ดนตรีไทยเขาสอนอย่างไรนะ ? ในบทความนี้เพชรแห่งปัญญาได้เขียนถึงความรู้พื้นฐานของวงปี่พาทย์ การใช้กลองไทย และองค์ประกอบย่อย ๆ ของความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับดนตรีไทย และวงปี่พาทย์ การเรียนการสอนแบบครูดนตรีไทย และเพชรแห่งปัญญาก็จะกล่าวสรุปสั้น ๆ โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนดังนี้ครับ ส่วนที่ 1 โหมโรงสู่เนื้อหา ปูพื้นวิชาปี่พาทย์ ส่วนที่ 2 วิธีการสอนดนตรีไทยที่ไม่ควรพลาด ส่วนที่ 3 สรุปความไม่ให้ขาด ไม่ให้พลาดทุกประเด็น เรามาเริ่มเรียนรู้กันทีละส่วนกันเลยครับ ส่วนที่ 1 โหมโรงสู่เนื้อหา ปูพื้นวิชาปี่พาทย์ ดนตรีไทยเป็นดนตรีประจำชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยของเรา ดนตรีไทยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ วงปี่พาทย์ วงเครื่องสาย และวงมโหรี ปี่พาทย์เป็นวงดนตรีที่ประกอบด้วยเครื่องเป่า และเครื่องตี โดยมี ปี่ เป็นประธานของวงปี่พาทย์ มีลักษณะการบรรเลงแบบเก็บบ้าง โหยบ้าง ระนาดเอกเป็นหัวหน้า มีลักษณะการบรรเลงเป็นพยางค์ถี่ ๆ และยังเป็นเครื่องดนตรีที่กำหนดการจะไปจะมาของเพลง และวง เช่นการถอนลงของบทเพลงโดยจะส่งสัญญานบอกเครื่องดนตรีอื่นด้วยการ "บาก" ในการบากระนาดจะมีกลอนบรรเลงเฉพาะซึ่งชาวดนตรีจะรู้ว่า เมื่อระนาดเร่งขึ้นเร็ว ๆ จะบากตอนไหนวรรคใดของเพลง จะจบแบบถอน หรือจบแบบขาด ทุกเครื่องจะฟังสัญญาณจากระนาด ส่วนวงฆ้องวงใหญ่เป็นครูเพลงของวงปี่พาทย์ บรรเลงทำนองหลักให้กับวงมีลักษณะการตีห่าง ๆ ฆ้องวงเล็กทำหน้าที่ตกแต่งทำนองเพลงถี่ ๆ และระนาดทุ้มเป็นตัวตลกของวงคอยเล่นทำนองหยอกล้อกับทำนองหลัก ซึ่งเครื่องทั้งหมดนี้เรียกว่าเครื่องดำเนินทำนอง อีกประเภทเราจะเรียกว่า เครื่องหนัง คือกลองที่ประกอบการบรรเลงวงปี่พาทย์ เช่นตะโพน กลองทัด และกลองแขกการใช้กลองไทยในการบรรเลงรวมวง การใช้กลองก็จะขึ้นอยู่กับประเภทเพลง ถ้าเป็นเพลงหน้าพาทย์จะใช้ตะโพน และกลองทัด บรรเลงประโคมในพิธี หากเป็นเพลงประเภทบรรเลงเพื่อความบันเทิง รื่นเริงใจจะใช้กลองแขกในการกำกับจังหวะหน้าทับ และภายในวงปี่พาทย์ก็จะประกอบด้วยเครื่องประกอบจังหวะอีก โดยมี ฉิ่ง ฉาบ กรับ โหม่ง เป็นเครื่องประกอบจังหวะ แต่บางคนก็อาจกล่าวว่าฉิ่งเป็นเครื่องกำกับจังหวะ เพราะจริง ๆ แล้วฉิ่งเป็นเครื่องดนตรีที่คอยควบคุมความช้า เร็ว ของเพลงช่วยระนาดเอกซึ่งเป็นหัวหน้าวง ถือได้ว่าเป็นผู้กำกับวงในเรื่องของอัตราความเร็วและอัตราเร่งของเพลง เช่นเดียวกับระนาดส่วนที่ 2 วิธีการสอนดนตรีไทยที่ไม่ควรพลาด การเรียนดนตรีไทยจะต้องมีการครอบครูก่อน โดยครูผู้ทำพิธีไหว้ครูจะจับมือตีฆ้องวงใหญ่เพลงสาธุการ เพลงตระโหมโรงเพลง เพลงตระบองการ และเพลงบาทสกุณี ซึ่งในการเรียนในวิทยาลัยนาฏศิลป์ ผู้ที่จะจบไปเป็นครูดนตรีไทยจะต้องครอบครูเพลงทั้ง 4 เพลงนี้ให้ครบ แล้วจึงจะมีสิทธิ์เข้าพิธีรับมอบการเป็นครูดนตรีไทย ซึ่งนิยมมอบครูกันในระดับชั้นปริญญาตรีปีที่ 4 ส่วนการถ่ายทอดเพลงไทยจะยึดการสอนแบบโบราณ คือ ครูที่สอนดนตรีไทยจะบรรเลงให้ผู้เรียนฟังทีละวรรค และให้ผู้เรียนบรรเลงตามอย่างช้า ๆ พอผู้เรียนตีได้ก็จะต่อวรรคต่อไป ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ เมื่อต่อได้ 2 วรรคก็เริ่มตีตั้งแต่วรรคที่ 1 ไปถึงวรรคที่ 2 พอตีคล่องก็ต่อวรรคที่ 3 แล้วก็ทวนใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น วนไปเรื่อย ๆ ทำซ้ำไปมาจนจบเพลง การสอนแบบนี้ก็เหมือนการจับมือลูกน้อยเขียนหนังสือ เขียนทีละตัวอักษรประคบประหงมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจอย่างลึกซึ้ง โดยการสอนเพลงไทยผู้สอน หรือครูดนตรีไทยจะสอนทำนองฆ้องวงใหญ่ ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าทำนองหลักให้ก่อน โดยการสอนทำนองหลัก คือการสอนเนื้อเพลงแท้ของปี่พาทย์ให้กับลูกศิษย์ เพื่อให้ลูกศิษย์ได้แตกแขนงทางเพลงไปตามลักษณะการบรรเลงเฉพาะเครื่องดนตรี หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการแปรทาง โดยอาจจะเป็นทางระนาดเอกบ้าง ทางระนาดทุ้มบ้าง ทางฆ้องวงเล็กบ้าง ทางปี่บ้าง ซึ่งล้วนแตกแขนงจากทำนองหลักของฆ้องวงใหญ่ทั้งสิ้น คนปี่พาทย์จึงนับถือฆ้องวงใหญ่ว่าเป็นครูใหญ่ของเพลงไทย และจะให้ความเคารพฆ้องวงใหญ่อย่างยิ่ง ส่วนที่ 3 สรุปความไม่ให้ขาดไม่ให้พลาดทุกประเด็น บทความนี้เพชรแห่งปัญญา ได้สะท้อนความเป็นไทยในแง่ของวัฒนธรรมการสอนดนตรีไทย เพื่อธำรงไว้ซึ่งคุณค่ามรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ของชาติ เพื่อที่จะสืบต่อให้กับลูกหลานได้ชื่นชมสืบไป เพชรแห่งปัญญาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า องค์ความรู้ที่ได้เขียนไว้ ณ วันนี้ จะสะท้อนความเป็นไทยในแง่ของการถ่ายทอดเพลงไทย ให้กับผู้อ่านได้เข้าใจ เห็นคุณค่าของความเป็นไทย เห็นคุณค่าของการสอนแบบดนตรีไทย และความงามของดนตรีไทย ซึ่งวงปี่พาทย์เป็นวงดนตรีที่อยู่คู่กับความเชื่อ ประเพณี และพิธีกรรมต่าง ๆ มาช้านานการสอนแบบดนตรีไทยนั้นก็มีความงดงามอย่างยิ่ง เป็นการสอนแบบพ่อแม่จับมือลูกเขียนหนังสือ สอนแบบวรรคต่อวรรค ไปช้า ๆ อย่างละเอียด ๆ สุดท้ายนี้เพชรแห่งปัญญาหวังว่าผู้อ่านจะได้เห็นมุมมองของการสอนแบบดั้งเดิมของคนไทยเรา และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการสอนลูก และหลานของเราได้นะครับ สำหรับบทความนี้สวัสดีครับ แหล่งที่มารูปภาพ : เพชรแห่งปัญญา