ฝนตกพรำ ๆ ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง โครมครามเปรี้ยงปร้าง นอกจากความน่ากลัวอันเนื่องมาจากลมฝนแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็สื่อถึงความมีชีวิตชีวา และกิจกรรมการดำเนินชีวิตหลังจากเม็ดฝนโปรยปรายลงมาชุ่มฉ่ำทั่วทุกท้องที่ "ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ" ไม่ว่าจะเป็นความเย็นชุ่มฉ่ำดับร้อน ความสดชื่นของต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาทิ้งใบคอยฝนมาเนิ่นนาน และ... "ฝน" ก็เป็นจุดเริ่มต้นของทุก ๆ ชีวิตหลังจากนี้ ถ้าใครได้เก็บข้อมูลและสังเกตกันดี ๆ ภาวะฝนแล้งทิ้งช่วงนั้น เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี 2019 และยาวนานต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ ตั้งแต่อาชีพชาวนาถึงอาชีพอื่น ๆ ต่างก็ประสบกับปัญหาภัยแล้งมาเป็นระยะเวลายาวนาน ปลูกข้าวไม่ได้เพราะไม่มีน้ำ อาชีพเกษตรกรบางพื้นที่ต้องหยุดกิจกรรมไป เพราะต้องสำรองน้ำไว้ใช้ไว้กินในยามจำเป็นให้มากที่สุด ภาพโดย : ผู้เขียน แม้แต่ในเมืองใหญ่ อย่างเมืองโคราช ต.โคกกรวด ที่ผู้เขียนอาศัยอยู่ นับตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา ก็เริ่มประสบปัญหาภัยแล้งนี้เพิ่มมากขึ้น เริ่มจากที่ปัญหาน้ำไม่ไหลมาหลายเวลา และล่าสุดตอนนี้น้ำก็ไม่ไหลมานานเป็นเวลา 4-5 วันแล้ว แถมยังไม่รู้อีกว่าจะเริ่มมีน้ำมาให้ใช้อีกเมื่อไหร่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่น้ำหยุดไหลเป็นเวลานาน แต่เป็นครั้งที่ 2 หรือ 3 เสียด้วยซ้ำไป จากข่าวคราวที่ทางเทศบาลแจ้งมา สาเหตุเกิดจากแหล่งน้ำดิบที่เทศบาลเอาน้ำมาทำน้ำประปานั้น แห้งลงจนไม่สามารถดูดน้ำขึ้นมาทำน้ำประปาได้อีก จึงมีแนวทางในการแก้ปัญหา โดยการขอต่อท่อน้ำประปาส่วนภูมิภาคเข้ามาช่วยเหลือแทนและมีการเก็บค่าน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งราคาก็ค่อนข้างแพงน่าดู หน่วยละ 24 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าของราคาเดิมหน่วยละ 6 บาท นั่นเลยทีเดียว แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีวี่แววของการได้น้ำนั้นมาใช้สอย ก็อย่างที่บอกคือรอมาเป็นระยะเวลา 4-5 วันแล้ว และระหว่างที่รอนี้ก็ต้องรออีกว่าเมื่อไหร่ ทางเทศบาลจะมาจ่ายน้ำให้ใช้สอย การใช้สอยน้ำจากที่ใช้อย่างประหยัดอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งต้องประหยัดเข้าไปใหญ่ เพราะน้ำสำรองของคนแต่ละบ้านก็ใกล้จะหมดเต็มที ภาพโดย : ผู้เขียน ผู้เขียนในฐานะของคนที่อยู่หอพัก