บรรยากาศริมแม่น้ำโขงที่เชียงคาน (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ถ้าใครชอบติดตามการท่องเที่ยว ก็คงรู้จักที่เช็คอินยอดนิยม "เชียงคาน" จ.เลย เมืองริมแม่น้ำโขง เชียงคานมีดีอะไรนะ ทำไมคนถึงชอบไปกัน ? ผมเป็นคนไม่ได้ไปเที่ยวไหนบ่อยหรอก แต่วันนั้นมีโอกาส (เพื่อนบังคับ) ให้ไปด้วยกัน อ่ะก็ลากกันไป ผมผู้ซึ่งไม่พร้อมสุด ด้วยงานที่รัดตัว เคลียร์ไม่ทัน ไม่มีข้อมูลอันใดเลยกับการเที่ยวครั้งนี้ แม้แต่พี่พักก็ไม่รู้ แถมจะไปเที่ยวพักผ่อนทั้งที ยังต้องหอบงาน หอบโน้ตบุ๊คมาทำอยู่เลย เรียกว่าเป็นทริปที่ไม่มีความพร้อมใด ๆ ยังไงก็ขอฝากความประทับใจเล็ก ๆ ไว้ในบทความนี้ด้วยนะครับ :) (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ที่พักหาไม่ยากครับ แถวนั้นจะมีที่พักแบบโฮมสเตย์อยู่เป็นแถวยาว แต่ยังไงก็ควรจองก่อนนะครับเพื่อความปลอดภัย หลังจากเราเช็คอินกันเรียบร้อยแล้ว กิจกรรมพวกผมก็เรียบง่ายครับ นั่งถ่ายรูป ชมวิวแม่น้ำโขงกันไป ถ้าเพื่อนผู้หญิงก็ถ่ายหลายแอคหน่อย หามุมจัดแสงกันไป ส่วนพวกผู้ชาย ก็..แชะเดียวให้รู้ว่ามาครับ (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ผมชอบวิวพระอาทิตย์ตกนะ คือสามารถนั่งเฉย ๆ กินลมไปได้เรื่อย ๆ เลย นั่งคิดไรเพลิน ๆ คิดได้เยอะเลยครับ ยกเว้นคิดงาน ฮ่า ๆ ๆ นั่งบ้าง เดินบ้าง ถ่ายรูปบ้าง จนพระอาทิตย์ตก เราก็เริ่มหิวกันพอดี... นี่แหละเวลาของ "ถนนคนเดินเมืองเชียงคาน" ถนนคนเดินเมืองเชียงคาน จ.เลย (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ถัดจากตัวบ้านริมโขงเข้ามาก็เป็นถนนคนเดินเลยครับ ง่าย ๆ ไม่ต้องขับรถไปไหนไกล เดินทะลุมาเจอเลย ถนนคนเดินก็คล้ายกับของ หลาย ๆ จังหวัดนะครับ คือ มีของกิน ของฝาก เสื้อผ้าที่สกรีนชื่อเมืองนั้น ๆ ใส่ความเป็นเชียงคานลงไปนิด ๆ หน่อย ๆ ผมชอบบรรยากาศบ้านเรือนโบราณของที่นี่ มองแล้วอบอุ่น สบายตา มีความย้อนยุคแบบเป็นธรรมชาติดีครับ (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ที่ขาดไม่ได้เลยก็ต้องเรื่องนี้ ของกิน ผมชอบมากกับการกินจุ๊บจิ๊บรายทาง เหมือนเราได้ลิ้มรองรสชาติในหลาย ๆ แบบ มาดูกันนะครับว่าผมได้กินอะไรบ้าง.. (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) อย่างแรกก็นี่เลย...ไข่กระทะ เบาๆ เรียกน้ำย่อย ใส่แม็กกี้นิด ๆ พริกไทยหน่อย ๆ อร่อยทุกที่ครับ สองคำหมด พร้อมไปต่อ.. (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ปลาท่องโก๋ราดนมข้น เบา ๆ ให้ชื่นฉ่ำหัวใจ เติมความหวานให้กับชีวิตอันห่อเหี่ยวในอาทิตย์ที่ผ่านมาของผมได้ดี ให้ 8 คะแนนเลยครับ (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) มะพร้าวแก้วเมืองเชียงคาน อันนี้แนะนำเลยครับ ของฝากยอดนิยม มีขายทุก 300 เมตร พอได้ผ่านมาหลาย ๆ จุดก็ต้องลองชิมสัก หน่อย... โอ้โห ตาลุกวาว มีรุ้งออกจากปากครับ (เว่อร์ไปนิด) ชอบจริงๆ นะ เพราะไม่ใช่อะไรที่หากินได้ทั่วไปมั้งครับ เคยเจอที่เป็นของฝากเกรดจะ แย่กว่านี้ แล้วจะใส่สารกันบูดทำให้เนื้อมะพร้าวแข็ง แต่ที่นี่จะนิ่มนุ่ม หวานพอดี เป็นเกรด A ครับ มีหลายเจ้าที่ทำ ผมเลยจัดการเดินชิมเพลินเลยครับ มีความต่างกันเล็กน้อย อย่างเพื่อนผมจะเลือกอันที่หวานกว่าหน่อย ส่วนผมชอบร้านที่นุ่ม ๆ กินแล้วเคลิ้ม เสียตังไปเรียบร้อยครับ (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) มาต่อกันที่ร้านบัวลอยไข่หวาน แต่เราสั่งไข่เค็ม ฮ่า ๆ บัวลอยชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ รสชาติกลมกล่อม แบบหวานน้อย มีความมันจากไข่เค็ม เพิ่มความฟินไปอีก มีเผือกชิ้นเล็ก ๆ เสิร์ฟร้อน ๆ เจ้าของร้านน่ารักเป็นมิตรครับ แนะนำให้อุดหนุน ผมเห็นอยู่ร้านเดียวในถนนคนเดินเชียงคานนะ คนมารอคิวเยอะเหมือนกัน จำเป็นต้องลองเลย (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ขอตบท้ายด้วยของหวานอีกที่ โรตี สิจ๊ะ บรรยากาศแบบย่ำค่ำแบบนี้มันก็ต้อง โรตีร้อน ๆ ใส่ไข่ ราดนมข้นกันหน่อย กินเพื่อเติมพลังจากการเดิน ซื้อของ ชมร้านข้างทาง ชมบ้านเรือนและแวะถ่ายรูปตามจุดต่าง ๆ เสียดายที่ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาอีก เพราะมัวแต่ฟังเรื่องที่เพื่อนคุยกัน อัพเดตชีวิตวัยทำงานกันไป จริงๆ มีกินอีกหลายจุดเหมือนกันครับ แล้วก็แวะดูของขายทั่วไปด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายมา เพราะร้านค้าส่วนใหญ่ไม่ชอบให้ถ่ายรูปสินค้า เราก็ต้องเคารพสิทธิ์กันนะครับ ^^ (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ก่อนกลับที่พักเราก็แวะ ดื่มไรกันสักหน่อย เพราะดื่มมากไม่ได้ครับ ถึงแม้จะไม่ต้องกลัวเมาแล้วขับเพราะที่พักใกล้มาก แต่เราก็ดื่มมากไม่ได้ครับ เพราะว่าห่วงสุขภาพหรอ ? อ่ะ ก็ไม่ใช่ ฮ่า ๆ ๆ เฉลย...เพราะราคาเครื่องดื่มที่นี่ค่อนข้างแพงครับ ฮือออ แพงยังไงเราก็ต้องเข้าใจร้านค้านะครับ การเดินทางมาที่นี่ไม่ได้มากันง่าย ๆ ต้องขึ้นเขาลงเขาอยู่หลายจุด ฉะนั้นแนะนำให้ประหยัดที่ตัวเรากันดีกว่า.. เสร็จแล้วกลับที่พักนอน อีกวันต้องเดินทางกลับกันแล้ว ใส่บาตรด้วยใจที่สะอาด ที่บ้านพักเขาจะจัดเซ็ตใส่บาตรตอนเช้าไว้ เขาถามเราไว้ก่อนว่าจะทำไหม ผมกับเพื่อนก็เลยลงชื่อไว้ ตื่นไหวไม่ไหวก็ค่อยลุ้นกันอีกที สรุปผมตื่นสายสุด เกือบจะลงมาไม่ทันแล้ว มาด้วยความสะลึมสะลือ เพื่อนตะโกนบอกว่า "พระมาแล้ว รีบลงมา" (ใส่บาตรที่หน้าบ้านพัก) ผมคิดว่าอาบน้ำ-ล้างหน้า-แปรงฟันใด ๆ ไม่ทันแน่ ก็เลย....ลงมาทั้งแบบนั้นเลย... ชุดนอน หัวฟู ๆ ฟันไม่ได้แปรง หน้าไม่ได้ล้าง จิตใจสะอาดเป็นพอ... (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) พอมาถึงหน้าบ้าน เขาได้เตรียมเสื่อและเซ็ตทำบุญไว้ให้แล้ว โดยที่เพื่อนผมใส่ไปบางองค์แล้ว มีบางองค์ที่ยังเดินไม่ถึง ผมมึนงงเล็กน้อยกับสิ่งที่ต้องใส่บาตร ผมคนภาคกลาง ผมคุ้นชินกับการใส่ข้าวสวย กับข้าวถุง ดอกไม้... การที่ผมลงมาเจอ ขนมถุงกับกระติ๊บข้าวตรงหน้า ทำให้ผมว๊าวมากนะ ในใจคือ ทำยังไงวะ " ใส่ทั้งกระติ๊บหรอ ? " ผมหันไปถามเพื่อน... สิ่งที่เพื่อนตอบกลับมาคือ " เปิดฝา แล้วจกข้าวใส่บาตร " ....ผมงงอยู่สักพักก่อนพระจะเดินมาถึง พร้อมดูตัวอย่างคนแถวหน้า ๆ .... โอเคผมรู้ละว่าต้องจกข้าวใส่บาตร แต่ แต่ แต่ วินาทีนั้นก็ระลึกได้ว่า ไม่นะ ไม่ได้ล้างมือ... ผมทบทวนอยู่ในใจเสี้ยววิ "ใจสะอาดแล้วไม่เป็นไรหรอก" ...แต่มือแกไม่ได้ล้าง ! ก็ใจสะอาดแล้วไงเว่ย ! ! แต่มือแกสะอาดไหม ? ? ! ! พระมาถึงพอดี ผมจกเข้าไปในข้าวร้อน ๆ หนึ่งหยิบมือ...ใส่บาตรพระ....พร้อมรับพร.....อายุ วัณโณ สุขัง พลัง... สาธุ... _____________________________________________________ ภาพประกอบบทความ และ ออกแบบปกโดยผู้เขียน