ถ้าพูดถึง “เชียงคาน” แล้วหล่ะก็ เพื่อนๆ นึกถึงอะไรบ้างคะ? เมืองติดแม่น้ำโขง? เมืองที่ยังอนุรักษ์อาคารบ้านเมืองสไตล์เก่า? ใครบางคนอาจจะติดภาพว่าที่เชียงคานมีถนนคนเดินโด่งดัง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา กี้จะพาไปหาคำตอบค่ะ เทศกาลวันหยุดใกล้เข้ามา กี้วางแผนว่าจะไปเที่ยวที่เชียงคานกับแฟน 3 วัน 2 คืน ด้วยความที่เราไม่รู้มาก่อนว่าที่เชียงคานมีอะไรบ้าง กี้เลยให้พี่ที่รู้จักติดต่อจองห้องพักไว้ให้ ซึ่งเป็นห้องพักแบบธรรมดา ราคา 500 บาท/คืน และแล้วก็ถึงวันเดินทาง กี้เดินทางจากขอนแก่นมุ่งหน้าไปยัง จ. เลย ช่วงเส้นทางจากเลยไปยังเชียงคานนั้น สวยมากๆ เลยค่ะ แต่ถ้าเดินทางมาช่วงกลางคืนคงจะอันตรายมากๆ เพราะเป็นถนนที่ทำใหม่ ยังไม่มีไฟแสงสว่างในบางจุด มีขึ้นเนินลงเนินตลอดทาง อันตรายจริงๆ ค่ะ ถ้าคนที่ไม่รู้จักทางมาก่อน ระมัดระวังด้วยนะคะ เมื่อไปถึงยังตัวเมืองเชียงคาน กี้ก็เอารถยนต์ไปฝากไว้ตรงที่ฝากรถ เขาคิดราคา 200 บาท/คืน ค่ะ แล้วกี้ก็เดินไปยังที่พัก เก็บของแล้วพักผ่อนสักหน่อย หลังจากนั้นก็เดินมาชมบรรยากาศริมโขงค่ะ ที่พักริมโขงมีหลายแบบเลยนะคะ แถมบรรยากาศดี สะดวกสบายมาก แต่ติดตรงที่ราคาบางที่ก็แพงจนเกินไป กี้เลยอาศัยว่าเราพักที่ถูกๆ แล้วค่อยเดินมาดูวิวกันดีกว่า จุดเด่นของริมโขงที่ทุกคนห้ามพลาด นั่นก็คือ การดูพระอาทิตย์ตกดินนั่นเอง บรรยากาศดีมากๆ เลยค่ะ ยิ่งบ้านเรือนที่ติดริมโขงเขาดูแลได้สะอาดมากๆ เลยค่ะ (แต่วันนี้กี้พลาดช่วงที่กำลังจะตกค่ะ เพราะมัวแต่เดินเล่นอยู่) หลังจากดูพระอาทิตย์ตกดินเสร็จ กี้เลยเริ่มเดินที่ถนนคนเดินค่ะ ซึ่งคนก็เยอะมากๆ เลยเดินดูของดูนั่นดูนี่จนเสร็จ ตัดสินใจอยู่นาน เลยขอลองชิมส้มตำแบบคนเชียงคานดูหน่อยละกัน กี้สั่งตำด๊องแด๊งกับตำหอยแครงมาค่ะ มันแซ่บมากๆ อูมามิสุดๆ หลังจากนั้นเราก็เข้าที่พักค่ะ บรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน ตำด๊องแด๊งกับตำหอยแครง ถนนคนเดินเชียงคาน เช้าวันต่อมา เรายังอยู่ที่เชียงคานกัน วันนี้กี้คุยกับแฟนว่าจะไปดูแก่งคุดคู้และไปร้านกาแฟริมโขงค่ะ มื้อเช้าเราเลยจัดอาหารเช้าสไตล์เวียดนาม นั่นก็คือข้าวเปียกเส้นนั่นเอง หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปแก่งคุดคู้ เดินชมบรรยากาศสักหน่อย แต่อยู่ได้ไม่นานค่ะเพราะร้อนมากเลย ออกจากแก่งคุดคู้เลยขับรถไปแวะดูตรงภูทอก บรรยากาศเงียบมาก ไม่มีคนเลยค่ะ (สงสัยจะคึกคักช่วงเช้า) เราเลยตัดสินใจไปนั่งร้านกาแฟกันค่ะ ชื่อร้าน “Cafe de river” ค่ะ บรรยากาศดีมากเลยค่ะ ถึงแม้จะนั่งข้างนอกแต่ลมก็พัดเย็นสบาย หลังจากนั้นเราก็ไปทานมื้อเที่ยงกันแล้วกลับที่พักค่ะ ข้าวเปียกเส้น และไข่กระทะ แก่งคุดคู้ ร้านกาแฟ Cafe de river แถวหน้าที่พักมีขนมปังสังขยาร้านอร่อยด้วยนะคะ กี้เลยสั่งมา 1 กล่องค่ะ วันนี้กี้ตั้งใจจะไปดูพระอาทิตย์ตกให้ได้เลยค่ะ เพราะว่าเมื่อวานเราพลาดไม่ได้เห็นพระอาทิตย์กลมๆ ก่อนจะตก หลังจากนั้น กี้เลยตัดสินใจกับแฟนว่า จะเดินไปจนสุดทางริมโขง แล้วเดินย้อนกลับมา ตรงจุดที่ใกล้กับที่พักค่ะ แล้วเราก็ไปทานมื้อค่ำกันที่ถนนคนเดินเหมือนเดิม (วันนี้เริ่มรู้สึกว่าเชียงคานไม่มีอะไรแล้วค่ะ ไม่รู้จะไปไหน) เลยไปเขียนโปสการ์ดส่งกลับมาที่บ้าน และวันพรุ่งนี้กี้จะตื่นมาใส่บาตรค่ะ พอถึงที่พักเลยให้ทางที่พักเตรียมของใส่บาตรให้ค่ะ ชุดละ 60 บาท กี้จองไป 2 ชุดค่ะ ส่งโปสการ์ดกลับขอนแก่น เช้าวันต่อมา กี้ตื่นมาใส่บาตรตอนเช้า หลังจากใส่บาตรเสร็จคุยกันกับแฟน ว่าถ้าเราจะไปภูทอกตอนนี้ มันจะทันไหม และแล้วเราก็ขับรถไปภูทอกกันค่ะ หวังว่าจะทันดูพระอาทิตย์ขึ้น เราขับรถไปจนถึงภูทอก จอดรถไว้ตรงที่ฝากรถ เขาจะมีรถบริการพาเราขึ้นไปค่ะ เราจ่ายค่ารถคนละ 25 บาท ค่ะ ระหว่างทางขึ้นไปเจอหมอกด้วยค่ะ โชคดีมากๆ เลย ที่เจอหมอกตอนเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากขึ้นไปไม่นาน พระอาทิตย์ก็ขึ้นมาค่ะ ดีใจมากๆ เลยที่ตัดสินใจมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูทอกค่ะ หลังจากนั้นเราก็กลับที่พัก เตรียมตัวเดินทางกลับขอนแก่นค่ะ ใส่บาตรประมาณ 6 โมงเช้าค่ะ ภูทอก การมาเชียงคานครั้งแรกของกี้ทำให้กี้รู้สึกได้เลยว่า การใช้ชีวิตแบบสโลวไลฟ์ ไม่เหมาะกับเราเลย เรายังติดกับความวุ่นวาย ความเร่งรีบในชีวิต การมีอะไรต้องทำ ชีวิตที่ Active ตลอดเวลา “เชียงคาน” อาจจะไม่เหมาะกับกี้ แต่ก็สร้างประสบการณ์ความทรงจำที่ดีได้ ถ้าใครคิดว่าชีวิตตัวเองเร่งรีบ อยากปล่อยวางความทุกข์ หาพื้นที่เล็กๆ สักที่ ไว้ให้ร่างกายได้พักผ่อน นั่งชมบรรยากาศริมโขง จิบกาแฟยามเช้า “เชียงคาน” ก็อาจจะเป็นอีกที่ ที่คุณควรมา ใช้ชีวิตให้สนุก แล้วพบกันใหม่ค่ะ เรื่องและภาพโดยผู้เขียน