคยปฏิเสธเลยสักครั้งเดียว เพราะอะไร? เพราะทุกครั้งที่เราไปจะพบประสบการณ์และสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ดังนั้นบทนี้ผู้เขียนขออนุญาตเขียนเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในการขึ้นภูกระดึง มีอุปกรณ์และสิ่งของอะไรบ้างที่จำเป็นต้องใช้เตรียมความพร้อมร่างกายยังไง และเทคนิคเล็กๆน้อยๆ ในการขึ้นยอดภูกระดึงกันครับ บทความนี้เป็นการเตรียมความพร้อมฉบับย่อๆของผู้เขียนเอง อาจมีถูกมีผิดบ้างก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านนะครับ อันดับแรกเลย คือ การเตรียมความพร้อมของร่างกาย ลักษณะการขึ้นภูกระดึงคือการเดินด้วยเท้าเปล่าที่ต้องผ่านอุปสรรคหลายๆ อย่าง เช่น การเดินขึ้นทางชันจนไปถึงทางชันมากๆ (แถมพื้นลื่นด้วย), เดินขึ้นขั้นบันไดจำนวนหลายสิบชั้น, การปีนป่ายโขดหิน เป็นต้น ผู้เขียนฟิตร่างกายโดยการวิ่งจ๊อกกิ้งเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตรต่อวัน และทำการลุกนั่ง10 ครั้งหลังจากที่วิ่งเสร็จ ทำแบบนี้ 1 สัปดาห์ก่อนที่จะขึ้นภู เพื่อให้ปอดของเราขยายตัวครับ อันดับที่สองการเตรียมข้าวของเครื่องใช้และอุปกรณ์ที่จำเป็น การใช้ชีวิตอยู่บนนั้นจำเป็นจะต้องมี "ไฟฉาย" อันนี้สำคัญมากครับ เพราะระยะเส้นทางท่องเที่ยวนั้นมีระยะที่ไกลพอสมควรกว่าจะเดินทางกลับที่พักก็มืดค่ำแล้วแถมระหว่างทางกลับก็จะไม่มีแสงไฟจากที่ใดทั้งสิ้น มีเพียงแค่แสงดวงจันทร์ที่ส่องแสงสลั่วๆ ในยามค่ำคืนเท่านั้นเอง ส่วนของใช้ส่วนตัวก็จะมีแปรงสีฟัน ยาสีฟัน ครีมอาบน้ำ ยาสระผม ครีมทาผิว ครีมทาผิวขอเป็นแบบกันแดดนะครับเพราะเวลาเดินทางตอนกลางวันแดดจะเผาผิวเราเป็นอย่างมาก ยิ่งเราอยู่สูงเท่าไรเราก็ยิ่งใกล้ความร้อนของดวงอาทิตย์มากเท่านั้น ต่อให้อากาศเย็น 20 องศาก็เถอะ ผู้เขียนสัมผัสมากแล้ว ผิวโคตรแสบบบบ!! อย่าลืม! ยาสามัญประจำตัวและแผ่นขนมปังของคุณผู้หญิงกรณีเป็นวันนั้นของเดือนด้วยละ(แต่ไม่แนะนำให้ขึ้นภูสำหรับผู้ที่ป่วยหรือเป็นวันนั้นของเดือนครับ) ส่วนที่หลับที่นอน ทางอุทยานก็มีบ้านพักและเต็นท์ให้เช่าอยู่แล้วครับไม่ต้องขนไปก็ได้ แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศและอารมณ์ส่วนตัวก็นำขึ้นมาเองได้ครับ มาเช่าแค่ที่นอน หมอน และผ้าห่มได้ที่จุดบริการนักท่องเที่ยวข้างบนครับ อันดับสุดท้ายเรื่องเสื้อผ้าก็สำคัญมากครับ ปกติแล้วนักท่องเที่ยวจะขึ้นช่วงเดือนตุลาจนไปถึงเดือนกุมภาปีถัดไปซึ่งจะมีอากาศที่เย็น ส่วนใหญ่แล้วจะใส่เสื้อผ้าแขนยาวกางเกงขายาวกันไปขึ้นภู แต่ผู้เขียนแนะนำว่าให้ใส่กางเกงขาสั้นเสื้อยืดรัดกุม ส่วนเสื้อกันหนาวและกางเกงวอร์มขายาวแบบหนาให้เอาไปใส่เฉพาะเวลานอนเท่านั้น ส่วนตอนท่องเที่ยวก็กางเกงขาสั้น เสื้อยืด ที่ไม่ให้ใส่กางเกงขายาวเพราะเราต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา เหงื่อจะออกเยอะและระหว่างขาของเราต้องเสียดสีกับกางเกงตลอดเวลาอาจทำให้เกิดบาดแผลขึ้นได้ ส่วนรองเท้านั้นขอให้เป็นรองเท้าผ้าใบแบบกระชับและใส่ถุงเท้าด้วยนะครับและต้องไม่เสียดายรองเท้า ชนิดที่ว่าใส่แล้วพร้อมที่จะทิ้งได้ทันนี้หลังลงจากภู เอาแบบนั้นเลยครับ รองเท้าแตะก็ควรเอาขึ้นไปนะเพราะเวลาที่เราอยู่ที่พักควรให้เท้าของเราได้พักผ่อนบ้าง ถ้าให้ใส่รองเท้าผ้าใบไปโน้นไปนี้ตลอด เท้าเราจะเหม็นและบวมเอาได้ง่ายๆ เลยครับ ส่วนหมวกอันนี้แล้วแต่ชอบเลยครับ เน้นที่บังแดดด้วย ไม่งั้นหน้าไหม้!! ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องศึกษาสภาพอากาศก่อนด้วยนะครับ ถ้าท่านใดคิดว่ากระเป๋าที่ขนมานั้นหนักขนขึ้นไม่ไหวสามารถจ้างลูกหาบได้ เป็นการลดน้ำหนักภาระเวลาขึ้นเขาได้แถมเป็นการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านแถวนั้น(ท่านใดคิดว่าตัวเอง เจ๋งพอ ก็ลองสะพายขึ้นไปเองได้ครับ) กระเป๋านั้นจะถูกส่งไปที่ๆพักเราบนยอดภูเลยครับ แต่ต้องรอหน่อยนะ กว่าลูกหาบจะเดินขึ้นไปได้ต้องใช้เวลาครับ เพราะเขาต้องขนของอย่างอื่นด้วย รวมๆน้ำหนักที่พี่แกขน 20 กิโลขึ้นไปครับ เรื่องอาหารการกินไปต้องขนไปครับ ซื้อกินตามทางและที่พักได้เลย(ควรศึกษาข้อมูลประกอบด้วยเพราะบางทีร้านค้าบางร้านก็ไม่เปิดครับ) เน้นเอาน้ำติดตัวตลอด ต่อไปนี้เป็นทริคเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ของผู้เขียนเองครับ ให้ดื่มน้ำเยอะๆ เพราะร่างกายสูญเสียเหงื่อเป็นจำนวนมาก ให้กินของหวานระหว่างทางขึ้นภู เพราะของหวานจะไปช่วยเรื่องของกลูโคสในร่างกาย (ผู้เขียนชอบกินแตงโมกับเฉาก๊วย มีขายตลอดเส้นทางขึ้นครับ) ให้เดินขึ้นในแนวเฉียงมากกว่าเดินเป็นแนวเส้นตรง (แล้วแต่พื้นที่ ให้พิจารณาเองได้เลยครับ) เหนื่อยแล้วให้หยุดพักเลย อย่าอวดเก่ง! ไม่งั้นตะคริวถามหาแน่นอนครับ กรณีที่ไปเป็นกลุ่ม ควรเดินเกาะกลุ่มกันไป ไม่ควรเดินแยกหายไปคนเดียว เพราะถ้าหากมีคนในกลุ่มเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะได้ช่วยเหลือกันได้ อย่าเห็นแก่ตัว! ไม่ควรเดินออกนอกเส้นทางที่ไม่ได้ศึกษา เพราะอาจจะทำให้หลงทางและอาจเจอสัตว์ป่าได้ อันนี้ห้าม! ลืมเป็นอันขาดครับ สุดท้ายนี้ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อมูลที่นำมาแชร์ให้นั้นจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่สนใจที่จะไปท่องเที่ยวภูกระดึง หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ (ท่องเที่ยวให้มีความสุข...แต่ก็อย่าลืมกฎระเบียบด้วยนะครับ) ในบทความต่อไป ผู้เขียนจะนำเสนอ "ทริปท่องเที่ยวภูกระดึงในฉบับบของผู้เขียนเอง" รอติดตามอ่านได้เลยครับ ขอบคุณครับ ปล.เอาเงินไปด้วยนะครับ เฉพาะค่ากินเฉลี่ยประมาน 2-3 พัน(แบบประหยัดอาจเหลือด้วยซ้ำ) ส่วนใครจะเอาไปเยอะกว่านี้ก็ได้ครับ เพราะข้างบนมีหมากระทุ(หมูกระทะ)ด้วยยย ฟินๆกันไปเลยยย...😬😬 ขอขอบคุณ เครดิตรูปภาพหน้าปก โดย anuwatpapao จาก Pixabay เครดิตรูปภาพประกอบ : Facebook: So Why Fragile รูปที่1/ รูปที่3/ รูปที่5 และรูปที่7 เครดิตรูปภาพประกอบ : ผู้เขียน รูปที่2/ รูปที่4 และรูปที่6 อัปเดตบทความท่องเที่ยวสนุกๆ ดูหนัง ฟังเพลง และซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !