ถ้าจะกล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสาน ดินแดนแห่งอารยะธรรมที่แสนยาวนานแล้ว ผู้อ่านนึกถึงที่แห่งไหนบ้างคะ แน่นอนค่ะ หลายคนต้องนึกถึง วัด ปราสาท ภูเขา น้ำตก แม่น้ำลำธาร และที่อื่นๆ อีกมากมาย เหมาะกับผู้ที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน การผจญภัย และไหว้พระทำบุญ รวมถึงศึกษาประวัติศาสตร์ของแต่ละแห่งอีกด้วย และไม่ลืมที่จะเก็บภาพประทับใจโพสภาพลงโซเชียล ที่เราเห็นกันอย่างแพร่หลายนั่นเองค่ะ ผู้เขียนในฐานะเป็นชาวอีสานก็ชอบเดินทางไปตามที่ต่างๆ ไปกับเพื่อนๆ กับครอบครัว ก็ไปมาหลายที่แล้ว แต่ก็ไปยังไม่ครบเลยค่ะ และยังคนตั้งเป้าหมายว่า จะเดินทางไปให้ทั่วทุกจังหวัดของภาคอีสานให้ได้ และอีกแห่ง ถ้าไม่กล่าวถึงคงเป็นไปไม่ได้ คือ หอโหวดร้อยเอ็ด แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ของอีสาน เป็นหอคอยสูง 101 เมตร ในกลางเมืองร้อยเอ็ด ที่ได้ชื่อว่า รูปทรงไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เพราะมีแค่หนึ่งเดียวในโลก โหวดนั้นคือสัญลักษณ์ของชาวร้อยเอ็ด หลายคนยังไม่รู้จักว่าโหวดคืออะไร มีรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหน และจะงดงาม สูงเด่นเป็นสง่า น่าจดจำมากแค่ไหน ตามไปรับชมกันได้เลยค่ะ เครดิต ภาพที่ 1 หอโหวด ๑๐๑ ROIET TOWER / facebook คราวนี้เรามาทำความรู้จักกับประวัติของหอโหวด แบบพอหอมปากหอมคอ เพื่อให้รู้ที่ไปที่มา ขอกล่าวถึงโหวดก่อนค่ะ โหวด คือเครื่องดนตรีไทยของภาคอีสาน เป็นประเภทเครื่องเป่าหรือแกว่ง รูปร่างจะคล้ายกับกระบอกหรือบังไฟ ทำจากไม้กู่แคน (เป็นไม้ซาง ชนิดเดียวกับที่ใช้ทำแคน) ด้านบนมีชันโรง (ขี้สูด) ในสมัยโบราณมักจะผูกกับเชือกเพื่อแกว่งให้เกิดเสียง และยังเป็นสัญลักษณ์ของชาวร้อยเอ็ดอีกด้วย ผู้คิดค้นที่ทำให้โหวดมีลักษณะเหมือนปัจจุบันคือ นายทรงศักดิ์ ประทุมสินธุ์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และเป็นที่นิยมเล่นกันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา ผู้เขียนเคยเห็นนักดนตรีชาวอีสานเล่นโหวดมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ พอได้มีโอกาสได้เป่า รู้เลยค่ะว่า มันไม่ง่ายเลย ต้องใช้พลังลมเป่าเยอะมาก กว่าจะเป็นเสียงที่ไพเราะออกมาต้องใช้การฝึกฝน ทำซ้ำๆ หลายๆ รอบ พอเป่าได้บ้างแล้ว ก็รู้สึกสนุกมากค่ะ ถ้ามีโอกาสได้จับโหวดขึ้นมาเป่าอีกครั้ง ต้องไม่พลาดที่จะหวนระลึกถึงความหลังแน่นอนค่ะ เครดิต ภาพที่ 2 หอโหวด ๑๐๑ ROIET TOWER / facebook การก่อสร้างหอโหวดนั้น มีจุดเริ่มต้นมาจากแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ดของนายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด จึงได้มีการออกแบบก่อสร้างหอโหวดร้อยเอ็ดขึ้นมา ซึ่งแสดงถึงศิลปวัฒนธรรมของชาวอีกสาน