''การเดินทางของท่าแห่'' กลางดึก หน้าหนาวในคืนหนึ่งเราได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนว่า คุณตาของเขาได้เสียชีวิตลงแล้วนะ อยากให้เราเดินทางไปร่วมงานกับเขาที่บ้านเกิด เราเก็บของในคืนนั้นและได้เตรียมตัวเดินทางในวันรุ่งขึ้น ตั้งแต่วินาทีที่ไปถึง ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างเข้ามาพูดคุย ทำความรู้จัก เราได้เห็นความทรงจำต่าง ๆ มากมายจากคำบอกเล่าของญาติพี่น้อง ลุงป้าน้าอาเกี่ยวกับชีวิตในวัยเด็กของแต่ละคนที่อาศัยกันอยู่ที่นี่ บ้านท่าเยี่ยม ชุมชนเล็ก ๆ อันเงียบสงบที่ ตั้งอยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ด ความทรงจำในวัยเด็กของแต่ละคนเป็นอย่างไรกันบ้างคะ? แล้วสถานที่ในความทรงจำล่ะ? เคยได้หวนกลับไปยังที่เราเคยผูกพันธ์เคยวิ่งเล่นกับเพื่อนตอนเด็ก ๆ บ้างไหม? ภาคอีสานนั้นถือเป็นพื้นที่แห้งแร้งที่สุดในประเทศไทย สภาพดินเป็นดินทรายที่ขาดธาตุอาหารทำให้ดินเค็ม ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร น้ำจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชาวบ้านสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ดั่งแม่น้ำท่าแห่ที่คอยหล่อเลี้ยงผู้คนในหมู่บ้านท่าเยี่ยม จังหวัดร้อยเอ็ด บ้านท่าเยี่ยมเป็นชุมชนเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้คนเติบโตมากับวิถีชีวิตที่อาศัยลุ่มน้ำท่าเเห่ เเม่น้ำที่เปรียบเสมือนหัวใจหลักของผู้คนมาอย่างยาวนาน คนในหมู่บ้านใช้ชีวิตอยู่บริเวณโดยรอบของเเม่น้ำ นิยมปลูกยาสูบเเละพืชผักสวนครัวเพื่อนำมาประกอบอาหาร ในอดีตไม่มีน้ำประปาทุกคนจึงต้องมาอาบน้ำเเละใช้น้ำในการดำรงชีวิต ภาพของเด็กน้อยกระโดดน้ำกับเพื่อน ๆ อย่างมีความสุข ชายคนหนึ่งพายเรือทอดเเห เสียงกระดิ่งทองเหลืองที่ผูกคอวัวควายกระทบกันอยู่ริมฝั่ง ที่แห่งนี้นั้นมากด้วยความทรงจำเเต่ไม่อาจย้อนคืนมาได้ และวันเดินทางยิ่งใหญ่ของท่าเเห่ก็มาถึงเเม่น้ำกัดเซาะบริเวณฝั่งเข้ามาเรื่อย ๆ มีคำสั่งจากทางการให้อพยพบ้านเรือนออกจากบริเวณลุ่มน้ำ ทำให้ผู้คนในหมู่บ้านต้องย้ายถิ่นฐานออกห่างจากเเม่น้ำ ฤดูเเร้งมาเยือนน้ำเเห้งขอดไม่สามารถปลูกข้าวดำนาได้เช่นเดิม คนหนุ่มสาวหลั่งไหลเข้าสู่เมืองศิวิไล จำต้องทิ้งบ้านเกิดพ่อเเม่ที่เเก่เฒ่าเเละวิถีชีวิตไว้เบื้องหลัง ท่าแห่ในปัจจุปันแม้ว่าจะเงียบเหงาไม่ครึกครื้นเหมือนเก่าก่อน แต่ผู้คนยังไม่ลืมที่จะนึกถึงแม่น้ำสายสำคัญนี้ แม้เวลาจะผ่านไปเป็นสิบ ๆ ปี แม่น้ำสายนี้ยังเดินทางสืบทอดประเพณีและวิถีชีวิตจากรุ่นสู่รุ่น จากนี้ไม่ว่าจะต้องเดินทางอีกไกลสักเเค่ไหนท่าเเห่เเห่งนี้ยังคงเก็บทุกความทรงจำเเละวิถีชีวิตของคนบ้านท่าเยี่ยมไว้ตลอดไป