สำหรับใครที่กำลังเตรียมแผนการที่จะไปเที่ยว หลวงพระบาง เมืองมรดกโลกที่ สปป.ลาว เรามีอีกหนึ่งเส้นทางที่อยากขอแนะนำ คือเส้นทางผ่านแดนที่ ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง ตั้งอยู่ที่บ้านนากระเซ็ง อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ด่านพรมแดนแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลงานของด่านศุลกากรท่าลี่ มีแม่น้ำเหืองเป็นพรมแดนธรรมชาติ จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ด่านสะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว เป็นพรมแดนกั้นระหว่างอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย และเมืองแก่นท้าว แขวงไซยะบูลี สปป.ลาว เพื่อเชื่อต่อทางหลวงหมายเลข 4 ของสปป.ลาว ในแขวงไซยะบูลี สู่ เมืองหลวงพระบาง เมืองมรดกโลกที่หลายคนรู้จัก และเส้นทางนี้ยังใช้เป็นเส้นทางเข้าสู่ประเทศเวียดนามและประเทศจีนได้อีกด้วยค่ะ ย้อนมาดูประวัติ ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็งกันซักนิดนะค่ะ ด่านนี้ตั้งขึ้นตามกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 49 พ.ศ. 2508 ในอดีตเส้นทางนี้จะใช้สำหรับขนส่งสินค้าอุปโภค-บริโภค สินค้าวัสดุก่อสร้าง จากไทยไปลาว ส่วนการท่องเที่ยวยังไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากถนนหนทางไม่สะดวกทำให้เสียเวลาเดินทางเป็นอย่างมาก ต่อมาเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2546 ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ก่อสร้างสะพานมิตรภาพแม่น้ำเหืองไทย-ลาวขึ้น โดยมีข้อตกลงของรัฐบาลทั้งสองฝ่าย กำหนดให้เป็นด่านถาวรและด่านสากล เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการค้า การท่องเที่ยวแก่กัน ปัจจุบันสปป.ลาว มีโครงการพัฒนาปรับปรุงถนนลาดยางจากแขวงไซยะบูลี ไปสู่เมืองหลวงพระบางเมืองมรดกโลก ระยะทาง 360 กม. กำหนดระยะเวลาเข้า-ออกในราชอาณาจักรทางบก ตั้งแต่เวลา 08.00น.- 18.00 น.นะค่ะ ถ้าใครช้ากว่านี้เป็นอันว่ารู้กันจะต้องหาที่นอนค้างแรมก่อน เพื่อรอเปิดด่านในวันรุ่งขึ้น หากใครกำลังหาที่พักฝั่งไทยแนะนำนี่เลย โรงแรม Le bar tarry โรงแรมสุดชิคของอำเภอท่าลี่ สำหรับท่านที่ไม่ได้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือมีพาหนะคู่ใจเป็นบิ๊กไบต์คันเก่งแล้วละก็ขอแนะนำบริการของ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้ร่วมจับมือกับ บริษัท นาหลวงขนส่งโดยสารผ่านแดนและท่องเที่ยว ประจำแขวงหลวงพระบาง เป็นรถปรับอากาศมาตรฐาน 1(ข) สายที่ 14 รถโดยสารจะใช้เส้นทางระหว่าง บขส.เลย – ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง(อำเภอท่าลี่)-เมืองแก่นท้าว-แขวงไซยบูลี-แขวงหลวงพระบาง ออกเดินรถทุกวัน บขส.เลย เวลา 8.00 น. และจากแขวงหลวงพระบางเวลา 7.00น. (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง ระยะทาง 394 กม.)