สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านทุกท่านมาพบกันอีกแล้วจ้า และวันนี้เราก็จะพาทุกท่านนะคะได้ออกไปเปิดโลกกว้าง ท่องเที่ยวแบบไทย ๆ ภายในประเทศ และใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่นะคะ คือการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง และเว้นระยะห่างทางสังคม ดูแลตัวเองในช่วงสถานการณ์โควิดแบบนี้ วันนี้ค่ะมาเจอกันที่จังหวัดสกลนคร อยู่ในภาคอีสานนี่แหละเนอะ55 ใกล้บ้านดี สำหรับวัดถ้ำผาแด่นนี้นะคะ ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน บ้านดงน้อย ตำบลดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร อยู่ห่างจากตัวจังหวัด 17 กม. เป็นอีกหนึ่งใน สถานที่ที่ห้ามพลาดของจังหวัดสกลนคร ที่งดงามด้วยงานแกะสลักบนหน้าผาหินที่มีเอกลักษณ์วิจิตรศิลป์ สวยสดงดงามถ่ายทอดเรื่องราว เป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งในจังหวัดสกลนคร มีความเป็นมานับร้อยปี โดยมีชื่อตามทะเบียนสำนักพระพุทธศาสนา แห่งชาติ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2483 สภาพธรรมชาติร่มรื่นมีต้นไม้ และโขดหินขนาดใหญ่ เหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนา ซึ่งในอดีตได้มี พระเกจิอาจารย์ สายวิปัสสนาหลายองค์มาจำพรรษาปฏิบัติธรรม อาทิ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มาจำพรรษาด้วย และเมื่อช่วงปี 2550 พระอาจารย์ปกรณ์ กนฺตวีโร เจ้าอาวาสคนปัจจุบัน ได้เข้ามาพัฒนาวัดให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และพัฒนาเป็น สถานที่ท่องเที่ยว เชิงธรรมะ เพื่อดึงประชาชน และกลุ่มวัยรุ่นให้เข้าวัดมากขึ้น วัดตั้งอยู่บนภูเขาสูง ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่น โดยมีการจัดพื้นที่ ให้สามารถชมทิวทัศน์และถ่ายรูป บริเวณศาลาผาแดงมองเห็นตัวเมืองสกลนครและทะเลสาบหนองหารได้แบบ 180 องศา เลยจ้า สำหรับการมาเที่ยวในช่วงสถานการณ์แบบนี้นะคะ ต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าไปทุกคน เพื่อความปลอดภัยนะคะ และเดินไปทำบุญค่าเข้าชม คนละ 20 บาท และมาต่อคิวขึ้นรถนะคะเพราะที่นี่เขาจะมีรถประจำทางรับส่งคันละไม่เกิน 10 คนเพื่อความปลอดภัยและเป็นการลดอุบัติเหตุเพราะทางที่นี่เป็นทางขึ้นเขามีความคดเคี้ยวอันตรายเป็นอย่างยิ่งค่ะ บรรยากาศตอนนั่งรถขึ้นไปนะคะ คือดีมาก ตื่นเต้นระทึกใจดี และพอได้มองวิวจากรถลงมา โอ้โหว มันเยี่ยมมาก มองเห็นทิวทัศน์สวย ๆ และใจก็เต้นตุ้บ ๆ เพราะกลัว555 พอมาถึงนะคะก็จะพบกับจุดทำบุญต่าง ๆ มากมาย แล้วแต่จิตศรัทธาค่ะ จุดนี้ก็เป็นจุดร่วมทำบุญเขียนผ้าตุงสวรรค์ โดยการเขียนชื่อวันเดือนปีเกิดนะคะ ทำบุญในส่วนเป็นค่าน้ำมัน ค่าเครื่องปั๊มไฟค่ะ เพราะที่นี่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ จุดนี้ก็เป็นจุดที่แกะสลักหินหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ข้าง ๆ มีงูยักษ์และช้างหมอบคอยปกป้อง และเป็นองค์ประธานให้ประชาชนที่มาได้กราบไหว้ จุดนี้นะคะเป็นจุดที่ให้ประชาชนได้ร่วมทำบุญโดยทำการแลกเหรียญเพื่อที่จะโยนลงบาตร โดยการตั้งจิตอธิฐาน มีความเชื่อว่าถ้าโยนลง สิ่งที่อธิฐานจะเป็นจริงค่ะ จุดนี้ก็มีคนร่วมทำบุญกันเป็นจำนวนมาก พอเดินขึ้นมาอีกนะคะจะพบกับพระพุทธมหาราชานาคาบรีรักษ์ ซึ่งเป็นรูปปั้นพญานาคปรก 7 เศียร สูง 19 เมตร ยาว 139 เมตร มีลำตัวขดเป็นฐาน 3 รอบรองนั่งพระพุทธเจ้า ส่วนกลางถึงปลายเลื้อยไปตามซอกผา โดดเด่นด้วยสีเหลืองทอง ตัดกับต้นไม้เขียวขจี และมีลวดลายอ่อนช้อยราวกับมีชีวิตเลยทีเดียวค่ะ บรรยากาศพอมองไปก็เห็นต้นไม้ที่เขียวขจี ทั้งต้นไม้ ทั้งดอกไม้ มองลงไปเห็นภูเขามีน้ำตกที่ร่มรื่น เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์บนดินเหมือนเดินอยู่ในเทพนิยาย มีการแกะสลักหินตามเรื่องราวต่าง ๆ อ่อนช้อยงดงาม ค่ะเดินมาอีกก็พบกับ องค์พญาเต่าผาแด่น มหาโพธิสัตว์ เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้ขอพร และได้ขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ไม้ข้าง ๆ พญาเต่า ซึ่งก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการขอพรจากพญาเต่า ด้วยการขึ้นขอพรแบบเงียบ ๆ และกระซิบที่ข้างหูพญาเต่า ใครอยากจะขอพรอะไรก็ได้ หรือจะระบายความทุกข์อะไรก็ได้ ไม่มีใครได้ยิน มีแต่องค์พญาเต่าผาแด่น มหาโพธิสัตว์ จะคอยดลบันดาลและให้ทุกคนพบแต่สิ่งที่ดีตลอดไป ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีโอกาสก็อยากให้ทุกคนมาสัมผัสด้วยตัวเองค่ะ ก็นับว่าเป็นอีกวัดที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ทั้งต้นไม้ ดอกไม้ น้ำตก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสวยงามราวกับว่านิมิตขึ้นมา เหมาะมากที่จะมาพักผ่อนเดินชมธรรมชาติ และอีกทั้งยังเห็นวิวทะเลสาบหนองหารได้อีกด้วย และยังเป็นจุดดึงดูดให้คนรุ่นใหม่ได้หันมาเข้าวัด นับว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งค่ะ เครดิตภาพถ่ายโดยผู้เขียน : pmcnnn