ในประเทศไทยของเราประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศยึดอาชีพหลักๆคือ "เกษตรกร" วันนี้ทางเราจะพูดถึงฝันร้าย หรือ ภัยที่เกษตรกรส่วนใหญ่มักจะพบเจอ ทุกที่ทุกภูมิภาคของประเทศนั่นก็คือปัญหา "ภัยแล้ง" นั่นเอง เกษตรกรผู้ที่มีผลกกระทบมากที่สุดส่วนมากจะเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ซึ่งข้าวเป็นพืชที่ปลูกทั่วทุกภูมิภาคและข้าวเป็นพืชที่ต้องการน้ำค่อนข้างมาก 1.น้ำเป็นส่วนสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตต่อพืชทุกชนิด เกษตรกรผู้ทำนาข้าวช่วงประมาณเดือนกรกฎาคม หรือ ช่วงกำลังจะเข้าสู่หน้าฝนจะเป็นช่วงที่กำลังว่านเมล็ดพันธ์ซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญมากเพราะหากว่าน เมล็ดพันธ์ข้าวแล้วก็ต้องดูช่วงของฝนฟ้าด้วยเพราะหากฝนไม่มาตามที่คาดไว้ข้าวก็ไม่งอกเกิดขึ้นมา ถ้าฝนฟ้าเป็นใจข้าวก็จะงอกขึ้นดีในส่วนของพืชชนิดอื่นก็เช่นกันน้ำในบ่อในสระที่กักเก็บไว้ช่วงนี้ก็เหือดแห้งไปหมดไม่สามารถทำการเกษตรได้ ก็ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตารอฝนตกลงมาอย่างเดียว น้ำที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคก็จะหนีไม่พ้นน้ำใต้ดินแต่ถ้าจะหวังน้ำใต้ดินมาใช้ในการเกษตรก็คงไม่ได้ 2.อีกปัญหาที่มากับภัยแล้งก็คือหญ้า หญ้าซึ่งเป็นพืชที่ทนแล้งได้มากที่สุดสามารภเติบโตได้แม้ในพื้นที่น้ำน้อย หญ้าเป็นวัชพืชที่เป็นตัวแย่งอาหารแย่งน้ำจากต้นข้าว จึงทำให้ข้าวไม่สามารถเจริญเติบโตได้ 3.สภาพอากาศ เป็นอีกปัจจัย เพราะภัยเเล้งฝนไม่ตกอากาศร้อนจัด อากาศแบบนี้ล้วนส่งผลต่อต้นข้าว หรือต้นพืชอื่นๆ เพราะด้วยแดดที่แผลดเผาต้นข้าวต้นพืชจนแห้งตาย เป็นอีกปัญหาที่ตอกย้ำเกษตรกร การใช้ชีวิตในปัจจุบันสะดวกสบายก็จริงการดำรงชีวิตล้วนมีน้ำเป็นส่วนสำคัญ แต่ อีกปัญหาคือการใช้น้ำใต้ดิน น้ำบาดาล การใช้น้ำใต้ดินทุกบ้านแทบจะมีทุกหลังที่ใช้เพราะมีให้ใช้ตลอด ปัญหาคือการที่เราใช้น้ำใต้ดินสูบขึ้มาใช้จำนวนมาทำให้หน้าดินแห้งซึ่งก็คือดินไม่อุ้มน้ำอีกต่อไปเพราะน้ำในชั้นใต้ดินมีน้อย ยิ่งมากไปกว่านั้นฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูการทำให้น้ำที่จะไปทดแทนน้ำใต้ดินขาดแคลนไปด้วย และนี้ก็คือข่าวสารที่นำมาฝากครับ เครดิตภาพ ทุกภาพถ่ายโดยผู้เขียน : Thanya karawiko รูป1 / รูป2 / รูป3 / รูป4 / รูป5