หมู่บ้านปั้นหม้อ หรือบ้านหม้อ ตั้งอยู่ที่ตำบลเขวา อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ห่างจากตัวเมืองมหาสารคาม ประมาณ 5 กิโลเมตร โดยหลังจากเสร็จฤดูการทำนาแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่จะมีอาชีพหลักคือ การปั้นหม้อดินเผา ซึ่งการปั้นหม้อของชุมชนแห่งนี้จะเป็นการปั้นหม้อแบบโบราณ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษมาสู่คนรุ่นหลัง และถึงแม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไปกี่ยุคกี่สมัย ชาวบ้านและลูกหลานต่างก็ยังอนุรักษ์ภูมิปัญญานี้ไว้อย่างดีเรื่อยมา ความเป็นมาของหมู่บ้าน คุณยายแต๋ว อันฤดี อายุ 68 ปี ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับหมู่บ้านว่า เมื่อเกือบ 200 ปีมาแล้ว บรรพบุรุษได้อพยพหนีความแห้งแล้งมาจากจังหวัดนครราชสีมา และตัดสินใจตั้งถิ่นฐานที่ “หนองเลิ้ง” ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านโดยหนองเลิ้งนั้นมีดินเหนียวจำนวนมากอยู่ในหนองน้ำ ชาวบ้านจึงใช้ภูมิปัญญาที่ติดตัวมาปั้นหม้อดินเผา สาเหตุที่ชุมชนแห่งนี้ได้ชื่อว่าบ้านหม้อนั้น เพราะคนในหมู่บ้านปั้นหม้อนำไปแลกและขายตามหมู่บ้านต่างๆ จนหมู่บ้านข้างเคียงเรียกว่าบ้านหม้อ ทำให้เป็นที่รู้จัก มีผู้มาติดต่อซื้อขายเพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุนี้วิถีชีวิตดั้งเดิมของคนที่นี่จึงเปลี่ยนไปด้วย ปัจจุบันจึงได้มีการนำแป้นหมุนซึ่งเป็นเครื่องจักรมาใช้ในการปั้นเพื่อให้เสร็จทันตามที่ลูกค้าสั่ง โดยการปั้นโดยใช้เครื่องจักรนี้จะเป็นผู้ชายที่ทำ ส่วนผู้หญิงยังคงอนุรักษ์วิธีการปั้นแบบโบราณอยู่ถึงแม้จะทำได้ช้าก็ตาม คุณยายต้อม อันฤดี น้องสาวของคุณยายแต๋วได้เล่าว่า ตอนเด็กๆ ท่านก็เห็นพ่อและแม่ทำอาชีพปั้นหม้ออยู่แล้ว และท่านก็เริ่มปั้นหม้อมาตั้งแต่เด็ก ขยันทำบ่อย ๆ เรียนรู้จากพ่อแม่และคนรอบข้าง จนเกิดความชำนาญ จึงได้ยึดการปั้นหม้อเป็นอาชีพหลัก โดยแต่ละวันคุณยายสามารถปั้นหม้อได้ 20 – 30 ลูกต่อวัน และเหตุที่คุณยายไม่ใช้แท่นหมุนที่เป็นเครื่องจักรเพระว่าคุณยายทำไม่เป็น จึงยึดวิธีการปั้นมือแบบโบราณเรื่อยมา การปั้นหม้อสามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้ 10,000 - 20,000 บาท/เดือน โดยขึ้นอยู่กับความขยันของแต่ละบุคคล ทั้งนี้หมู่บ้านปั้นหม้อยังแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตในการปั้นหม้อของชาวบ้านที่ยังคงสืบทอดมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอีกด้วย หากใครที่สนใจอยากจะลองปั้นหม้อดู ทางชุมชนก็มีการสาธิตขั้นตอนการปั้นอย่างละเอียด รับรองว่าทุกคนจะต้องสนุกแน่นอนค่ะ สำหรับตัวนักเขียนเองที่ได้มีโอกาสเดินทางมาที่บ้านหม้อเป็นครั้งแรก ก็รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ชาวบ้านที่นี่เป็นกันเองและให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ท่านรู้สึกดีใจที่มีเยาวชนคนรุ่นหลังที่ยังให้ความสนใจในวิชาชีพที่พวกท่านทำอยู่ และก็พร้อมที่จะถ่ายทอดวิชาความรู้นั้นให้อย่างเต็มที่กับบุคคลที่สนใจ เพื่อรักษาภูมิปัญญางานหัตถกรรมเหล่านี้ให้คงอยู่ ไม่เช่นนั้นหมู่บ้านแห่งนี้จะกลายเป็นเพียง “แหล่งที่เคยผลิตเครื่องปั้นดินเผา” นั่นเองค่ะ การปั้นหม้อดินเผาถือเป็นการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างหนึ่งที่บรรพบุรุษของชุมชนบ้านหม้อได้สร้างไว้ นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างรายได้เลี้ยงชีพคนในชุมชนมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้จะมีความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามา แต่สิ่งที่คงอยู่นั่นคือ วิชาความรู้ในการปั้นหม้อที่คนรุ่นเก่าทิ้งไว้ให้ลูกหลานได้เรียนรู้และสืบทอดเอกลักษณ์การปั้นหม้อนี้ให้คงอยู่คู่บ้านหม้อต่อไป หากเด็กรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ก็จะเป็นการส่งเสริมให้เด็กมีทักษะ มีอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ในอนาคต (ภาพถ่ายทั้งหมดโดย : ผู้เขียน)