ห้วยบงครอสคันทรี่ เป็นงานวิ่งที่จัดขึ้นโดยไม่เสียค่าสมัครหรือที่เรียกว่างานวิ่งฟรีนั่นล่ะค่ะ แต่ที่นี่มีความพิเศษเหนือใคร จะเป็นอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ งานวิ่งห้วยบงครอสคันทรี่ จัดขึ้นที่โรงเรียนบ้านซับพลู ตำบลห้วยบง อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา โดยผู้จัดตั้งหลักก็คือ คุณเรืองชัย ไปล่มะเริง (โค้ชไปล่) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของเหล่านักวิ่งโซนโคราชบ้านเอ๋ง ในนาม "โค้ชบ้าน ๆ" นั่นเองค่ะ และก็เป็นที่น่าเสียดายและเสียใจเป็นอย่างยิ่ง กับการเสียชีวิตของท่านเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ห้วยบงครอสคันทรี่ เป็นงานวิ่งชมทุ่งกังหันลม ซึ่งพื้นที่กังหันลมของตำบลห้วยบงนี้ เป็นพื้นที่ทุ่งกังหันลมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทยเลยทีเดียวค่ะ งานนี้ผู้เขียนได้เข้าร่วม ในระยะ 10 กิโลเมตร พร้อมกับเพื่อน ๆ นักวิ่งที่ทำงานด้วยกันอีกหลายคน จากการแบ่งปันข่าวสารกันผ่านทาง Facebook ค่ะ จุดประสงค์ของการจัดงานนี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ของพื้นที่ตำบลห้วยบง อีกทั้งจัดทำเป็นผ้าป่าเข้าโรงเรียนบ้านซับพลู เพื่อเป็นทุนในการซ่อมแซมอาคารเรียน จัดซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ และเป็นทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียนอีกด้วยค่ะ ถ้านักวิ่งคนไหนมีข้าวของ ติดไม้ติดมือมาบริจาค ก็สามารถนำมาบริจาคได้ หรืออีกช่องทางที่อยากช่วยและทำบุญกับงานนี้ก็คือ นำเงินมาหย่อนที่กล่องรับบริจาคแล้วแต่ศรัทธา และซื้อเสื้อที่ระลึกของานที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษได้เช่นกันค่ะ งานขายเสื้อนี้หลังจากหักค่าใช้จ่ายก็เอาเข้าสมทบทุนในการพัฒนาโรงเรียนเพื่อเด็ก ๆ อีกเช่นกันค่ะ ภาพโดย : ผู้เขียน ผู้เขียนเดินทางไปที่จุดจัดงานก่อนเริ่มงานวิ่งล่วงหน้า 1 วัน เพราะจุดจัดงานอยู่ห่างจากเมืองโคราชประมาณ 100 กิโลเมตร เพื่อความสะดวกจึงวางแผนกับ "น้องหนึ่ง" รุ่นน้องที่ทำงานว่าจะมากางเต็นท์นอนกันที่โรงเรียนบ้านซับพลูกันค่ะ จึงเดินทางออกมาตั้งแต่ช่วงสาย ๆ ของวันเผื่อแวะกินข้าวและหาที่เดินเล่นระหว่างทางอีกด้วยค่ะ เราไปถึงโรงเรียนบ้านซับพลูตั้งแต่ช่วงบ่ายของวัน เข้ารับ BIB และได้นำเงินบริจาคที่กล่องรับบริจาคเพื่อสมทบทุนในการจัดงานอีกด้วย จากนั้นก็ได้เดินชมและสำรวจไปในส่วนต่าง ๆ ของโรงเรียน อีกอย่างก็หาดูจุดที่เราจะกางเต็นท์นอนกันในช่วงเย็นของวันด้วยค่ะ จุดกางเต็นท์ที่ทางทีมงานจัดไว้ให้คือบริเวณสนามฟุตบอลด้านหน้าของโรงเรียนค่ะ แต่จนแล้วจนรอดก็เกิดฝนตกซึ่งเริ่มตกปรอย ๆ ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันแล้ว ทางโค้ชบ้าน ๆ และทีมงานของโรงเรียน จึงได้เปิดห้องเรียนของเด็ก ๆ ให้เป็นที่พักของเราเหล่านักวิ่งแทน ซึ่งจริง ๆ ในเส้นทางที่เดินทางมาโรงเรียนแห่งนี้ ก็มีที่พักและรีสอร์ทหลายแห่งอยู่เหมือนกันนะคะ สำหรับคนที่ค่อนข้างต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดต่อเข้าพักได้ สรุปคือ คืนก่อนวิ่งนั้นฝนก็ตกเกือบตลอดคืนและเราก็ได้นอนฟังเสียงฝนตลอดทั้งคืนเช่นกันค่ะ กางเต็นท์นอนที่อาคารเรียนของเด็ก ๆ ภาพโดย : ผู้เขียน งานนี้เป็นงานวิ่งฟรีที่ค่อนข้างอบอุ่นมากเลยค่ะ อาจเพราะเป็นงานบุญก็เลยดูเหมือนว่าทุกคนมาด้วยใจอยากร่วมทำบุญ จึงดูเป็นการร่วมแรงร่วมใจสามัคคีคนละไม้คนละมือ งานนี้รับสมัครนักวิ่งจำนวนไม่มากอยู่ระดับประมาณหลายร้อยคนเท่านั้น เพื่อให้เหมาะสมกับสถานที่จัดงานที่สามารถรองรับจำนวนนักวิ่งได้ในจำนวนที่จำกัดนั่นเอง โชคดีมากมายที่เมื่อถึงเวลาปล่อยตัวนักวิ่งฝนก็เริ่มซาลงแล้ว แต่ก็มีเพื่อนหลายคนนะคะที่ต้องฝ่าสายฝนเพื่อมาวิ่งงานนี้กัน กว่าจะมาถึงก็ทุลักทุเลพอสมควร ท้ายสุดก็ยังมาทันเวลาปล่อยตัวนักวิ่งกันทุกคนค่ะ 06:00 น. นักวิ่งทุก ๆ คนพรั่งพรูออกจากจุดสตาร์ท ผ่านออกมาทางหน้าโรงเรียนผ่านชุมชนร้านค้าของบ้านซับพลูอยู่ช่วงนึง และจากนั้นก็ออกสู่พื้นที่เกษตรกรรม เชื่อว่าทุกคนที่ไม่เคยมาที่นี่จะรู้สึกแบบเดียวกันกับเราค่ะ คือแบบว้าว !!😮 มากกับสิ่งที่ได้เห็น พื้นที่เกษตรกรรมของตำบลห้วยบงนี้เป็นเนินสูง ๆ ต่ำ ๆ สลับซับซ้อนมีสีเขียวทั้งพื้นที่สุดลูกหูลูกตา แถมพื้นที่ตรงนี้ก็เป็นดงกังหันลมขนาดใหญ่อีกด้วย แล้วจะไม่ให้เราว้าว!! ได้ยังไงล่ะคะท่านผู้ช๊ม....☺ ภาพโดย : ผู้เขียน เส้นทางวิ่งของงานวิ่งห้วยบง ด้วยลักษณะทางวิ่งที่นี่เป็นทางดิน หินคลุกและลูกรัง ผ่านเส้นทางที่เป็นทุ่งแห่งเกษตรกรรมที่เป็นเนินซึมสูง ๆ ต่ำ ๆ ตลอดทาง จึงเป็นที่มาของประเภทการวิ่งอีกแบบหนึ่งค่ะ คือวิ่งแบบ Cross country นั่นเอง ถึงแม้จะผ่านฝนตกมาตลอดทั้งคืนแต่ก็ไม่ได้ทำให้เส้นทางวิ่งของงานเฉอะแฉะเละเลนจนน่าเกลียดและเป็นอุปสรรคต่อการวิ่งของนักวิ่งมากมายนัก นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากจริง ๆ ค่ะสำหรับงานวิ่งนี้ เพราะนอกจากจะได้มาวิ่งชมทุ่งกังหันลมบนพื้นที่สีเขียวอันกว้างใหญ่ไพศาล งานนี้นับว่าเป็นงานร่วมพบปะนักวิ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตากันพอสมควร ทำให้เหมือนกับเป็นวันรวมญาติอย่างไรอย่างนั้นเลย ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์สนุกสนานมากมาย แถมวิวที่ทีมงานจัดให้เรานี้ต้องขอบอกว่าประเมินค่าไม่ได้จริง ๆ ภาพผู้เขียนขณะอยู่ในการแข่งขัน ซึ่งเป็นภาพที่ผู้เขียนได้สนับสนุน ด้วยการอุดหนุนภาพจากช่างภาพในงานนี้ งานนี้ถึงแม้จะเป็นงานฟรี แต่ทางทีมงานก็ยังมีเหรียญรางวัลให้นักวิ่งที่เข้าเส้นชัยกันทุกคน แถมเหรียญรางวัลนี้ทางโค้ชบ้าน ๆ ยังนำไปลงคาถาที่วัดบ้านไร่ ก่อนที่จะนำมาเป็นรางวัลแก่นักวิ่งทุกคนอีกด้วย ท้ายนี้ ถึงแม้ว่าโค้ชบ้าน ๆ ท่านจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ปณิธานของท่านก็ยังมีทีมงานคอยสานต่อกันค่ะ หากท่านใดสนใจสามารถติดตามอัพเดทการจัดงานได้ที่ Facebook Huai bong cross country ได้เลยนะคะ