รวมถึงสะท้อนตัวตนและอัตลักษณ์ของเมืองร้อยเอ็ดได้เป็นอย่างดี รูปทรงเป็นทรงเครื่องดนตรีท้องถิ่นที่ไม่เหมือน และไม่ซ้ำใครในโลก สุดไฮเทค ยิ่งใหญ่อลังการ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว จุดแลนด์มาร์คที่สำคัญกลางตัวเมืองร้อยเอ็ด ที่ตั้งคือ ถนนสุริยเดชบำรุง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ติดกับสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และบึงพลาญชัย หอโหวดมีความสูง 101 เมตร หรือเทียบเท่าตึก 35 ชั้น ฐานด้านล่างกว้าง 30 เมตร ยอดโหวดกว้าง 20 เมตร รวมพื้นที่ทั้งหมดกว่า 3,621 ตารางเมตรเลยที่เดียวค่ะ สำหรับค่าเข้าชม บุคคลทั่วไป 50 บาท นักเรียน-นักศึกษา ผู้สูงอายุ 40 บาท ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป เด็กเล็ก ผู้พิการ เข้าชมฟรี เปิดบริการเวลา 9.00-21.00 น. ทุกวันค่ะ ผู้เขียนได้เคยไปมาแล้ว เห็นจะขับรถเข้าตัวเมืองร้อยเอ็ด จะเห็นโหวดสีเหลืองทอง ตั้งสูงเด่นมากค่ะ พอเข้าไปใกล้เรื่อยๆ ใจเต้นผิดจังหวะไปเลยค่ะ ตื่นเต้นมาก เพราะรอคอยมานานที่จะได้มาชม และได้สัมผัสหอคอยอันอลังการเช่นนี้ พอไปถึงที่หมายแล้วจะพบว่า หอโหวดตั้งอยู่ในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด ติดกับบึงพลาญชัย ซึ่งเป็นผู้เขียนเคยมาตั้งแต่หลายปีก่อน สภาพแวดล้อมรอบๆ โดยรวมแล้วได้รับการฟื้นฟู พัฒนา ตกแต่งให้ดูสวยงามและร่มรื่นน่าอยู่มากค่ะ พอเดินเข้ามาที่หน้าหอโหวด เหมือนตัวเองหลุดไปอีกโลกนึง เหมือนเข้าไปอยู่ในหนังฮอลลีวูดไปเลยค่ะ เพราะภาพตรงหน้าคือหอคอยสุดไฮเทค สีเหลืองทองอร่าม สูงขึ้นไปสุดลูกหูลูกตา เรียบหรู อลังการ ลวดลายระหว่างทางเดินจะมีศิลปะทั้งรูปและการตกแต่งที่สวยงาม พอเดินไปเรื่อยๆ จะมีกลิ่นหอมโชยออกมาตลอดทาง ตรงชั้น 2 จะมีลิฟท์ บางชั้นเป็นบันได้ เพื่อให้ผู้เข้ามาเยี่ยมชมได้เห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองร้อยเอ็ดได้ทุกมุมเลยค่ะ เส้นทางค่อนข้างซับซ้อน แต่จะมีเจ้าหน้าที่ยืนประจำทุกจุด รับรองไม่หลงทางแน่นอนค่ะ ระหว่างทางเดินก็จะเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพ เรียกได้ว่ากว่าจะถึงชั้นบนสุดก็กินเวลาไปเป็นชั่วโมงไปเลยค่ะ พอเดินมาสักพักก็ทำเอาหิวมากๆ เลยค่ะ ที่หอคอยมีห้องอาหารไว้คอยบริการ ผู้เขียนไม่พลาดที่จะแวะรองท้อง เติมพลังแล้วลุยต่อให้สุดไปเลยค่ะ เรียกได้ว่า ได้มาทั้งที ต้องเอาให้คุ้มไปเลยทีเดียว เครดิต ภาพที่ 3 หอโหวด ๑๐๑ ROIET TOWER / facebook หอโหวดทั้ง 35 ชั้น คือ ชั้นที่ 1 สำนักงาน ห้องน้ำสาธารณะ ชั้นที่ 2 ห้องโถงใหญ่และลิฟท์ขึ้นหอโหวด ชั้นที่ 3 จำหน่ายสินค้าของที่ระลึกและร้านกาแฟ ชั้นที่ 4 ห้องอาหารและของว่าง Fitness co-working space ชั้นที่ 28 Fitness ชั้นที่ 29-30 ห้องอาหารและของว่าง ชั้นที่ 31-32 ชมวิวภายนอกอาคาร ชั้นที่ 33 