ตำนานบ่อพันขันถูกเล่าต่อกันมาช้านาน จากรุ่นสู่รุ่น และตัวผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในลูกหลานของชาวบ้านที่มีความเกี่ยวพันกับบ่อพันขันหรือเรียกได้ว่าเป็นผู้สืบทอดตำนานบ่อพันขัน ย้อนกลับไปในอดีตเมื่อครั้นสมัยบ่อพันขันได้รับอิทธิพลจากศาสนาพราหมณ์ จึงทำให้เกิดความเชื่อว่าเป็นช่องโยนีของพระนางอุมาที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคู่กับศิวลึงค์ ต่อมากาลเวลาผันแปรพระพุทธศาสนาเริ่มเข้ามาแพร่หลาย จึงเกิดความเชื่อเรื่องประวัติความเป็นมาของบ่อพันขันใหม่ ที่ว่า พระอรหันต์โมคคัลลาน์เสด็จมาปราบพญานาค (ในที่นี้จะขอเล่าข้ามไปในช่วงจุดสำคัญของเรื่อง)พญานาคได้ต่อสู้กับนกอินทรีย์และได้พ่นพิษกระจายทั่วบริเวณโดยรอบ พระเถระจึงได้เข้ามาปราบจลาจลครั้งนั้น เหตุการณ์จึงสงบลงแต่พระเถระเกรงว่าในอนาคตวันข้างหน้าชาวบ้านต้องอาศัยน้ำในการล้างชำระพิษพญานาคและใช้ในการทำมาหากิน พระเถระจึงได้อธิษฐานบาทซ้ายและบาทขวาเหยียบชายจีวร เกิดเป็นรอยเท้าคนขนาดใหญ่ และได้อธิษฐานชี้นิ้วลงไปที่จีวร เกิดเป็นรอยแตกเท่าขันน้ำ ชาวบ้านเรียกว่า น้ำสร่างครก โดยความพิเศษของน้ำแห่งนี้คือไม่ว่าจะตักเท่าไรก็หมด จึงเป็นที่มาของคำว่า “บ่อพันขัน”นอกจากนี้ บ่อพันขัน ยังเคยเป็นเหมืองเกลือสินเธาว์ที่รุ่งเรือง เคยนำไปเป็นเครื่องบรรณาการให้แก่กรุงศรีอยุธยา นอกจากนี้ยังเคยเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญในเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงบ่อพันขัน ตั้งอยู่ที่ ตำบลเด่นราษฎร์ อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด เปิดให้บริการทุกวัน สามารถเข้าได้ทุกเวลาแต่ทางผู้เขียนขอแนะนำว่า ให้ไปเวลา 08.00 – 17.00 น. เพราะเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเที่ยวชมวัดเกาะบ่อพันขันรัตนโสภณ ด้านบนได้ประดิษฐานพระพุทธสหัสขันมหามุนีนาถ ภายในประดิษฐานพระบรมสาริกธาตุจากประเทศศรีลังกา ส่วนในตัวอุโบสถจะใช้ประกอบสังฆกรรมของสงฆ์ และใช้ฝึกสมาธิโดยใช้ฆ้องสามกษัตริย์เป็นอุปกรณ์สำหรับการฝึก ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นฆ้องเสี่ยงทายวาสนาด้านข้างรอบอุโบสถจะมีรูปปั้น 12 นักษัตรเจ้าปู่ผ่านภูวงศ์ เป็นวิญญาณที่คอยพิทักษ์บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีไม่ใช่รูปปั้นแต่เป็นเพียงศาลปู่ตาเท่านั้น ต่อมาได้มีการอันเชิญนางเทียมทั้ง 29 มาเข้าทรงแล้วบอกรูปร่างหน้าตา จากนั้นได้ให้ช่างปั้นรูปขึ้นโดยถูกปรับแก้ 3 รอบ จนเป็นรูปปั้นดังทุกวันนี้บริเวณใกล้เคียงเจ้าปู่ผ่านบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ตักเท่าไรก็ไม่มีวันหมดนกอินทรีย์ ตามตำนานพระอรหันต์โมคคัลลาน์เสด็จมาปราบพญานาคพระอรหันต์โมคคัลลาน์เสด็จมาปราบพญานาคเป็นระฆังที่หล่อขึ้นเมื่อรัชกาลที่ 9 ครองสิริราชย์ครบ 50 พรรษา โดยวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร และได้นำมามอบให้กับวัดเกาะบ่อพันขัน ซึ่งเป็น 1 ใน 9 วัดที่ได้รับระฆังชุดนี้พระแม่ธรณีศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านม่วงหวานมหาวิชชาลัยไพหญ้า สถาบันสมบทมหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ สหรัฐอเมริกา ในความอุปถัมภ์ของมูลนิธิบ่อพันขันรัตนโสภณ บริเวณต่างๆยังเต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ทั้งป่าไม้และแหล่งน้ำ สำหรับใครที่กำลังมองหาอากาศบริสุทธิ์หรือจะอยากศึกษาแหล่งเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์ ขอแนะนำว่าให้มาเที่ยวที่นี่ บ่อพันขัน