อื่นๆ
สเลอปี้ กับรคคันนี้สีแดง

สเลอปี้ กับรถคันนี้สีแดง
เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์สั้นๆ ที่เกิดขึ้นรวดเร็วและจบลงในชั่วพริบตา หากแต่มันยังคงค้างคาและติดตาผมมาจนถึงตอนนี้ แม้มันจะผ่านมาสามปีแล้วก็ตาม ผมไม่อาจจะหาคำตอบให้ตัวเองได้ และทุกครั้งที่ต้องสัญจรเดินทางผ่านเส้นทางนั้น...ภาพเก่าๆ มันก็วนกลับมาจนรู้สึกขนลุกอยู่เสมอ
ธันวาคม 2559 ช่วงที่ปากช่องหนาวจัดและฝนหน้าหนาวตกปรอยๆ ผมที่ออกไปทำธุระในตัวอำเภอและต้องกลับในเวลาสามทุ่มขับรถมาด้วยความเร็วไม่มากนัก เพราะถนนค่อนข้างลื่น รวมทั้งรถมอเตอร์ไซค์ส่วนตัวที่สภาพไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก ฝนตกทำให้หยดน้ำเกาะอยู่ที่หน้ากากหมวกกันน็อคจนทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นไม่ชัดเท่าที่ควร
เส้นทางตรงหน้าเป็นโค้งอันตราย มีอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ในคอนเสิร์ตใหญ่ระดับประเทศที่จัดขึ้นก็เพิ่งมีการแหกโค้งบาดเจ็บไปหลายราย ผมเตรียมตัวเข้าโค้ง เส้นทางตรงหน้าหลังจากหลุดโค้งเป็นทางตรงชันขึ้นเขา สองข้างทางเป็นเนินลงไปประมาณสี่สิบห้าองศา นั่นหมายความว่าไหล่ทางทั้งสองข้างนั้นค่อนข้างลึกจากพื้นถนนปกติ
Advertisement
Advertisement
ตรงหน้าในเวลานั้น มีรถมอเตอร์ไซค์รุ่นสุดฮิตสีแดงคันหนึ่งซึ่งขับนำหน้าอยู่ เขาขับอยู่ในเส้นขาว ด้วยความที่ถนนค่อนข้างโล่งว่าง ผมจึงตีรถออกจากทางด้านขวา เพื่อแซงรถคันนั้นตรงบริเวณกลางโค้งพอดี
ในวินาทีที่เราขับรถตีคู่กัน ผมหันไปมองอีกฝ่ายเพื่อมองระยะห่างในการแซง จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุ วินาทีนั้นผมเห็นชัดเจนว่าเป็นวัยรุ่นชายหญิงสองคนที่ขับซ้อนกันมา ไม่สวมเสื้อกันฝน หญิงสาวสวมเสื้อยีนส์แขนยาวทับ ถือแก้วสเลอปี้ ผมของเธอยาวปรกหน้าปรกตา เธอหันมามองผม แต่ด้วยมุมมองจากกระจกมัวๆ ทำให้ผมเห็นหน้าของเธอไม่ชัด และด้วยความไม่อยากจะมีเรื่องเพราะมองหน้าแฟนคนอื่น ผมจึงเร่งแซงขึ้นไป ก่อนจะชิดซ้ายเช่นเดิมเพราะมีรถปิกอัพแซงขวาขึ้นมา
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นในจังหวะฉุกละหุก ในจังหวะชิดซ้าย ผมทำทุกอย่างเร็วจนกลัวว่าจะไปตัดหน้าคันหลังจนเกิดปัญหา หากแต่เมื่อหันมองกระจก ความมืดด้านหลังคือคำตอบของความตกใจที่ทำให้รถผมเสียหลักไหลลงข้างทางได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ในตอนนั้นมีพลเมืองดีมาช่วยผมไว้ ผมไม่ได้เป็นอะไร มีเพียงความสงสัยที่ไร้ซึ่งทำตอบ เพราะบริเวณที่ผมอยู่นั่นคือกลางทางตรงระยะยาว ที่มั่นใจได้ว่ารถคันที่ผมแซงมาเมื่อครู่ ไม่มีทางแซงผมขึ้นไปแน่ๆ เพราะตรงหน้าเห็นเพียงไฟท้ายรถยนต์ที่เพิ่งแซงไป กับด้านหลังที่เป็นไฟหน้ารถยนต์คันใหม่ที่เพิ่งพ้นโค้งมา...แล้วรถคันนั้นหายไปไหน ?
Advertisement
Advertisement
กลับมาถึงบ้านในสภาพเปียกปอน ผมรีบเล่าความสงสัยนี้ให้พ่อและแม่ฟัง และเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันต่อมา ก่อนที่เพื่อนจะนึกขึ้นได้แล้วเปิดเพจเฟซบุ๊กเกี่ยวกับข่าวอุบัติเหตุให้ดู ไม่กี่เดือนก่อนนั้นเกิดอุบัติเหตุ รถมอเตอร์ไซค์เสียหลักถูกรถสิบล้อที่ขับตามมานั้นชนและลากไปไกลกว่าห้าสิบเมตร สภาพศพแหลกเหลว เป็นนักเรียนม.ปลายที่แอบหนีเรียนมาเที่ยวกันสองคน ในภาพนั้นแม้จะเบลอสภาพศพ แต่ผมจำชุดเสื้อผ้ารวมทั้งรถคันนั้นได้แม่น
เป็นสองคนนั้นแน่ๆ
แต่ผมไม่ได้มองเรื่องราวนี้ว่าผีหลอก ผมไม่อยากปรักปรำดวงวิญญาณสองคนนั้น เพียงแค่ผมอาจจะเผลอขับผ่านไปในช่วงที่มิติทั้งสองเหลื่อมล้ำกันเท่านั้นเอง และเขาก็อาจจะใช้ชีวิตหรือชดใช้กรรมของตนเองอยู่อย่างปกติเช่นกัน แต่หลังจากเหตุการณ์นั้นก็ไม่ได้มีใครพบเจอวิญญาณสองดวงนั้นอีก ผมคิดว่ามันอาจจะถึงเวลาแล้วที่จะไป ทำได้เพียงอโหสิกรรมไว้ในใจ
Advertisement
Advertisement
นี่อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงคำว่าเจอผีของผมมากที่สุด ทว่าเส้นทางสายนี้ก็เป็นที่เลื่องลือว่ามักเจอเงาดำวิ่งตัดหน้ารถ หรือเห็นคนตัวดำๆ ยืนเรียงแถวกันอยู่เป็นสิบๆ คน แต่ผมก็ไม่ได้เจออีกเลย เพียงแต่ทุกๆ ครั้งที่ขับผ่านเส้นนั้น รถอีแก่ของผมทำความเร็วได้เท่าไหร่ ผมก็บิดเท่านั้นเสมอ
ถนนเส้นนี้เป็นเส้นหลักในการไปสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง หากติดตามผมในหลายๆ กระทู้ก็จะเดาได้ไม่ยากครับ...ครั้งหน้าหากมาที่นี่หรือผ่านถนนเส้นนี้...ถ้าไม่เชื่อผม
ลองมากลางคืนสิครับ!
ความคิดเห็น