พิพิธภัณฑ์เมือง ประวัติหอโหวด ชั้นที่ 34 ชมวิวภายนอกอาคาร พื้นกระจก Sky Walks ชั้นที่ 35 หอพระ เครดิต ภาพที่ 4 หอโหวด ๑๐๑ ROIET TOWER / facebook หอโหวด แบ่งพื้นที่ใช้สอยจริง 12 ชั้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ชั้นที่ 35 เป็นหอพระ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธมิ่งเมืองมงคลพระพุทธรูปประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนชั้นที่ 34 จุดหมายของใครหลายๆ คน คือมี Sky Walk พื้นกระจกใส ที่ทุกท่านสามารถไปยืนแล้วมองไปเบื้องหน้า จะเห็นวิวทิวทัศน์เมืองร้อยเอ็ดอันไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา พอมองลอดเท้าลงมาด้านล่างอีกด้วย ผู้เขียนก็เคยรวบรวมความกล้าเพราะกลัวความสูงมาก ค่อยๆ ยื่นเท้าเข้าไปแตะทีละนิด กว่าจะแตะได้เต็มเท้าและอยู่ในจุดที่เหมาะได้ ทำเอาเสียวแป๊บๆ ขาสั่นถึงตาตุ่ม แต่พอตั้งสติดมองไปยังเบื้องหน้า ทำให้หวนระลึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ขึ้นมาทันที ลอดเท้าลงด้านล่าง ทำเอาอึ้งเลยค่ะ เหมือนตัวเองกำลังบิน ลอยอยู่บนอากาศ เป็นดั่งผู้วิเศษ คิดแล้วขำตัวเองค่ะ จินตนาการสูงจริงๆ แถมยังมีที่นั่งรับอากาศบริสุทธิบริเวณรอบห้องด้วยค่ะ ซึ่งจะไม่มีกระจกกั้น จะเป็นเพียงแท่งเหล็กที่วางต่อๆ กัน เพื่อให้อากาศได้พัดเข้ามาสะดวก ผู้เขียนบอกเลยค่ะว่า ถึงแม้ด้านนอกอากาศจะร้อน แต่ด้านในลมพัดแรงมาก เย็นสดชื่น หายเหนื่อยไปเลยค่ะ และจุดสำคัญที่ทุกท่านต้องไปให้ได้คือ สามารถชมทัศนียภาพเมืองร้อยเอ็ด 360 องศา มีที่นั่ง มีโซฟาไว้ให้ถ่ายภาพเก็บความประทับใจและเรื่องราวดีๆ ที่ครั้งหนึ่งได้เคยมายืน หอโหวดร้อยเอ็ดแห่งนี้ค่ะ นอกจากนั้น ชั้นอื่นๆ จะมีพิพิธภัณฑ์ร้อยเอ็ด ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ของฝากที่ระลึกด้วยค่ะ แต่ละชั้นประดับตกแต่งอย่างงดงาม มีการสอดแทรกเรื่องราวท้องถิ่นกับความร่วมสมัยเอาไว้ด้วยกัน เช่น ดอกอินทนิลบก ดอกไม้ประจำจังหวัด ที่ทำด้วยคริสตัล เป็นต้น เครดิต ภาพที่ 5 หอโหวด ๑๐๑ ROIET TOWER / facebook เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤษภาคม 2564 เวลา 10.45 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภัคดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารหอโหวดร้อยเอ็ด และเสด็จทอดพระเนตร Sky Walk ชั้น 34 หอโหวด ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ดเครดิต ภาพที่ 6 หอโหวด ๑๐๑ ROIET TOWER / facebook สถานที่รอบสำคัญหอโหวดร้อยเอ็ด คือ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด คือสวนสุขภาพที่ให้ประชาชนได้มาเดินเที่ยวพักผ่อน เล่นกีฬา ออกกำลังกาย และจัดงานแสดงร้านค่า OTOP และตามงานเทศกาลต่างๆด้วยค่ะ ผู้เขียนก็ได้เดินทางมาที่สวนนี้กับเพื่อนบ่อยๆ ค่ะ เพราะเรียนอยู่ในตัวเมืองร้อยเอ็ด ทุกๆ เย็นจะมีประชาชนตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ ต่างก็ มาเดินเล่นจนเต็มไปหมดเลยค่ะ มีกลุ่มคนรักสุขภาพมารวมตัวกันออกกำลังกาย ปั่นจักรยานเพลินเลยค่ะ คนจะเยอะมาก เสียงเพลงกับเสียงคนพูดคุยร้องเพลงสลับกัน ทำให้บรรยากาศครึกครื้น สนุกสนาน ถึงแม้บางวันผู้เขียนเดินทางไปคนเดียวก็ไม่รู้สึกเหงาเลยค่ะ บึงพลาญชัย เป็นบึงขนาดใหญ่ มีปลายน้อยใหญ่หลายสายพันธุ์เต็มไปหมด ถ้าให้อาหารปลาตรงบริเวณไหนของบึง จะพบปลาว่ายน้ำมากินทุกที่เลยค่ะ ส่วนกลางบึงจะเป็นสวนสุขภาพขนาดใหญ่ มีลานกีฬา หลานกิจกรรม สวนหย่อมขนาดใหญ่ เรือนนั่งพัก ห้องน้ำ ร้านอาหาร มีเรือปั่นไว้คอยให้บริการรอบบึง มีอาคารสำหรับประชุม รวมถึงอาคารสำหรับเจ้าหน้าที่ เป็นต้น แน่นอนค่ะ ถ้าเป็นคนร้อยเอ็ด จะบอกว่าไม่รู้จักคงเป็นไปไม่ได้ เพราะสร้างมานานหลายสิบปีแล้วค่ะ ผู้เขียนเองก็เคยได้ติดตามครอบครัวมาเที่ยวตั้งแต่จำความได้ จนถึงตอนที่ไปเรียนในตัวเมือง ก็จะไปทำกิจกรรมกับเพื่อนอยู่บ่อยๆ ตอนนั้นรู้สึกสนุกมาก และยังจำช่วงเวลาบางส่วนได้ไม่ลืม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเค็ม ที่รวบรวมปลาหลากหลายสายพันธุ์มาไว้รวมกัน และเป็นอะไรที่แปลกใหม่มากสำหรับชาวร้อยเอ็ด เพราะหลายคนไม่เคยให้ปลาทะเลตัวเป็นๆ ว่ายไปมาในอุโมงแก้ว และใกล้ชิดได้ขนาดนี้ เหมือนได้ดำดึงลงไปเดินเล่นใต้ท้องมหาสมุทร ได้พบเจอปลาหน้าตาแปลกๆ ชื่อแปลกๆ ที่ไม่ได้พบเห็นกันได้ง่ายๆ พอถึงต้องนี้แล้วเป็นไงบ้างคะ กับหอโหวด หอคอยสุดไฮเทค รูปทรงมีแค่หนึ่งเดียวในโลก รวมถึงยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของร้อยเอ็ด แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของอีสาน ที่ใครๆ ก็จดจำได้และครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องมาเยือนให้ได้ เพราะดูอลังการ สวยงามทุกมุม โดยเฉพาะตอนกลางคืน แสงจากบึงพลาญชัย และไฟประดับที่เปิดไว้ที่หอโหวด ทำให้เป็นวิวหลักล้านของคนที่พบเห็น ช่วยเสริมบรรยากาศได้สุดยอดมากๆ ค่ะ ผู้เขียนหวัง ผู้อ่านจะได้รับอรรถรสจากการอ่านเรื่องราวครั้งนี้ไม่มากก็น้อย อยากออกเดินทางมาเยือนแล้วใช่ไหมคะ แล้วอย่าลืมเก็บภาพประทับใจไปฝากครอบครัวและเพื่อนๆ กันนะค่ะ ผู้เขียนรู้สึกภูมิใจในความเป็นลูกหลานชาวร้อยเอ็ดอย่างยิ่ง ที่ได้ถ่ายทอดเอกลักลักษณ์ ศิลปะวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การจดจำ ภูมิใจที่ร้อยเอ็ดมีที่ให้เราค้นหา ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และที่ทำให้เราอยากไปอีกซ้ำๆ และสุดท้ายนี้คงไม่มีอะไรที่จะบรรยายได้มากไปว่าคำว่า ร้อยเอ็ด เมืองแห่งความสุขและโชคดี เครดิต ภาพหน้าปก หอโหวด ๑๐๑ ROIET TOWER / facebook อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !