ไปภูกระดึงสักครั้งหนึ่งในชีวิตกันมั้ย?.. สิ้นเสียงคำชวนจากเพื่อนสาวคนหนึ่ง ก็ทำให้มานึกๆดู เราเองก็เคยมีความคิดนี้อยู่เหมือนกัน เมื่อนานมามากแล้ว เอาซิ ไหนๆ ก็มีแนวร่วมก็ลองลุยกันดูสักครั้งก่อนที่สังขารจะไม่ไหวไปมากกว่านี้ การรวมพลเกิดขึ้นล่วงหน้าค่อนข้างเนิ่นนาน ซึ่งนั่นแหละทำให้บางคนว่าง บางคนไม่ว่าง จนทริปนี้เกือบจะล่มแล้ว แต่แล้วก็ด้วยเหตุบังเอิญหลายประการ ทำให้ทริปนี้เกิดขึ้นอีกครั้งแบบกระทันหัน กระทันหันแบบที่ว่าสรุปว่าจะไปพิชิตภูกระดึงกันหัวค่ำวันศุกร์ จองตั๋วรถโดยสารคืนนั้นและออกเดินทางคืนวันเสาร์กันเลยทีเดียว เอาล่ะ มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทางกับร่างกายที่ไม่ได้ฟิตซ้อมอะไรทั้งนั้น ตั้งใจเก็บกระเป๋า นึกทุกอย่างเท่าที่นึกออกว่าต้องเตรียมอะไรไปเดินขึ้นภูกระดึงบ้าง เมื่อจัดกระเป๋าเสร็จก็พร้อมออกเดินทางกัน เดินทางมาถึง จ.เลย อ.ผานกแอ่น เช้ามืดของวันอาทิตย์ มาถึงหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ติดต่อเต็นท์ที่นอน 2 คืน สำหรับสมาชิก 6 คน และติดต่อลูกหาบสำหรับสัมภาระ ที่เราคงไม่มีทางแบกไปจนถึงบนภูกระดึงไหว 08:00 น. หลังเคารพธงชาติเสร็จพวกเราก็ออกเดินเท้ากันไปเรื่อยๆ และแน่นอนเราดูรีวิวมาก่อนหน้านี้มาบ้าง แต่พอมาเจอของจริงที่อยู่ตรงหน้า 1 กิโลเมตรแรก ของการออกเดินคือการไต่เขาขึ้นไปเรื่อยๆ สุดจริง สำหรับมือใหม่การเดินขึ้นภูอย่างพวกเรา แต่พวกเราทุกคนก็ขึ้นมาจนถึง "ซำแฮก" เป็นซำที่พักแรก ที่รู้สึกว่าเป็นจุดวัดใจ ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลังกลับ แต่เอาเข้าจริง พอมาถึงซำแรก เรามีความรู้สึกว่า ทางข้างหน้าดูง่ายและสบายไปเลย ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า "ฉันจะเป็นผู้พิชิตภูกระดึงให้ได้" เดินทางกันต่อ ระหว่างทางก็พบปะ ทักทายกับผู้ร่วมเดินขึ้นและลงภู อย่างสนุกสนาน คำพูดติดปากของคนที่เดินลงมาคือ "อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว" ใช่เลย.. อีกนิดเดียวจริงๆ (อีกนิดเดียวจะไม่ไหวแล้ว ฮ่าๆๆ) จนแล้วจนรอดพวกเราก็ขึ้นมาจนถึงหลังแป และต้องเดินทางราบกันไปอีก 3 กิโลเมตร กว่าจะถึงที่ทำการอุทยานและเต็นท์นอนที่ติดต่อไว้ คืนแรกพวกเราก็สลบ พักผ่อนกันไป พรุ่งนี้เตรียมออกเดินทางชมธรรมชาติบนภูกันต่อ เช้าวันจันทร์ที่อากาศดี พวกเราออกเดินทางต่อโดยวางเส้นทางไปดูน้ำตก ไล่ไปเรื่อยๆ จนถึงผาหล่มสัก แลนด์มาร์คสำคัญของที่นี้ แต่พอออกเดินไปได้ 1 กิโลเมตร สมาชิกคนหนึ่งเกิดเหตุด่วนกระทันหันทำให้เราต้องเดินกลับมาที่ทำการ และเปลี่ยนเส้นทางเดินใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับเวลา พวกเราออกเดินทางไปชมน้ำตกใหญ่ สระอโนดาต เดินลัดผ่านทุ่งใหญ่ๆ มาโผล่ที่ผาเหยียบเมฆกัน พักทานอาหารเที่ยง และออกเดินทางไปผาหล่มสักกันต่อ เราถึงผาหล่มสักกันประมาณ 5 โมงเย็น หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จเราก็เดินทางกลับกัน ระหว่างทางค่อยๆ มืดลงไปเรื่อย เท้าก็เริ่มล้า เนื่องจากเดินมาทั้งวันแล้ว ต่อเนื่องจากการเดินขึ้นภูเมื่อวานอีก ความกลัวก็เริ่มมากขึ้น กับระยะทางอีก เกือบ 5 กิโลเมตรกว่าจะถึงที่พัก ระหว่างทางที่เดินกลับ มีเพียงแสงไฟจากไฟฉายและมือถือ ประกอบกับเสาไฟตามรายทางที่ตั้งอยู่เป็นระยะๆ ห่างๆกัน การเดินช่วงนั้นที่มองไม่เห็นอะไรข้างทางเลย พวกเราเดินคุยกันไป คอยเช็คกันตลอดทาง จนถึงเต็นท์ที่พักประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆได้ เหนื่อยและสนุกที่สุดของทริปนี้เลย รวมระยะการเดินทางไปกลับราวๆ 24 กิโลเมตร ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทริปที่ทำให้เราได้เปลี่ยนเส้นทางเดินใหม่ ไม่อย่างนั้น เราคงต้องเดินทางและล้าไปกว่านี้แน่นอน 7 โมงเช้าพวกเราเดินลงภู ถึงเวลาต้องกลับแล้ว เราใช้เวลาเดินลงภู ประมาณ 4 ชั่วโมงได้ เพื่อไปขึ้นรถกลับบ้านให้ทันรอบ 13:30 น. ความรู้สึกเมื่อเดินถึงหน้าประตูทางลงอุทยานภูกระดึง พูดกับตัวเองเลยว่าไม่เอาอีกแล้ว เหนื่อยมากๆ เจ็บเท้ามากๆ ไม่กลับมาอีกแน่นอน ถึงขั้นสาบานกับตัวเองในใจ แต่พอกลับมาถึงบ้าน พอเท้าเริ่มหายเจ็บ ทำไมไม่รู้กลับเอาแต่นึกถึงภูกระดึง อยากกลับไปอีก คิดถึงบรรยากาศบนภูกระดึง คิดถึงความรู้สึกระหว่างเดินขึ้น-ลงภู คิดถึงการเดินยามค่ำคืนในป่ามืดๆ คิดถึงผู้คนที่พบเจอ คิดถึงนะภูกระดึง "ภูกระดึง" ครั้งหนึ่งก็เพียงพอ...! จริงหรือ.. ลองไปสัมผัสด้วยตัวคุณเองแล้วจะรู้