BEER กับเรื่องที่คุณจะยังไม่รู้ ถ้าจะพูดถึงเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์สักอย่างหนึ่งที่มีมาอย่างช้านาน มีความซับซ้อนเเละหลากหลาย หลาย ๆ คนอาจจะคิดถึงไวน์ (Wine) หรือ วิสกี้ (Whisky) อยู่กันล่ะสิ เเต่สำหรับผมนั้นผิดเเล้วล่ะ ผมกำลังพูดถึงเบียร์ (Beer) ต่างหาก เเล้วเบียร์มันเก่าเเก่เเละซับซ้อนยังไงวันนี้เราจะมาทำความรู้จักเครื่องดื่มน้ำเมาชนิดนี้กันครับ เบียร์ (BEER) เป็นเครื่องดื่มสุราประเภทหนึ่ง เกิดจากการหมักของธัญพืช เเละเบียร์นั้นเกิดขึ้นมาอย่างยาวนานมาก ๆ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์ชนิดเเรกของโลกใบนี้เลยทีเดียว อ่านไม่ผิดหรอกครับ เบียร์นั้นถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกราว ๆ 9,500 ปีก่อนคริสตกาล (6000 BC) เเละมีหลักฐานเเน่ชัดประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสตกาล จากชาวอิยิปต์โบราณเเละเมโสโบเตเมีย โดยธัญพืชที่ใช้นั่น คือ ช้าวบาร์เลย์ เป็นวัตถุดิบหลัก เเละประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ก็ได้มีการเพิ่มพืชชนิดหนึ่ง คือ ฮอปส์ (Hops) เป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติให้กลิ่นหอม ความขมเเละทำหน้าที่เป็นสารกันบูดจากธรรมชาติด้วย มันทำให้เบียร์เก็บได้นานขึ้นนั่นเอง เบียร์ในสมัยนั้นถือเป็นของที่มีค่ามาก ชาวอูรูกเมื่อ 5,000 ปีก่อนก็พอจะมีหลักฐานว่าพวกเขานั้นได้รับค่าจ้างเป็นเบียร์กันเลยทีเดียว ส่วนประกอบของเบียร์ เบียร์นั้นประกอบด้วยส่วนผสมหลัก ๆ ด้วยกันอยู่ 4 อย่าง คือ 1.) น้ำ (Water) : น่าเป็นส่วนผสมที่เยอะที่สุดเเล้วสำหรับการทำเบียร์ คิดออกมาน่าจะเกิน 90% ด้วยซ้ำไป (ขอบคุณภาพประกอบโดย Freepik จากเว็บไซต์ Freepik) 2.) มอลต์ (Malts) : เป็นธัญพืชที่น้ำมาสกัดเพื่อให้เกิดน้ำตาล เเถมยังให้สีที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับชนิดของเบียร์ ซึ่งมอลต์นั้นจะเป็นจำพวกข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ เป็นต้น โดยจะเเยกเป็น มอลต์พื้นฐานที่ให้ base ของเบียร์ชนิดนั้น ๆ เเละมอลต์พิเศษ ที่จะให้กลิ่นเเละเอกลักษณ์ที่ต่างออกไป (ขอบคุณภาพประกอบโดย Freepik จากเว็บไซต์ Freepik) 3.) ยีสต์ (Yeast) : เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งซึ่งกินน้ำตาลจากมอลต์เป็นอาหารเเละทำให้เบียร์นั้นมีเเอลกอฮอล์เเละคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเบียร์เเต่ละประเภทก็จะใช้ยีสต์เเตกต่างกันออกไปด้วย เเละจะสามารถหมักได้ในอุณหภูมิที่เเตกต่างกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับชนิดของ Yeast เเละชนิดของเบียร์ที่ต้องการหมัก (ขอบคุณภาพประกอบโดย jcomp จากเว็บไซต์ Freepik) 4.) ฮอปส์ (Hops) : เป็นพืชชนิดหนึ่งซึ่งใช้ดอกฮอปส์ในการให้กลิ่น ความขมเเละเป็นสารกันบูดจากธรรมชาติช่วยทำให้เบียร์เก็บได้นานขึ้น