ช่วงนี้จะเห็นตามทีวีมีการถ่ายทอดสดกีฬาวอลเลย์บอลให้ได้รับชมกันเกือบทุกวัน ซึ่งจะเห็นนักกีฬาหญิงทีมชาติไทย เช่น คุณปลื้มจิตร คุณอรอุมา คุณปิยะนุช เป็นต้น ลงสนามแข่งขันกันอยู่บ่อยครั้ง เพื่อความบันเทิงและความสนุกสนานในการรับชม ก็ต้องรู้จักและเข้าใจกับกีฬาชนิดนี้ให้มากขึ้นด้วย เราจึงขอแนะนำการดูกีฬาวอลเลย์บอลเบื้องต้นมาฝากทุกท่านให้ได้อ่านกันค่ะ ปัจจุบันกีฬาวอลเลย์บอล เป็นกีฬาที่ใครหลายคนต่างก็ชื่นชอบ และได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย เพราะมีรูปแบบการเล่นสนุก มันตื่นเต้นเร้าใจ ให้ได้ลุ้นคะแนนกันอยู่ตลอดเวลา สามารถดูได้ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะนาทีนี้ก็คงต้องยกให้กีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยนี่ล่ะ เป็นนัมเบอร์วันของกีฬา และครองใจพ่อแม่พี่น้องชาวไทยกันทั้งครอบครัวไปเป็นที่เรียบร้อย รูปโดยผู้เขียน เวลาเรารับชมรายการถ่ายทอดสดผ่านทีวี หรือไปดูการแข่งขัน จะเห็นว่ามีผู้คนอยู่ในสนามมากมาย นั่นก็คือ ผู้เล่น โดยผู้เล่นจะแบ่งออกเป็น 2 ทีม ทีมละ 6 คน สนามการแข่งขันจะใช้ตาข่ายเป็นตัวกั้นตรงกลาง ผู้เล่นแต่ละทีมจะแบ่งการยืนเป็น หน้า 3 คน หลัง 3 คน ซึ่งการแต่งกายก็จะแต่งเหมือนกันทั้งทีม ยกเว้นจะมีผู้เล่น 1 คน ที่ใส่ชุดสีแตกต่างไปจากผู้เล่นคนอื่น ๆ ในทีม รูปโดยผู้เขียน เราจะเรียกว่า ผู้เล่นอิสระ หรือ ริเบโล ( LIBERO ) คือ เป็นผู้เล่นที่สามารถเปลี่ยนตัวเข้าออกได้ตลอดเวลา ซึ่งถ้าเข้ามาเเทนผู้เล่นคนไหน ก็ต้องเปลี่ยนคนนั้นออก โดยไม่ต้องรอให้เกมหยุด ยกตัวอย่างนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เช่น ปิยะนุช แป้นน้อย , วรรณา บัวเเก้ว เป็นต้น สำหรับวิธีการเล่นกีฬาวอลเลย์บอล คือ จะมีลูกบอล 1 ลูก ให้กับทีมที่ได้เสิร์ฟ โดยให้ผู้เล่นตำแหน่งขวาหลัง เป็นผู้ทำการเสิร์ฟเพื่อเปิดเกม เมื่อเสียงนกหวีดเป่าจากกรรมการ ให้ผู้เสิร์ฟทำการเสิร์ฟ ( ห้ามเหยียบเส้นหลังสนาม ไม่งั้นถือว่าฟาวล์ ) ให้ผ่านตาข่ายไปยังฝั่งตรงข้าม ถ้าทีมที่ได้เสิร์ฟทำคะแนนได้ ก็จะให้เสิร์ฟต่อ แต่ถ้าเสียคะแนน ก็ต้องให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้เสิร์ฟ https://pixabay.com/images/id-4108313/ https://pixabay.com/images/id-316335/ เมื่อลูกบอลเข้ามาในเขตแดนของตนเอง จะเล่นบอลได้มากสุด 3 ครั้ง ถ้าถึงครั้งที่ 4 ลูกบอลยังอยู่ในเขตแดนของตนเอง จะถือว่าฟาวล์ทันที หรือถ้าผู้เล่นล้ำเขตแดนเข้าไปยังฝั่งตรงข้าม หรือร่างกายไปโดนตาข่าย ก็จะถือว่าฟาวล์เช่นกัน https://pixabay.com/images/id-703790/ วิธีการนับคะแนน คือ จะนับแต้มเป็น 1 คะแนนได้ก็ต่อเมื่อ ทีมนั้นทำลูกบอลไม่ว่าจะเป็นการเสิร์ฟ การตบ การตีลูก ให้ตกลงบนพื้นเขตสนามของอีกฝั่งตรงกันข้าม แต่ถ้าหากทีมเป็นผู้ทำเสียคะแนนเอง จะต้องนับคะแนน 1 คะแนนให้กับฝั่งตรงข้าม แล้วเปลี่ยนให้ฝั่งนั้นเป็นผู้เสิร์ฟ https://pixabay.com/images/id-90896/ https://pixabay.com/images/id-912702/ โดยนับคะแนนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีทีมใดทีมหนึ่งทำคะแนนครบ 25 คะแนนก่อน ก็จะเป็นผู้ชนะในเซตนั้น ๆ หรือหากคะแนนเสมอกันที่ 24 ต่อ 24 จะต้องมีการดิวซ์ต่อคะแนนเกิดขึ้น ถ้าฝ่ายใดมีแต้มนำห่างกัน 2 คะแนน ก็จะเป็นเป็นผู้ชนะ เช่น 26 ต่อ 24 เป็นต้น รูปจากแอป Canva ช่วงคะแนนเสมอกันนี่แหล่ะ เป็นช่วงบีบคั้นหัวใจอย่างมาก ทั้งตื่นเต้นจนหัวใจแทบวาย มันเป็นอะไรที่สนุกที่สุด เพราะลุ้นว่าใครจะเป็นผู้ชนะในเซ็ตนั้น ซึ่งการแข่งขั้นนั้นจะเป็นระบบ 3 ใน 5 เซ็ต แต่ถ้าเป็นสนามเล็ก ๆ อย่างแข่งกีฬาระดับโรงเรียน อำเภอ หรือระดับจังหวัด ก็จะเล่นแค่ 2 ใน 3 เซ็ต เท่านั้น โดยเซ็ตที่ 3 จะนับแค่ 15 คะแนน ใครถึง 15 ก่อนเป็นผู้ชนะ หรือถ้าเสมอกัน 13 ต่อ 13 ก็จะต้องดิวซ์ต่อคะแนน ถ้าฝ่ายใดมีแต้มนำห่างกัน 2 คะแนน ก็จะเป็นเป็นผู้ชนะ เช่น 16 ต่อ 14 เป็นต้น สุดท้ายนี้อยากทุกท่านช่วยสนับสนุนและหันมารับชมวอลเลย์บอลกันให้มากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยสร้างความสุข สร้างความเพลิดเพลิน ช่วยผ่อนคลายความเครียดแล้ว ยังเป็นการให้กำลังใจกับนักกีฬาได้อีกด้วย หรือถ้าใครจะลองหัดเล่นกีฬาชนิดนี้ดูก็ไม่เสียหาย ซึ่งไม่จำเป็นต้องลงสนามเป็นนักกีฬา แค่หยิบลูกบอลขึ้นมาเดาะ หรือตีลูก แค่นี้ก็เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยสร้างสุขภาพให้ดีขึ้นได้แล้วค่ะ