ปักตะปูร์ เมืองโบราณที่ยังมีชีวิต และเต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลัง หลังจากอิ่มเอิบการการท่องเที่ยวในตัวเมือง กาฐมาณฑุแล้ว ผู้เขียนและเพื่อนทั้ง4มีแผนที่จะไปเที่ยวชมสถานที่แห่งหนึ่งที่จะพาคุณย้อนกลับไปสู่โลกแห่งอดีตเมื่อ 1,000 กว่าปีก่อน นั่นคือเมืองบักตะปูร์ เมืองโบราณที่ยังมีลมหายใจ ข้อมูลทั่วไปเมืองปักตะปูร์ ปักตะปูร์ หรือ ภาทคาวัน (Bhaktapur or Bhadgaon)เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศเนปาล โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ในเขตบากมาติ (Bagmati) ซึ่งเป็น 1 ใน 14 เขตของประเทศ ปัจจุบันถือว่าเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยว จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองแห่งอัญมณีทางวัฒนธรรมของเนปาล" อีกด้วย ในอดีตเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญระหว่างอินเดียกับทิเบต ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,401 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตารางไมล์ ปักตะปูร์หรือเมืองแห่งผู้มีจิตศรัทธา (City of Devotees) ซึ่งยังคงเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ในยุคกลาง มีร่องรอยความรุ่งเรืองทางด้านวัฒนธรรมและศิลปะเสน่ห์ของเมืองคือ วิถีชีวิตของชาวบ้านที่ดำรงอยู่รวมกับอาณาจักรโบราณอย่างกลมกลืน สามารถพบเห็นสิ่งสะท้อนชัยชนะในอดีตของผู้ครองนครมัลละได้ที่จัตุรัสปักตะปูร์ ดูร์บาร์ ที่ซึ่งทำเครื่องปั้นดินเผาและงานถักทอเป็นอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมที่สำคัญ ปักตะปูร์มีชื่อเสียงในด้านการแกะสลักไม้และทำภาทคาวันโตปี หรือหมวกแก๊ป (Bhadgaonle Topi Cap) การเดินทาง เมืองปักตะปูร์ เป็นเมืองโบราณที่อยู่ห่างจากกรุง กาฐมาณฑุ เพียง 14 กิโลเมตร ดังนั้นการเดินทางจึงมีให้เลือกได้หลากหลายช่องทาง เช่นรถบัส รถตู้ แท็กซี่ ส่วนตัวผู้เขียนได้เลือกใช้บริการแท็กซี่ซึ่งสะดวกสบายและราคาก็ไม่แพงมากนัก เนื่องจากเมืองปักตะปูร์เป็นเมืองโบราณก่อนเข้าเมืองจึงต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าเมืองท่านละ 1,100 รูปีเนปาลด้วยนะครับ ที่พัก อาหาร โรงแรมในเมืองปักตะปูร์มีอยู่มากมาย ปะปนกับอาคารโบราณบางโรงแรมก็ดัดแปลงจากอาคารโบราณอายุหลายร้อยปีเพื่อทำโรงแรม การพักในเมืองปักตะปูร์นั้นจึงทำให้ผู้เขียนได้รู้สึกได้ซึมซับบรรยากาศความโบราณของเมืองปักตะปูร์ได้อย่างอิ่มเอม ส่วนราคาที่พักนั้น แสนจะถูกมากๆ ถูกและดีมีที่ปักตะปูร์นะครับ ราคาเริ่มต้นเพียง 150 – 1,400 บาท ต่อห้อง ต่อคืนเท่านั้น ผูเขียนและเพื่อนทั้ง 4 ได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ จัตุรัสดูร์บาร์ ห้องกว้างขวาง สามารถนอนได้ 4 ท่านในราคาเพียง 1,550 รูปีเนปาล หรือประมาน 400 บาทเองครับ ส่วนอาหารที่นี่จะเป็นอาหารเนปาลซะส่วนใหญ่ หาเลือกทานได้รสชาติน่าจะถูกใจคนไทยอยู่นะครับ อ้อ เดินชมเมืองเหนื่อยๆ อย่าลืมนั่งจิบชากันนะครับ ชาที่นี่ผมว่าใช้ได้เลยทีเดียว สถานที่ที่ควรไปเยี่ยมชม เมืองปักตะปูร์เป็นเมืองโบราณเล็กๆ มีเสน่ห์ทุกซอกทุกมุมทำให้ผู้เขียนเดินเล่นถ่ายรูปโดยไม่เบื่อเลย ที่นี่มีสถานที่สำคัญอยู่รายรอบที่เราสามารถเดินชมได้ทั้งวัน จัตุรัสปักตะปุร์ ดูร์บาร์ (Bhaktapur Durbar Squrae) ) สถานที่ท่องเที่ยวที่มี ความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองบักตะปูร์เนื่องจากบริเวณจัตุรัสนั้นเป็นที่ที่ตั้งของหมู่พระราชวังสิ่งก่อสร้างที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม รวมไปถึงสถานที่สำคัญๆของเมืองมากมาย วิหารและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ในศิลปะสกุลช่างเนทาวารี เริ่มต้นที่ ประตูทองคำ (Sun Dhaka หรือ Golden Gate) เป็นทางเข้านำไปสู่ลานของพระราชวังนามว่า Palace of 55 Windows ประตูทองคำสร้างโดยกษัตริย์รานจิต มัลละ (King Ranjit Malla) เป็นประตูที่มีการแกะสลักงดงามและสมบูรณ์ที่สุดในโลก มีการประดับตกแต่งลวดลายของเหล่าเทพและอสูรต่างๆ ไว้อย่างประณีต ตลาดเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งเราจะได้พบเห็นหม้อดินนับร้อยใบที่วางผึ่งแดดอยู่กลางจัตุรัส และพระคเณศเศียรช้างชาวบ้านท้องถิ่นนั้นเชื่อว่าเป็นเทพอุปถัมภ์ของช่างปั้นหม้อ จัตุรัสทัตตะเตรยา สุดท้ายแนะนำให้คุณไปเยือน "จัตุรัสทัตตะเตรยา" (Dattatreya Square ) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "วัดทัตตะเตรยา" (Dattatreya Temple) วัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยกษัตริย์ยักษ์ มัลละ (King Yaksha Malla) เป็นวัดขนาดใหญ่ 3 ชั้น เชื่อกันว่าสร้างจากต้นไม้ต้นเดียวเช่นเดียวกับวัดสำคัญอื่นในเนปาล แต่สิ่งที่โดดเด่นและไม่พลาดชม คือ หน้าต่างนกยูง ซึ่งเป็นหน้าต่างที่แกะสลักเป็นรูปนกยูงลำแพนอย่างละเอียดงดงาม