โดยฮอปส์เเต่ละสายพันธุ์ก็จะมีคุณสมบัติที่เเตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกัน (ขอบคุณภาพประกอบโดย frimufilms จากเว็บไซต์ Freepik) ลักษณะของการหมักเบียร์ ยีสต์หมักลอยผิว (Top-Fermenting Yeast) ; เป็นเบียร์ที่ยีสต์เมื่อหมักเสร็จจะลอยอยู่เหนือผิวของน้ำเบียร์ ยีสต์หมักก้นผิว (Bottom-Fermenting Yeast) ; ยีสต์จะจมอยู่ที่ก้นถังเมื่อหมักเสร็จ ยีสต์ธรรมชาติ เป็นยีสต์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่ได้มีการสังเคราะห์เเต่อย่างใด ประเภทของเบียร์ เเบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ (ขอบคุณภาพประกอบโดย Freepik จากเว็บไซต์ Freepik) 1. เอล (ALE) ; เป็นเบียร์ชนิดหนึ่งที่เก่าเเก่ ในการหมักนั้นใช้อุณหภูมิประมาณ 18-24 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับชนิดของยีสต์ เเละมักจะเป็น Top-Fermenting Yeast นั่นคือยีสต์จะลอยอยู่เหนือผิวของเบียร์เมื่อทำงานเสร็จโดยเบียร์ประเภทเอลนั้นจะมีสีที่หลากหลายขึ้นอยู่กับมอลต์ชนิดต่าง ๆ ที่ใช้ โดยตัวอย่างของเบียร์ประเภทเอลนั้น ยกตัวอย่างเช่น - Wheat Beer มีสีทองสว่าง มีรสชาติที่หลากหลาย มีรสเปรี๊ยวนิด ๆ พบเห็นบ่อย ๆ เเละคุ้นตา เช่น Hoegarden ซึ่ง Wheat beer นั่นถือเป็นเอลเก่าเเก่เเละขึ้นชื่อของเบลเยียม เเละมีอีกชนิดนึงที่ใกล้เคียงกันซึ่งมาจากเยอรมันนี คือ weizen ซึ่งจะมีรายละเอียดที่เเตกต่างกันไปนิดหน่อย - Pale ale เป็นเบียร์เอลที่มีรสชาติความหวานจากมอลต์ เเละผสมกับความขมของฮอปส์ที่หนักเเน่น มีสีเหลืองทอง - India pale ale เป็นเบียร์ที่เน้นไปทางความขมของฮอปส์ที่ชัดเจนมาก จึงทำให้มีความขมติดที่ปลายลิ้นมากกว่า ถือเป็นขั้นกว่าของ pale ale มีสีเหลืองทองไปจนสีเข้ม - Stout เป็นเบียร์ที่เกิดจากการนำมอลต์ไปคั่ว ให้เกิดสีเข้มทำให้เบียร์มีสีดำเข้ม เเละผสมฮอปส์เล็กน้อย มีรสชาติเเละกลิ่นของการคั่ว ช็อกโกเเลตอะไรทำนองนั้น (ขอบคุณภาพประกอบโดย Freepik จากเว็บไซต์ Freepik) 2. ลาเกอร์ (LAGER) ; เป็นเบียร์ที่หมักที่อุณหภูมิ 7-12 องศาเซลเซียส ซึ่งต่ำกว่าของการหมักเอล เเละหมักเป็น Bottom-Fermenting Yeast ลักษณะของเบียร์ลาเกอร์นั้นจะมีความซ่า สดชื่น สะอาดเเละนุ่มนวล ยกตัวอย่างเช่น - Pale lager เเละ Pilsner มีสีทองที่สว่าง ใส มีรสชาติของมอลต์ที่หนักเเน่น เเอลกอฮอล์สูง ดื่มเเล้วสดชื่น - Bock beer ต้นกำเนิดจากเยอรมันนี มีสีเข้ม เเละมีรสชาติของฮอปส์ที่หนักเเน่นเช่นกัน เเละมีกลิ่นฮอปส์มากกว่าลาเกอร์ทั่ว ๆ ไป เบียร์ยังมีอีกมากมายหลายชนิดกว่านี้มากทั้งเบียร์โลกเก่าเเละโลกใหม่ ปัจจุบันเบียร์นั้นเเตกเเขนงออกไปมากมายขึ้นอยู่กับผู้ผลิต (Brewer) ที่จะสร้างสรรค์เบียร์เเนวใหม่ ๆ ออกมาให้เราได้ลิ้มลอง ดื่มอย่างมีสติรับผิดชอบต่อตนเองเเละผู้อื่นด้วยนะครับ ภาพประกอบ : เเหล่งที่มา Freepik.com ภาพปก : Canva.com