รีวิวค่าย ชมรมครูอาสา มมส.ภาพประกอบที่ 1“คือผู้ให้ คือผู้สร้าง คือหนทาง ครูอาสา” ชมรมครูอาสา สังกัดสโมสรนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นชมรมที่จัดตั้งขึ้นเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาได้นำความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ ความสามารถ และใจที่รักในกิจกรรมอาสาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนซึ่งหมายความรวมถึงบ้าน วัด และโรงเรียน จากชื่อชมรมที่ว่า “ครูอาสา” นั้นก็มิได้หมายความว่าทุกคนในชมรมจะต้องเป็นนิสิตเรียนครูเท่านั้น หากแต่เป็นชมรมที่รวบรวมใจดวงใจแห่งการแบ่งปันทุกดวง ทั้งนิสิตที่เรียนครูและนิสิตที่ไม่ได้เรียนครู อีกทั้งยังมีเครือข่ายอย่างกว้างขวางโดยนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศก็สามารถสมัครร่วมค่ายกับชมรมครูอาสาได้เช่นกัน เพราะชมรมครูอาสาถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาอาสาเป็นครู ไปทำหน้าที่เป็นครูช่วยพัฒนาชุมชนต่อไป สำหรับชมรมครูอาสานั้นก็จะมีทั้งหมด 3 ค่าย กับอีก 1 โครงการ ในทุกรอบที่จะออกค่ายนั้นชมรมครูอาสาจะมีการเปิดรับสมัครชาวค่ายอย่างเข้มข้น คัดเลือกจากผู้ที่มีใจอาสาอย่างแท้จริง โดยมีคณะกรรมการการคัดเลือกที่จะต้องอ่านเหตุผลการสมัครของทุกคนโดยไม่ทราบชื่อและร่วมกันโหวตอย่างเป็นประชาธิปไตยภาพประกอบที่ 2 ค่ายแรกของชมรมครูอาสา คือ “ค่ายครูอาสารักป่าอีสาน” สำหรับค่ายนี้ก็จะเป็นค่ายที่จัดขึ้นเพื่อให้นิสิตนักศึกษาได้ไปศึกษาเรียนรู้แหล่งทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะป่าไม้ในเขตภาคอีสาน โดยจะมีทั้งกิจกรรมการเรียนรู้จากวิทยากรของศูนย์การเรียนรู้ กิจกรรมเดินป่า กิจกรรมการปลูกป่า การทำฝายกั้นน้ำ นอกจากนี้แล้วยังมีภารกิจให้ชาวค่ายได้ทำร่วมกันเป็นกลุ่มระหว่างการเดินป่าเพื่อให้กระชับความสัมพันธ์และทำความรู้จักกับเพื่อน ๆ ชาวค่ายให้มากขึ้น มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยค่ายนี้นับว่าเป็นการสร้างความตระหนักและเห็นความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติที่เราจะต้องร่วมกันอนุรักษ์และฟื้นฟู เพื่อให้เกิดความยั่งยืนภาพประกอบที่ 3 ค่ายที่ 2 คือ “ค่ายเปลวเทียนสู่ฝัน” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ค่ายสอน” เป็นค่ายที่ได้รวบรวมนิสิตจากหลากหลายสาขาและคณะเพื่อร่วมกันศึกษาจัดทำเอกสารประกอบการเรียนการสอน และลงพื้นที่โรงเรียนเพื่อไปจัดกิจกรรมวิชาการในลักษณะของการติวความรู้ต่าง ๆ ที่จะต้องใช้ในการสอบเข้าระดับมหาวิทยาลัยให้กับน้อง ๆ ในโรงเรียน ซึ่งในการคัดเลือกโรงเรียนนั้นก็จะต้องคัดเลือกจากโรงเรียนที่มีความต้องการเป็นหลัก อีกทั้งยังมีการสอดแทรกกิจกรรมการแนะแนวคณะต่าง ๆ ให้กับน้อง ๆ ได้รู้จักเพื่อให้น้อง ๆ ได้ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการประกอบการตัดสินใจศึกษาต่อในอนาคต โดยค่ายเปลวเทียนสู่ฝันจะจัดขึ้นโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 7 วัน 6 คืน บ้างก็ 5 วัน 4 คือ หรือตามความเหมาะสมภาพประกอบที่ 4 ค่ายที่ 3 คือ “ค่ายครูอาสาสู่ชนบท” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ค่ายสร้าง” ที่เรียกเช่นนี้นั่นก็เป็นเพราะค่ายนี้มีลักษณะเป็นการไปสร้างแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ให้กับโรงเรียน เช่น การปรับปรุงห้องเรียนอนุบาล การปรับปรุงห้องสมุด การสร้างถนนการเรียนรู้ BBL ปรับปรุงสนามเด็กเล่น การประปรุงภูมิทัศน์ของโรงเรียน จุดเด่นของค่ายนี้คือจะเน้นการสานสัมพันธ์กับชุมชนผ่านกิจกรรมพ่อฮัก แม่ฮัก ที่ชาวบ้านจะต้อนรับนิสิตนักศึกษาที่ไปจัดค่ายเสมือนลูกคนหนึ่งโดยให้การสนับสนุนกิจกรรม ดูแลช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ซึ่งจุดประสงค์ของกิจกรรมพ่อฮักแม่ฮักคือการมุ่งเน้นให้นิสิตนักศึกษาได้เรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชนเป็นหลัก นับว่าค่ายนี้เป็นค่ายที่หลาย ๆ คนรอคอยและมีผู้สมัครเป็นจำนวนมากในแต่ละครั้งที่ผ่านมา นอกจากค่ายทั้ง 3 ค่ายแล้ว ชมรมครูอาสายังมีอีก 1 โครงการ นั่นคือ โครงการเยี่ยมค่ายครูอาสาสู่ชนบท คือการกลับไปเยี่ยมโรงเรียนและชุมชนต่อเนื่องจากค่ายที่ 3 เป็นการลงพื้นที่ไปดูความยั่งยืนของสิ่งที่ได้จัดทำไปแล้วนั่นเองภาพประกอบที่ 5 ชมรมครูอาสานับว่าเป็นชมรมที่มีกิจกรรมอย่างหลากหลาย สร้างประโยชน์ให้กับชุมชนชนและสังคมอย่างแท้จริง อีกทั้งยังมีจุดเด่นในด้านสันทนาการที่สร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับชาวค่ายอยู่เสมอ มีทีมครัวที่เข้มแข็งเสียสละแรงกายและเวลา “ตื่นก่อน นอนทีหลัง” เพื่อประกอบอาหารให้กับชาวค่ายได้รับประทานด้วยใจรักในหน้าที่ ตลอดจนมีคณะกรรมการชมรมและชาวค่ายที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ เป็นชมรมที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม และการแบ่งปัน ที่อยากให้ทุกคนได้มาลองสัมผัสกันสักครั้งภาพประกอบที่ 6สามารถติดตามกิจกรรมของชมรมครูอาสาได้ที่ ชมรมครูอาสา มมส.“คือผู้ให้ คือผู้สร้าง คือหนทาง ครูอาสา”ขอบคุณรูปภาพจากฝ่ายสื่อและโสตชมรมครูอาสา : ภาพประกอบที่ 1 / ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4 / ภาพประกอบที่ 5 / ภาพประกอบที่ 6