ค่าโดยสารประมาณ 700 บาท ส่วนการทำหนังสือผ่านแดนก็จะมีพี่ ๆ ใจดี เจ้าหน้าที่ประจำอยู่ที่ ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง คอยบริการอยู่แล้วค่ะ ทัศนียภาพสองข้างทางส่วนใหญ่จะเป็นป่า ภูเขา ต้นไม้ บางทีก็จะมีหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ข้างทางสองฝั่งถนน บ้านเรือนส่วนใหญ่ยังเป็นบ้านเก่าปลูกสร้างแบบโบราณ แทรกด้วยสถานที่สำคัญๆเช่น โรงพยาบาล ธนาคาร ตู้ ATM ปั๊มน้ำมันเล็กๆพอให้เราได้โล่งใจได้บ้างว่าไม่ต้องจอดรถกินข้าวลิงเพราะน้ำมันหมด อัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบโดยประมาณ 250 กีบ/1 บาท ข้อแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ขอให้แลกเงินกีบติดตัวสักเล็กน้อยประมาณ 1-2 พันบาท เผื่อเวลาเจอสินค้าพื้นเมืองแล้วคุณต้องการจะซื้อติดไม้ติดมือ หรือร้านอาหารริมทางบางร้านที่ไม่รับเป็นเงินบาท และเนื่องจากว่าพี่น้องเราชาวลาวบางท้องถิ่นไม่สะดวกในการคิดคำนวณอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ราคาสินค้าที่คิดเป็นเงินไทยราคาสูงกว่าราคาจริงและคุณอาจไม่ได้รับเงินทอนเพราะไม่มีเงินบาทสำรองไว้ ส่วนในเขตเมืองคุณสามารถใช้จ่ายเงินไทยได้ตามปกติ บางร้านจะคำนวณราคาเป็นเงินกีบ เงินบาท และเงินดอลลาร์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าไว้ด้วยค่ะ ถ้าไปเที่ยว สปป.ลาว ต้องลองลิ้มชิมรสอาหารลาว ที่ขึ้นชื่อก็อย่างเช่น ซิ้นแห้ง (เป็นเนื้อวัว เนื้อควายหรือเนื้อหมู เอาไปตากแดดเหมือนเนื้อแดดเดียวแล้วเอามาย่างในเตาถ่าน) เฝอ (ก๋วยเตี๋ยวบ้านเราเนี่ยแหละ) ที่แทบจะเรียกว่าเป็นอาหารประจำชาติลาวไปแล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ เบียร์ลาว (บางคนอ่านว่า เบยลาว หรือ เขยลาว ตามอัธยาศัย ) ถ้าอดนี่ถือว่าไปไม่ถึงประเทศลาวกันเลยละ มาพูดถึงเบียร์ลาวกันหน่อยนะค่ะ เบียร์ลาวมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 98% ที่เหลืออีกแค่2% จะเป็นกลุ่มผู้มีอันจะกินที่สามารถหาซื้อบรั่นดีหรือวิสกี้ราคาแพงมาดื่มได้ อีกส่วนหนึ่งจะเป็นชาวบ้านที่ยังยึดถือประเพณีดื่มสุราพื้นบ้านหรือสุรากลั่นเอง (เหล้าพื้นบ้านลาวที่เคยเห็นแรงถึง 80 ดีกรี) เบียร์ลาว ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1972 แต่เริ่มเดิมทีใช้ชื่อว่า ลารู (La Rue) แปลว่า ถนน ในภาษาฝรั่งเศส เป็นการร่วมทุนของนักธุรกิจชาวฝรั่งเศสและชาวลาวเชื้อสายจีน ด้วยเงินลงทุน 3.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนการถือครองหุ้นฝ่ายฝรั่งเศส 85% ฝ่ายลาว 15% ตั้งโรงงานผลิตอยู่ทางตอนใต้ของนครหลวงเวียงจันทร์ ภายใต้ชื่อ “โรงงานเหล้าเบียร์และน้ำก้อนลาว” ต่อมาในปี ค.ศ.1977 ก็ตกเป็นของรัฐ โดยรัฐบาล สปป.ลาวซื้อหุ้นคืนทั้งหมด และเพื่อต้องการยกระดับให้เป็นเบียร์ที่เข้าถึงได้ทุกระดับชนชั้น จึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น เบียร์ลาว ตามสโลแกนว่า “เบียร์ลาว เบียร์ของคนลาว คนจริงใจ” สำหรับท่านใดที่จะเดินทางไปเที่ยวเมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว เราขอแนะนำอีกหนึ่งเส้นทางที่เดินทางได้อย่างสะดวกค่ะ อย่าลืมนะค่ะว่าด่านพรมแดนกำหนดระยะเวลาเข้า-ออกราชอาณาจักร 08.00 น.-18.00 น. รักษาเวลากันด้วยนะค่ะ เที่ยวให้สนุกและเดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะ