สวัสดีจ้า วันนี้มีโอกาสดี ได้ไปออกหาเลาะทุ่ง ชมไร่นา เห็นยอดขี้เหล็กกำลังงาม เมนูอาหารอร่อย ๆ ผุดขึ้นมาในมโนภาพทันใด เลยเด็ดมาซะหน่อย แวะตลาดหาวัตถุดิบเพิ่มเติมเล็กน้อย เมื่อกลับถึงบ้าน ก็จัดการเลยกับเมนู แกงกะทิขี้เหล็กหมูสามชั้น ซึ่งเมนูนี้ยอมขัดใจตัวเอง ไม่ใส่ปลาร้าสักวันก็แล้วกัน วัตถุดิบ ขี้เหล็กที่ต้มแล้ว 1 จาน วิธีต้มขี้เหล็กให้ขมน้อยที่สุด หรือไม่ขม ตั้งน้ำให้เดือดจัดใส่ขี้เหล็กลงไปต้มพร้อมกับมะเขือพวงบุบแตก ต้มพอขี้เหล็กเปลี่ยนสีเป็นเขียวอมเหลือง เทน้ำทิ้ง แล้วต้มอีก ให้ได้ 3-4 ครั้ง เทน้ำทิ้งแล้วนำขี้เหล็กแช่น้ำเย็นจัด แต่วันนี้ผู้เขียนต้องการความขมเล็กน้อย จึงต้มแค่ 2 น้ำ หมูสามชั้นประมาณ 2-3 ขีด หั่นเป็นชิ้น ๆ กะทิ 1 กล่อง ผู้เขียนใช้แบบกล่อง แต่ถ้าใครชอบเข้มข้นก็ใช้กะทิสด กะปิ 1 ช้อนครึ่ง ใช้ช้อนแกงบ้านเรานี่แหละตักเลย เครื่องแกงได้แก่ ข่า 5-6 แว่น ตะไคร้ 3 ต้น ใบมะกรูด 4-5 ใบ พริกแห้ง 5-6 เม็ด(สำหรับคนไม่ชอบทานเผ็ด) กระเทียม 5-6 กลีบ กระชาย 3 แง่ง หอมแดง 5 หัว ทั้งหมดนี้สามารถปรับได้ตามความชอบ 6. เครื่องปรุงรส เกลือ ซุปหมูก้อน 2 ก้อน น้ำตาลทราย 2 ช้อนแกง ในส่วนของน้ำตาลถ้าพิถีพิถันหน่อยก็จะใช้น้ำตาลมะพร้าว แต่วันนี้เอาแบบง่าย ๆ ในความขยันย่อมมีความขี้เกียจแฝงอยู่ อิอิ 7. ใบแมงลัก วันนี้ใบมีน้อยเลยเด็ดดอกเพิ่มไปละกัน หรือใครมีชะอม ต้นหอม ก็ใส่ไปด้วย แล้วแต่ชอบเลยจ้า ขั้นตอนการทำ เตรียมเครื่องแกง หั่นข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก เป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่เกลือ 1 ช้อนชา แล้วโขลกให้ละเอียด แล้วใส่กระเทียมลงไปโขลกทีหลัง ถ้าใส่กระเทียมลงไปพร้อมเพื่อน จะทำให้โขลกยากและอาจมีน้ำกระเด็นเข้าตา ส่วนหัวหอมแดงจะซอย หรือบุบก็ได้ นำกะปิห่อใบตองไปปิ้ง พอหอม แล้วนำไปโขลกรวมกับเครื่องแกง นำหมูสามชั้นลงผัดในหม้อหรือกระทะก็ได้ พอหมูสุกและมีน้ำมันออกมาเล็กน้อย นำเครื่องแกงลงไปผัดใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อน ถ้าใช้ไฟแรง ประเดี๋ยวไหม้ โห! กลิ่นนี้หอมถึงขั้นฉุนไป 3 บ้าน 7 บ้าน หอมกลิ่นเครื่องแกงผสมกะปิ ถ้าส่งกลิ่นมาทางบทความได้ ท่านผู้อ่านคงได้จามไปตาม ๆ กัน เทกะทิลงไปทีละน้อย ผัดต่อให้หอมกะทิ พอเริ่มแห้งก็เทกะทิลงอีก จนกะทิหมดกล่อง ใส่น้ำตาล เติมน้ำเปล่าลงไป 1 ถ้วย ใส่ซุปหมูก้อน เพิ่มไฟเป็นไฟแรง ใส่ขี้เหล็กลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสชาติให้ได้ตามชอบ พอเดือดใส่ใบแมงลัก ยกหม้อลง พร้อมตักเสิร์ฟ เสร็จแล้วจ้า แกงกะทิขี้เหล็กหมูสามชั้น สูตรแปลก ไม่เหมือนใคร เพราะมีความขมนิด ๆ เนื่องจากผู้เขียนต้มเพียง 2 น้ำ ที่สำคัญคุณค่าของผักขี้เหล็กไม่หายไปไหนเลย ทานแล้วตื่นเช้ามา เข้าห้องน้ำยังกับทานยาระบายเลยทีเดียว ส่วนรสชาตินั้นเข้มข้น กลมกล่อม หอมเครื่องแกง แซบคัก แซบหลายจ้า ภาพทั้งหมด โดย ผู้เขียน