ท่ามกลางข่าวการก่อเหตุกราดยิง ที่เกิดขึ้นซ้ำรอยในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งเหตุการณ์ปล้นชิงทองที่ลพบุรี และเหตุการณ์กราดยิงในห้าง ในห้างสรรพสินค้า Terminal21 ที่จังหวัดนครราชสีมา นี่อาจเป็นสิ่งที่สะท้อนอะไรบางอย่างของสังคม ที่เปลี่ยนไป ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นสิ่งที่ต้องทบทวนใหม่ เมื่อการก่อการร้ายที่เปลี่ยนรูปแบบไปจากเดิม ซึ่งไม่คุ้นชินในบ้านเรา แต่ทว่า กรณีศึกษาเช่นนี้ ก็มีให้เห็นบ่อยๆในต่างประเทศ เพียงแต่เรายังไม่คุ้นเคยกับเหตุการณ์ดังกล่าว ภาพโดย Pixabay ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ก่อการร้ายกราดยิง จะมีอาวุธปืน ซึ่งสามารถประหัตประหารผู้บริสุทธิ์ได้โดยไม่เลือกหน้า เนื่องจากสถานการณ์มือปืนมักจะใช้เวลาในการก่อเหตุไม่เกิน 10 ถึง 15 นาทีก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึงที่เกิดเหตุ คุณจำเป็นที่จะต้องได้รับการเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อรับมือกับสถานการณ์ ทั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัย Florida State University รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จัดทำวิดีโอที่ให้การศึกษา เกี่ยวกับการปฏิบัติตน เมื่อเกิดเหตุการณ์ก่อการร้าย หรือการกราดยิง ซึ่งเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ในต่างประเทศ โดยสรุปคำแนะนำออกเป็นหัวข้อหลักได้ 3 หัวข้อ คือ Run – Hide – Fight ภาพโดย Pixabay Run : วิ่ง สิ่งที่จะต้องปฏิบัติเป็นอันดับแรก เมื่อเกิดเหตุการณ์กราดยิง นั่นคือ คุณจำเป็นต้องมีสติ และวิ่งหนี เพื่อเอาตัวรอด โดยคุณจำเป็นต้องพาตัวเองออกห่างจากผู้ก่อการร้ายให้ได้มากที่สุด ทิ้งสิ่งของ สัมภาระ ที่จะเป็นภาระให้คุณเคลื่อนที่ได้ช้าลงไว้ข้างหลัง แต่การกระทำดังกล่าว จะต้องทำการอย่างมีสติ โดยคำนึงถึงการเอาชีวิตตนเองให้รอดเป็นหลัก ช่วยเหลือผู้อื่นหากคุณพอจะทำได้ อย่าทำให้ตนเองตกอยู่ในอันตราย พยายามโทรหา 191 เมื่อคุณปลอดภัย และไม่ควรย้อนกลับไปยังที่เดิม ภาพโดย Pixabay Hide : หลบซ่อน หากคุณไม่สามารถที่จะวิ่งหนีพ้นให้พ้นจากผู้ก่อการร้ายอย่างปลอดภัยได้ คุณจำเป็นที่จะต้องประเมินสถานการณ์ และหลบซ่อนในจุดกำบังกายต่างๆ เพื่อหลบให้รอดพ้นสายตาของผู้ก่อการร้าย ซึ่งอาจจะมีอาวุธปืน โดยหลีกเลี่ยงการปะทะ หากคุณเข้าไปหลบซ่อนในห้องที่ปิดได้ คุณจำเป็นต้องล็อคประตูห้องให้แน่นหนา หาเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ บังไว้หลังประตู เพื่อป้องกันการพังประตู หลีกเลี่ยงการชี้ตำแหน่งตนเอง ด้วยการปิดเสียงโทรศัพท์เพื่อป้องกันการโทรเข้าที่อาจจะทำให้เกิดเสียงดัง และพยายามไม่ส่งเสียงดัง อยู่ในความสงบเงียบ พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ ด้วยการส่งข้อความในโซเชี่ยล แต่ไม่ควรไลฟ์สด เพื่อป้องกันคนร้ายรู้ตำแหน่งที่ซ่อน จากนั้นจึงวางแผนเพื่อหาทางเอาตัวรอดในขั้นตอนต่อไป ภาพโดย Pixabay Fight : สู้!! สุดท้ายแล้ว หากคุณหลีกเลี่ยงการปะทะไม่ได้ หรือคุณไม่อาจสามารถหลบซ่อนได้อีกต่อไป คุณจำเป็นที่จะต้องประเมินสถานการณ์ในขั้นสุดท้าย หาจังหวะที่จะโต้กลับคนร้าย ด้วยอาวุธที่คุณมี แต่การกระทำจะต้องรอบคอบ และมีสติอย่างที่สุด คุณจำเป็นต้องมุ่งมั่นในการกระทำของคุณ หากประเมินแล้วคุณเสียเปรียบ พยายามอย่าเข้าปะทะ เพราะเมื่อผู้ก่อการร้ายมีอาวุธปืน คุณอยู่ในจุดเสียเปรียบ แต่หากผู้ก่อการร้ายเพลี่ยงพล้ำ หรือคุณมีโอกาสเข้าประชิดตัวคนร้าย รีบปลดอาวุธของผู้ก่อการร้ายให้เร็วที่สุด รุนแรงที่สุด และหากคุณไม่ได้อยู่คนเดียว คุณจำเป็นต้องทำงานเป็นทีมเพื่อเข้าชาร์จผู้ก่อการร้าย ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น เราจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ หมั่นฝึกฝน สังเกตความผิดปกติ และฝึกวิธีคิดเพื่อเอาตัวรอด ในสถานการณ์คับขัน ซึ่งนับแต่นี้ไป จากหลายๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเรา สถานการณ์การกราดยิง อาจไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินตัวเราอีกต่อไป เรียนรู้ไว้ เมื่อเกิดเหตุ จะได้ปฏิบัติตนได้อย่างปลอดภัย.... แต่ทั้งนี้ มันคงจะดีกว่า หากสังคมของเรา อยู่กันอย่างปลอดภัย ไม่ต้องหวาดระแวงอันตรายใดๆ... คุณสามารถรับชมวิดีโอเรียนรู้การเอาตัวรอดจากเหตุกราดยิงได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=TyuSws1c2Jw ภาพหน้าปก : Pixabay เรื่อง : จิรวัสส์ สุทธิพิทยศักดิ์ อ้างอิง :https://emergency.fsu.edu/hazards/active-shooter