การได้รับน้ำในแต่ละครั้งนั้นช่างยากเย็นเหลือเกิน เพราะอยู่ตึกชั้นสูง (ชั้น 3 ) การจะหิ้วน้ำขึ้นไปแต่ละรอบยากเย็นแสนเข็ญ และอีกอย่างคนอยู่หอพักส่วนใหญ่จะไม่มีอุปกรณ์กักเก็บน้ำไว้มากนัก เพราะพื้นที่หอพักค่อนข้างจำกัด อย่างมากก็มีถังรองน้ำไว้ใช้ห้องละ 1 ใบเท่านั้น นอกจากหิ้วขึ้นไปยากแล้ว ที่เก็บก็ไม่มีอีกต่างหาก เอามาแล้วก็ต้องใช้อย่างประหยัด เพราะไม่รู้ว่าจะมีน้ำมาจ่ายให้อีกเมื่อไหร่ ต้องรอข่าวจากทางเทศบาลแจ้งอีกที เฮ้อ... รอบแล้วรอบเล่าที่ผู้เขียนตักน้ำ ใส่ถังหิ้วใบเล็กและกระติกน้ำแข็งอีก 1 ใบ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้จากห้องพักในเวลานี้ ขนน้ำขึ้นมาใส่ถังรองน้ำใบใหญ่ที่มีอยู่ 1 เดียวในห้องให้ได้มากที่สุด ด้วยกำลังของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เหงื่อไหลโทรมกาย แฟนก็ไม่อยู่ด้วย (ติดกักตัวโควิด-19) ณ เวลานี้คือต้องช่วยเหลือตัวเองล้วน ๆ "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" (ฮึบ ๆ) หลายต่อหลายรอบจนแขนที่หิ้วน้ำสองข้าง ขาที่วิ่งขึ้นวิ่งลงตึกเริ่มสั่นเทาและล้าไปหมด และคิดในใจ เพื่อให้ตัวเองมองโลกในแง่ดีว่า "ดีนะอย่างน้อยฉันก็ยังอยู่บนตึกแค่ 3 ชั้น" ถ้าตึกสูงกว่านี้ฉันคงไม่รอดแน่ ๆ !!💪 ภาพโดย : ผู้เขียน อ่อนเพลียไปตาม ๆ กัน กว่าน้ำจะเต็มถังใบใหญ่แต่ก็อุ่นใจขึ้นเยอะ อย่างน้อยก็ยังมีน้ำอาบน้ำใช้ไปได้อีก 2- 3 วัน และคิดซะว่าวันนี้ได้จัดคอร์สฟิตเนสชุดใหญ่ ไม่ต้องไปออกกำลังกายที่ไหนเพิ่มอีกแล้ว😅 ฝนทิ้งช่วงนาน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าในอนาคตเราจะมีน้ำใช้ไปถึงเมื่อไหร่ ถ้ายังไม่มีวี่แววของฝน มาตรการแก้ไขต่อไปในชุมชนที่ผู้เขียนอาศัยอยู่ ก็คือการขุดเจาะน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ ซึ่งการเอาน้ำใต้ดินมาใช้นี้เป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะอาจทำให้มีโอกาสที่ดินจะทรุดได้ กับสภาพเมืองใหญ่เช่นนี้อาจทำให้มีความเสียหายหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินทรุดนั่นเอง หากน้ำยังไม่ไหลผู้เขียนก็คงต้องรอ และติดตามข่าวจากเทศบาลและชุมชน เรื่องการนำน้ำมาแจกจ่าย ไม่ใช่ผู้เขียนคนเดียวที่เดือดร้อนนะคะ แต่คนทั้งตำบลโคกกรวดกำลังต่อสู้กับปัญหานี้ไปพร้อม ๆ กับผู้เขียนอยู่ค่ะ ช่วงนี้เราต่างประสบกับปัญหาหลายอย่าง ทั้งกักตัวโควิด-19 ทั้งพ.ร.ก ฉุกเฉิน Social Distance ภัยแล้งน้ำไม่ไหล แต่ถึงอย่างไรก็ขอให้สู้ ๆ กันทุกคนนะคะ เราจะผ่านวิกฤตต่าง ๆ นี้ไปด้วยกันค่ะ 😁