สวัสดีค่ะเพื่อนๆสหายเดินทาง วันนี้ซันจะมาเล่าเรื่องการเดินทางอันแสนพิเศษบนภูกระดึง อ่า~ เพื่อนๆคงจะงงว่าทำไมซันเรียก Final Call คำนี้เราจะได้ยินบ่อยๆ ซึ่งมันคือการประกาศครั้งสุดท้าย และนี่เองซันก็เลยเอามาเรียกการไปเที่ยวภูกระดึงก่อนที่จะปิดฤดูกาลท่องเที่ยวไปอีกสี่เดือน เจอกันเดือนสิบเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภูกระดึงอีกครั้งภูกระดึง ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึงCONGRATULATION TO PHUKRADUENG CONQUEROR.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย.การเตรียมตัวฟิตร่างกายหน่อยก็ดีนะ 5555ยาประจำตัว ยาแก้ปวด แก้หยอก เตรียมไปเหอะเชื่อดิเงิน เงิน เงิน เพราะของกินอร่อยๆเยอะมากไฟฉาย สำคัญอย่างยิ่งยวด อย่าใช้ไฟแรงมากนะ เพราะอาจส่องไปเจอ... (ฟังเรื่องหลอนๆมา 555)รองเท้า สำคัญมาก เลือกรองเท้าผิดชีวิตเปลี่ยน ควรเลือกที่เราใส่สบายวันที่ 1 ป่ะ Let's goระยะทาง 9 กม. แบ่งเป็นที่ทำการอุทยาน ถึงหลังแป 5.5 กม.มาเรียงลำดับกันดีกว่า ว่าเราต้องผ่านอะไรบ้างปางกกค่า>ซำแฮก>ซำบอน>ซำกกกอก>ซำกอซาง>พร่า-น พรานแป>ซำกกหว้า>ซำกกไผ่>ซำกกโดน>ซำแคร่>หลังแป ป้ายบอกจุดต่างๆทางเดินขึ้นภูกระดึงบันไดเหล็กคู่ป้ายผู้พิชิตภูกระดึงสัญลักษณ์ภูกระดึง (ใบเมเปิ้ลแดง, ลูกสน)คราวนี้พวกเราได้ไปเยือนสถานที่อีกที่ นั่นคือ ผาเมษา จะมีไม่กี่คนนักที่รู้จักผาลับที่อยู่ระหว่างหลังแปกับผาหมากดูกผาเมษา หลังแป ถึงวังกวาง 3.5 กม. ทางราบเรียบเหมือนเหยียบบนหาดทรายยย อิอิ ระหว่างทางจะมีต้นสนหนึ่งต้น อยู่กลางทางเดิน ใครไปใครมาต้องแวะแชะภาพกับต้นสนต้นนี้สักครั้งจุดเช็คอิน ต้นสน หลังแป ถ้าไม่อยากแบกของเอง ก็จะมีลูกหาบคอยให้บริการ แต่.... แต่ ถ้าวันหยุดยาวคนจะมีมหาศาล เตรียมตัวเตรียมใจเผื่อแบกเองกันด้วยนะจ๊ะ เพราะฉะนั้นควรเอาของไปเท่าที่จำเป็น ย้ำ!! จำเป็น เท่านั้น. แนะนำ.. อย่าไปช่วงหยุดยาววววววว เตือนละนะ แต่ครั้งนี้ที่เราไปเป็นช่วงใกล้ปิดภูฯพอดี คนที่เดินทางไป-กลับที่นี่เดินทางสวนกัน นับคนได้เลย ร้านค้าบางซำก็เปิดขายร้านสองร้าน บางซำปิดหมดถึงวังกวางแล้ววววววพวกเราไปติดต่อเอากุญแจห้องพัก แล้วเอาของเข้าไปเก็บ หลังจากนั้นก็ไปหาของกินบ้านพักอุทยาน เทียนน้ำวันที่ 2ตื่นเช้า เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ ผานกแอ่นทางเจ้าหน้าที่จะประกาศช่วงกลางคืนนัดแนะนักท่องเที่ยวที่จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ต้องฟังดีๆ ทำตามคำแนะนำเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพราะระหว่างทางไปอาจจะมีอะไรรอเราอยู่ก็ได้เมื่อกลับจากผานกแอ่น พวกเราแวะ อ่างเก็บน้ำวังกวางอ่างเก็บน้ำวังกวางกลับห้องพักเก็บของกันเถอะ วันนี้เราต้องเดินทางไกล เพราะฉะนั้นเราต้องไปเติมพลัง และกักตุนสเบียง พวกเราฝากท้องไว้ที่ร้านพี่โจ้ เส้นทางการเดินของพวกเรานั้นก็คือ จากที่พักบริเวณวังกวาง >น้ำตกวังกวาง >น้ำตกเพ็ญพบใหม่ >น้ำตกโผนพบ >น้ำตกเพ็ญพบ >น้ำตกถ้าใหญ่ (ดูบรรยากาศจากรูปข้างล่างได้เลยจ้า)น้ำตกวังกวางน้ำตกเพ็ญพบใหม่น้ำตกโผนพบน้ำตกเพ็ญพบน้ำตกถ้ำใหญ่ช่วงที่สวยที่สุดของน้ำตกนี้คือช่วงที่ใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีเป็นสีแดง ร่วงหล่นมาบนพื้นหินสีเขียว ตัดกับฉากหลังที่เป็นน้ำตกลงมากระทบหิน จุดนี้จะเป็นจุดที่ต้องมาเช็คอินอีกที่ออกจากน้ำตกถ้ำใหญ่สถานที่ต่อไปคือ สระอโนดาด อันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะมัวแต่นั่งพักกินข้าว ต่อไปผ่านน้ำตกถ้ำสอเหนือ >ผาหล่มสัก ผาหล่มสักจุดชมพระอาทิตย์ตก มีจุดถ่ายรูปสวยๆ ซึ่งจะมีต้นสนขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ข้างหน้าผาที่ยื่นออกมา จุดนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดที่จะมาเช็คอินเลยล่ะเส้นทางขากลับลานกลางเต็นท์เรากลับเส้นทางเดินเลียบผา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กลับแบบพระอาทิตย์ยังไม่ตก รู้สึกดี ระวังก็แค่พี่ใหญ่ ไม่ต้องระวังสิ่งที่มองไม่เห็น อิอิ ผาหล่มสัก>ผาแดง>ผาเหยียบเมฆ>ผานาน้อย>ผาจำศีล>ผาหมากดูก>ลานกลางเต็นท์ วังกวาง ถือว่าวันนี้เราเดินกันขาลากเลยล่ะ 55555 ภายใต้เลข5 มีน้ำตาซ่อนอยู่ T^T ยาที่เตรียมมาได้ใช้แน่ๆวันที่ 3วันนี้ขาพวกเราล้ากันเหลือเกิน แต่ด้วยเมื่อวานจะมีฝนตกบนภูป้ายหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวพวกเราเลยลากสังขารไปผานกแอ่น เพื่อรอดูทะเลหมอกอีกสักวัน และนี่คือสิ่งที่พวกเราได้ชมชมพระอาทิตย์ขึ้น ผานกแอ่นชมพระอาทิตย์ขึ้น ผานกแอ่น โชคยังดีที่พอจะเห็นหมอกอยู่บ้างต้นสนที่มีอายุมากกว่า 224 ปีลานกางเต๊นท์ ที่ทางอุทยานกางเต๊นท์ไว้รอนักท่องเที่ยวลานกางเต๊นท์ ถ้าช่วงเทศกาล ลานนี้จะเต็มไปด้วยเต๊นท์เดินทางกลับทางไปหลังแปทางเดินไปหลังแป มีต้นสนเรียงรายเคียงคู่ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง ดูสบายตา ระหว่างทางเดินที่หลังแปพวกเราได้เจอกับหมูป่าตัวใหญ่ อันนี้ซันมัวแต่ซูม ภาพเลยได้แบบนี้ แหะๆ พอเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็ได้ยินเสียงหมูป่ากำลังเคี้ยวอย่างเมามัน ป่ะเดินทางกันต่อ เดินผ่านช่วงภาพก่อนหน้ามาสักพักท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสี พร้อมความฟุ้งของหมอกกำลังเข้ามาปกคลุมแทน ระหว่างเดินทางลงจากภูกระดึงก็มีฝนตกลงมาชุ่มฉ่ำกันเลยทีเดียว ทางเดินตอนนี้ระวังลื่นกันอย่างเดียวเทียบรอยเท้ากับพี่ใหญ่สักหน่อยก่อนที่เราเดินทางลงมาถึงซำแฮก พวกเราได้ยินเสียง แปร้น!! ดังขึ้น ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก พี่ที่ขายของบอกพวกเราว่าพี่ใหญ่มารอรับแล้วว ฮ่าๆ เลิ่กลั่กไม่หาย นั่งพักกันสักพักก็เดินทางลงกันต่อ แล้วพวกเราก็ลงมาถึงที่ทำการอุทยานด้านล่างได้ทันฝนตกหนักพอดีจองที่พักอุทยาน จองเต็นท์ จองพื้นที่กางเต็นท์ > https://nps.dnp.go.th/reservation.phpการเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ของซัน ครั้งที่ 3 ของโต้ง และในครั้งนี้ซันพาเพื่อนมาเดินครั้งแรก เพื่อนบอกว่าซันพาเดินโหดมาก ฮ่าๆ ก็เดินไปเกือบห้าสิบโลเอง นเดินทางของพวกเราคือ 28-30 พฤษภาคม 2565 ก่อนที่ภูกระดึงจะเข้าพักผ่อนอีกสี่เดือน ตอนนี้ภูกระดึงได้พักผ่อนแล้ว ธรรมชาติ สัตว์ป่า คงออกมาเต็มแล้ว แค่คิดก็มีความสุข 1 ตุลาคม 2565 เจอกันใหม่กำหนดการ ภูกระดึงเปิดภูฯ : 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปีปิดภูฯ : 1 มิถุนายน - 30 กันยายน ของทุกปีการเดินทางครั้งนี้ทำให้ซันประทับใจอะไรหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเพื่อนร่วมทริป เพื่อนนักเดินทาง แม่ค้าขายของ เจ้าหน้าที่ เราสามารถพูดคุยกัน แม้ไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน พอเจอกันก็ทักกัน เตือนกัน ให้กำลังใจกัน ร่วมกับธรรมชาติที่ปราศจากผู้คนมากมาย ไม่ต้องแย่งน้ำ แย่งอาหาร แย่งห้องน้ำ มันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ยังไงเพื่อนๆก็ลองมากันได้นะคะ มาง่ายค่ะ แต่ไม่ได้บอกว่าขึ้นง่ายนะคะจบแล้วนะคะ สำหรับรีวิวสำหรับทริปนี้ หวังว่าเพื่อนๆคงจะมีความสุขกับการอ่านรีวิวนี้ แล้วพบกันทริปหน้านะคะภาพประกอบภาพที่ 1-6, 11, 19-20, 22-28 จากนักเขียนภาพที่ 7-8 จากพี่ปั๋ง ภาพที่ 9, 21 จาก Nulekภาพที่ 10, 12-18 จาก Tongภาพหน้าปก จากนักเขียนวันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !