เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ปัจจุบันอยู่ในช่วงเฝ้าระวัง ป้องกัน และต้องคอยฟังข่าวอัพเดทกันวันต่อวัน จนทำให้หลาย ๆ คนถึงกับมีอาการวิตกจริตกันเลยทีเดียว ซึ่งจากที่ผู้เขียนได้ติดตามข่าวและอัพเดทสถานการณ์อยู่เสมอ ทำให้รู้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวัน และการกระจายตัวของผู้ติดเชื้อนั้น จากที่เคยกระจุกอยู่เฉพาะเมืองใหญ่ ๆ ที่มีความหนาแน่นของประชากรสูง ตอนนี้กลับกระจายไปทั่วทุกภูมิภาคเกือบจะทั่วประเทศไทยเสียแล้วค่ะ ผู้เขียนในฐานะประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่อย่างจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นเมืองที่มีความหนาแน่นของประชากรสูงอีกเมืองหนึ่ง ด้วยอาชีพเป็นพนักงานออฟฟิศของโรงงานใหญ่แห่งหนึ่ง และได้ติดตามข่าวมาตั้งแต่โควิด-19 ระบาดจากประเทศจีนสู่ภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้ตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์นี้เป็นอย่างยิ่ง ภาพจาก : pixabay.com จากที่มีข่าวการติดเชื้อรายที่ 3 ของจังหวัดนครราชสีมา ผู้บริหารขององค์กรที่ผู้เขียนทำงานอยู่ เริ่มใช้มาตรการและขอความร่วมมือจากพนักงานทุกคนทุกฝ่ายดังนี้ 1. พนักงานที่ได้เข้าร่วมหรือมีการเกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อ ให้รายงานตัวด่วนที่ฝ่ายบุคคลและเข้าตรวจอาการโดยละเอียด พร้อมทั้งกักตัวเป็นเวลา 14 วัน 2. ขอความร่วมมือพนักงานทุกคน สวมหน้ากากมาจากบ้าน เพื่อป้องกันตัวเองจากการรับเชื้อจากผู้อื่นและแพร่เชื้อจากตัวเองไปสู่ผู้อื่นด้วย ภาพโดย : ผู้เขียน 3. ก่อนเข้าสู่พื้นที่โรงงานต้องเข้าจุดคัดกรอง วัดไข้ วัดอุณหภูมิเสียก่อน หากมีอุณหภูมิ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้น ไปให้กักตัวและไปหาหมอเพื่อตรวจให้ละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้หากมีอาการ ไอ จาม เจ็บคอ หรือมีไข้ ก็ให้กลับบ้านไปหาหมอก่อนเช่นกัน 4. เมื่อผ่านจุดคัดกรองแล้ว บริษัทมีการติดตั้งอุโมงค์น้ำยาฆ่าเชื้อให้พนักงานทุกคนเดินผ่านก่อนเข้าสู่เขตโรงงานอีกด้วยค่ะ 5. หากมีการประชุม หรือต้องยืนต่อแถวสแกนบัตรเข้า-ออกงาน หรือต่อแถวซื้ออาหารในเวลาพักรับประทานอาหาร ให้พนักงานยืนห่างกัน 1 เมตร เพื่อป้องกันการโดนตัวกัน เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อ 6. รับประทานอาหารโดยใช้หลัก กินร้อน ช้อนใครช้อนมัน จานใครจานมัน งดรับประทานอาหารร่วมกัน นั่งให้ห่างกันประมาณ 1 เมตร และขยับโต๊ะรับประทานอาหารที่เคยติดดกันให้ห่างกันมากขึ้น และเพิ่มรอบเวลารับประทานอาหารของพนักงานให้มากขึ้น เพื่อลดความแออัดของพนักงานในช่วงพักรับประทานอาหาร 7. ลดการพบปะและร่วมประชุมให้น้อยลง โดยการใช้โทรศัพท์ แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ และอีเมล์มาช่วยให้มากขึ้น หากมีความจำเป็นต้องพบปะให้สวมหน้ากากตลอดเวลาของการพบปะนั้น ภาพจาก : pixabay.com 8. เมื่อเข้าออฟฟิศให้ล้างมือด้วยสบู่และน้ำยาฆ่าเชื้อ ซึ่งที่ทำงานจะวางขวดน้ำยาฆ่าเชื้อไว้ตามจุดต่าง ๆ พนักงานสามารถเข้าไปใช้ได้ทุกเมื่อ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง และลดความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อแก่เพื่อนร่วมงาน 9. เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ อยู่เสมอ ให้ความร่วมมืออย่างเคร่งครัด เพื่อความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม 10. แผนการทำงานควรมีแผนสำรอง และยืดหยุ่นตามสถานการณ์ และนโยบายหรือมาตรการต่าง ๆที่รัฐบาลจะประกาศ ซึ่งอาจมีมาตรการป้องกัน ประกาศออกมาในภายหลังเพิ่มมากขึ้น หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น สำหรับผู้เขียนยังมีอาการปกติ ปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด ดูแลสุขภาพร่างกายตนเองให้แข็งแรงสมบูรณ์อยู่เสมอ หากจำเป็นต้องออกข้างนอกบ้านหรือออกนอกออฟฟิศ เมื่อกลับเข้ามาแล้วก็มั่นล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำยาฆ่าเชื้ออยู่เสมอ และบนโต๊ะทำงานมักจะวางขวดสเปรย์แอลกอฮอล์ไว้ เพื่อฉีดพ่นอุปกรณ์เครื่องเขียนและเอกสารต่าง ๆที่มาจากภายนอก เป็นวิธีการป้องกันการติดเชื้ออีกทางหนึ่งค่ะ ภาพจาก : pixabay.com ที่ทำงานของผู้เขียนยังไม่มีการวางระบบเพื่อรองรับ work from home ดังนั้น การดูแลป้องกันและเฝ้าระวังอาการต่าง ๆ จึงเป็นการป้องกันการแพร่และรับเชื้อที่ดีที่สุดในตอนนี้ค่ะ เราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกันนะคะ ภาพหน้าปกจาก : pixabay.com