ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ไปเที่ยวคนเดียว แค่รู้สึกอยากไปก็ไปเลย ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า แค่อยากไปเที่ยวคนเดียวชิลล์ๆ สโลว์ไลฟ์ พักผ่อนเงียบๆ ถ่ายรูปเล่น ว่าแล้วก็จองตั๋วเลยจ้า จองตั๋วเครื่องบินคืนวันอังคาร พร้อมกับจองที่พัก เช้าวันพฤหัสบดีก็เดินทางกันเลย ทริปนี้ไปเที่ยวในเดือนกันยายนนะจ๊ะ เดินทางจากสนามบินดอนเมือง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. ก็ถึงจังหวัดเลยแล้ว และใช้บริการรถตู้ Transfer ของ Air Asia เดินทางต่อไปเชียงคาน ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. (ทริปนี้ป้าเน้นสบายๆ แหะๆ) รถตู้ส่งถึงที่พักเลย ถึงประมาณเที่ยงครึ่ง เลือกพักที่ มุ้ยฟัง เกสต์ เฮ้าส์ ต้องการห้องพักวิวแม่น้ำโขง ห้องโปร่ง ๆ เห็นวิวชัดๆ กะว่าถ้าไม่ได้ออกไปไหนก็จะหมกตัวนอนเล่นอยู่ในห้อง นอนดูซีรีย์เกาหลีฟิน ๆ สบาย ๆ อิอิ มุ้ยฟัง เกสต์ เฮ้าส์ อยู่ติดถนนคนเดิน อยู่ระหว่างซอยศรีเชียงคาน 4 และ 5 ได้พักห้องโบตั๋น ซึ่งอยู่ชั้น 2 วิวแม่น้ำโขง วิวดีสมใจ ห้องน้ำก็เห็นวิวแม่น้ำโขงด้วย เพราะห้องน้ำสามารถเปิดหน้าต่างเห็นวิวแม่น้ำโขงได้เลย หรือถ้าอยากรู้สึกเป็นส่วนตัวก็ปิดหน้าต่างปิดม่านได้นะจ๊ะ ไปถึงก็หยิบขาตั้งกล้องเป็นอับดับแรกเลย ถ่ายรูปที่พักสิจ๊ะรออะไร หลังจากถ่ายรูปจนพอที่พอใจแล้ว ก็ได้เวลาออกไปหาอะไรกินแล้ว เพราะหิวมาก มุ้ยฟังมีบริการจักรยานให้ยืมฟรี ได้เจ้านี่แหละเป็นพาหนะคู่ใจปั่นเที่ยวเล่นทั่วเชียงคาน ปั่นไปเจอร้านข้าวเปียกเส้น ก็จัดเลยจ้า (เอ๋... มันก็คือเฝอนี่นา) หลังจากอิ่มแล้ว ก็ปั่นจักรยานไปหาอะไรกินเล่นต่อ ไปที่ศรีเชียงคานซอย 9 ร้านสังขยาคุณแม่ กล่องละ 90 บาท ขนมปังนุ่ม ๆ สังขยาฟิน ๆ เป็นร้านสำหรับซื้อกลับนะจ๊ะ พอแดดร่มลมตกก็ไปถ่ายรูปบรรยากาศยามเย็นต่อจ้า ดูพระอาทิตย์ตกดินที่ริมแม่น้ำโขง นักท่องเที่ยวต่างก็มาถ่ายรูปกับพระอาทิตย์กัน ตอนค่ำออกมาปั่นจักรยานเล่นที่ถนนคนเดิน แต่วันนี้เป็นวันพฤหัสบดี และยังเป็นช่วง low season ร้านค้า และคนที่มาเที่ยวจึงมีไม่มากนัก หลังจากกินผัดไทไปเรียบร้อยแล้ว ก็กลับที่พักอัพโซเชียลกันสักหน่อย ------------------------------------------------------------------------------------------------------ เช้าวันที่สองตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปปั่นจักรยานเล่น อากาศเย็นนิด ๆ กำลังสบาย ถ่ายรูปเล่นพอใจแล้วก็กลับมาทานอาหารเช้าที่มุ้ยฟัง เป็นเมนูไข่กระทะ ขนมปังปิ้ง น้ำส้มคั้น กาแฟ เสร็จแล้วก็ขึ้นไปพักผ่อนนอนเล่นที่ห้อง เที่ยงแล้ว หิวแล้วจ้า ปั่นจักรยานไปศรีเชียงคานซอย 10 ร้านจุ่มนัวยายพัด เขาว่าอร่อย มาลองกินซะหน่อย ก็คือสุกี้น้ำขลุกขลิกแบบโบราณใส่หมูหมัก ผักเยอะ สามารถเลือกเส้นได้ วุ้นเส้น เส้นเล็ก เส้นหมี่ รสชาติไม่เหมือนสุกี้ทั่วไปที่เคยกิน แต่ก็อร่อยดีแฮะ ต่อด้วยลอดช่องอีก 1 ถ้วย อิ่มแป้ ช่วงเย็นมาปั่นจักรยานเล่นริมแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นถนนให้คนมาขี่จักรยาน วิ่งออกกำลังกาย เดินเล่นโดยเฉพาะ มีนักท่องเที่ยวมาเดินเล่น ถ่ายรูปเล่นเยอะพอสมควร ที่แม่น้ำ มีชาวบ้านพายเรือหาปลา มีซ้อมแข่งเรือยาว มาต่อที่ถนนคนเดินกัน วันนี้วันศุกร์ ร้านเยอะ และคนมาเที่ยวเยอะกว่าเมื่อวานมาก หาซื้ออะไรกินเล่น และหาซื้อเสื้อผ้าของฝากไปเรื่อย ได้เวลากลับที่พัก ไถมือถือเล่น อาบน้ำพักผ่อนสบายใจ เช้าวันสาม ตื่นแต่เช้าเหมือนเดิม ปั่นจักรยานออกกำลังกายสูดอากาศก่อนจะกลับกรุงเทพ มีคนออกมาเดินเล่น จ๊อกกิ้ง บรรยากาศดีจริง ๆ กลับที่พัก เลือกทานอาหารเช้าได้ มีไข่กะทะ ข้าวเปียกเส้น และโจ๊ก เช้านี้ขอเลือกโจ๊กและขนมปิ้งละกัน อิ่มแล้ว เก็บกระเป๋าเรียบร้อย ลงมานั่งรอรถตู้ Transfer ของ Air Asia มารับถึงที่พักประมาณเก้าโมงครึ่ง เครื่องออกประมาณเที่ยง บ๊ายบายเชียงคาน จริง ๆ อยากจะอยู่ต่ออีกซักวันสองวัน ถามว่าอยู่ต่อแล้วทำอะไร ก็ไม่มีอะไรให้ทำนอกจากถ่ายรูปเล่น ขี่จักรยานเล่น ชมวิถีชาวบ้าน ซึ่งแค่นี้ก็รู้สึกมีความสุข และชีวิตได้พักผ่อน สโลว์ไลฟ์บ้าง ได้เบรคจากชีวิตการทำงานที่เร่งรีบในกรุงเทพฯ ทริปนี้ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวสถานที่อื่นในเชียงคาน แค่อยากมาพักผ่อนจริง ๆ ใครอยากมาสโลว์ไลฟ์ก็เชิญที่เชียงคานกันได้นะคะ