มาคนเดียวกลับคนเดียว....? สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่านผมในนามคุณชายต้น(ผู้เขียน)คงไม่มีอะไรที่จะมาอธิบายกับหัวข้อหรือชื่อเรื่องว่าทำไมผมจึงต้องตั้งชื่อบทความบทนี้ว่า “มาคนเดียวกลับคนเดียว” เพราะการที่ผมตั้งชื่อบทความแบบนี้ก็เพื่อจะให้ท่านผู้อ่านทุกท่านไม่ประมาทในการใช้ชีวิตเพราะบทความก่อนหน้านี้ผมก็ได้เขียนถึง “ชีวิตนี้สั้นหนัก” ดังนั้นบทความบทนี้จึงเป็นบทความที่สอนในเรื่องธรรมะเพื่อเป็นการเตือนสติให้กับหลายๆท่านที่ยังประมาทในชีวิตยังสนุกมัวเมากับกิเลสตัณหาทั้งหลายทั้งปวงจนลืมสร้างบุญสร้างบารมีให้จิตใจตนเองสูงขึ้น...... หากแต่ว่าท่านทั้งหลายลองมองและพิจารณาดูว่ามนุษย์เราไม่ว่าเขาว่าเรานั้นตอนแรกเกิดมามีใครถือสิ่งใดมาด้วยหรือป่าวคำตอบคือไม่มีใช่ไหมครับและก็ไม่มีใครพาเพื่อนหรือคนใช้มาด้วยสักคนซึ่งทุกคนก็มามาป่าวและก็มาคนเดียวกันทุกคนแต่เมื่อพอเติบใหญ่ขึ้นมาได้รับการศึกษาก็เริ่มมีเพื่อนมีแฟนกันเป็นเรื่องธรรมชาติของสังคม อยู่ต่อมาก็มีการแต่งงานสร้างครอบครัวสร้างฐานะตามแต่สมควรของใครของตนตามวิถีของชีวิตทั่วไปที่ต้องดำเนินไปตามแต่ความสามารถของแต่ล่ะบุคคลซึ่งก็อาจจะมีเพื่อนๆในที่ทำงานหรือแม้แต่ญาติมิตรต่างๆก็ว่ากันไปเพราะคนเราไม่เท่ากันอยู่แล้วซึ่งนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาของกรรมใครสุดแล้วแต่จะนำพาให้เป็นไป....เมื่อเราทั้งหลายเริ่มแต่ตัวลงนั้นคือพอลูกๆหลานๆของเราเริ่มโตขึ้นเขาเหล่านั้นก็ต้องออกไปสร้างครอบครัวของเขาเช่นเดียวกับเราที่เคยผ่านมาแล้วในช่วงเวลาชีวิตเดียวกัน“เริ่มเห็นภาพยังครับว่าทุกอย่างก็หมุนเป็นวงกลมเหมือนตอนที่เรายังหนุ่มสาว”เมื่อเวลาชีวิตเดินทางมาไกล้จะถึงฝั่งแม่น้ำเต็มทีแล้วลูกหลานของเราก็เดินตามหลังกันมาเพื่อจะมาให้ไกล้แม่น้ำกันตามลำดับเมื่อเวลาผ่านไปเราและท่านทั้งหลายก็จากไปตามกฏของธรรมชาติกันทุกท่านซึ่งก็กลับไปคนเดียวบรรดาลูกรักเมียรักผัวก็ไปส่งเราได้แค่เพียงป่าช้าเท่านั้นต่อให้จะร้องไห้ทุรนทุรายสักปานใดก็ไปส่งได้แค่นั้น ดังนั้นท่านทั้งอย่าได้พากันประมาทในชีวิตเลยโดยเฉพาะบรรดาหนุ่มสาววัยรุ่นเราจงพากันขยันหมั่นเพียรสร้างบุญสร้างบารมีกันไว้ให้มากๆ บุญบารมีไม่ได้อยู่แต่ในวัดถ้าบุญอยู่แต่ในวัดหมาวัดมันจะไม่ได้บุญกว่าเราหรอบุญ-อยู่ที่บ้านตอบแทนพระคุณบิดามารดาผู้ให้กำเนิดนั้นคือบุญสูงสุด -สวดมนต์ไหว้พระเจริญจิตภาวนาอยุ่บ้านก็เป้นบุญ-ให้ทานรักษาศีล5ก็เป็นบุญ-ช่วยเหลือคนทุกข์คนอยากก็เป็นบุญ-ให้ทานแก่สัตว์จรจัดก็เป็นบุญ จะเห็นได้ว่าบุญมีอยู่ทุกที่ไม่จำเป็นต้องวิ่งแสดงหาผู้นำด้านนั้นด้านนี้หรือแม้แต่ผู้วิเศษอย่างนั้นอย่างนี้อยากให้เราชาวบุญเรามีสติมีปัญญามองว่าความหมายของบุญคืออะไรบุญถ้าเราทำแล้วเราสุขกายสบายใจนั้นล่ะคือบุญจะทำอะไรก็ตามถ้าเราสุขใจสบายใจก็เป็นบุญมีเท่านี้แหละไม่ต้องไปวิ่งหามันหรอกเอาที่ใจของเราเองนี่แหละเพราะบุญหรือแม้แต่นิพานก็อยู่ที่ใจเรานี่แหละ.............ขอบคุณภาพจาก คุณชายต้น (ผู้เขียน) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลาย บน App TrueID โหลดเลย ฟรี!