“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” ชิล ๆ วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2565 กินเที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม-สุทนคิคิ วันนี้พาท่องเที่ยวเมืองสุรินทร์หรือจังหวัดสุรินทร์พื้นที่บริเวณนี้เชื่อว่าเคยเป็นอาณาจักรของขอมเมื่อครั้งอดีตกาลประมาณ 1,500-2,000 ปี ด้วยเหตุนี้จึงพาไปรู้จัก "ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองหรือศาลหลักเมือง" จังหวัดสุรินทร์ เพื่อความเข้าใจในการอ่านเรื่องราวของศาลหลักเมืองจังหวัดสุรินทร์หนุ่ม-สุทน ขอเขียนเล่าเรื่องเป็นเรื่อง ๆ ให้อ่านแล้วเข้าใจแบบง่าย ๆ ครับ โดยเริ่มต้นศาลหลักเมือง จ.สุรินทร์เรื่องที่ 1 ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองหรือศาลหลักเมืองของเมืองสุรินทร์ น่าจะมีมาตั้งแต่ครั้งเป็นเมืองสุรินทร์เดิมนั้นสันนิษฐานว่าเป็นลักษณะแบบศาลเจ้าจีนประดิษฐานเสาหลักเมืองเป็นเสาหินทรายศิลปะขอมลักษณะศาลเจ้าแบบจีนเสาหลักเมืองมี 2 เสา คือเสาหินเดิมและเสาไม้ที่สร้างขึ้นใหม่เรื่องที่ 2 เข้ามาในปี พ.ศ. 2511 สันนิษฐานว่าทางจังหวัดสุรินทร์น่าจะร่วมกันกับกรมศิลปากรเพื่อออกแบบจัดสร้างตัวศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขึ้นมาใหม่ขนาดใหญ่เป็นศิลปะขอมผสมผสานกับศิลปะไทยเป็นรูปตัวปราสาทยอดสูงอลังการมีมนต์ขลังหรือเทวลัยประดิษฐานเทพเจ้ารักษาบ้านเมือง เพราะด้านบนมีรูปปั้นองค์เทพคือพระพิฆเนศปางต่าง ๆ ประดิษฐานอยู่บนชั้นของเทวลัยหรือหลังคาตัวปราสาท ต่อมาทางจังหวัดสุรินทร์ได้ขอความร่วมมือไปที่กรมป่าไม้ให้ช่วยหาไม้มงคลทำเสาหลักเมืองปรากฏว่าได้ต้นไม้ชัยพฤกษ์มาจากคุณประสิทธิ์ มณีกาญจน์ บ้านอยู่ในตำบลลุมสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี แล้วทางกรมศิลปากรได้ดำเนินการแกะสลักไม้ชัยพฤกษ์เป็นเสาหลักเมืองโดยแกะสลักยอดเสาเป็น "พระพรหมสี่หน้าหรือท้าวมหาพรหมสี่หน้า" มีความสูง 3 เมตร ส่วนรอบเสา 1 เมตร เสร็จแล้วในวันที่ 21 สิงหาคม ปีพ.ศ. 2515 ทางจังหวัดสุรินทร์ได้อัญเชิญเสาหลักเมืองไป ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐานในพระราชวังดุสิตกรุงเทพฯ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพิตรทรงลงพระสุหร่ายหรือเจิมเสาหลักเมืองตามราชประเพณีของชาวสยาม-ไทย แล้วอัญเชิญกลับมาจังหวัดสุรินทร์ในวันที่ 15 มีนาคม ปี พ.ศ. 2516 ได้เฉลิมฉลองหรือสมโภชแห่รอบเมืองสุรินทร์อย่างยิ่งใหญ่และครั้งนั้นมีเรื่องราวเล่าขานกันว่าเกิดสิ่งมหัศจรรย์บริเวณถนนปูนข้าง ๆ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองหรือศาลหลักเมือง ปูนของถนนแตกแยกออกมามองเห็นโพรงใต้ดินปรากฏว่าพบองค์พระพิฆเนศและองค์พระรัศมี นอกจากนี้ยังมีเครื่องปั้นดินเผาอีกหลายอย่าง ชาวบ้านเชื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ซึ่งอยู่คู่บ้านคู่เมืองสุรินทร์มายาวนานครับ เสาหลักเมืองดังนั้นท่านผู้อ่านทุกท่านอ่านแล้วไปเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ กราบบูชาเทพเจ้าในศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอให้ประสบผลสำเร็จทุกประการ เช่น ความมั่นคงในครอบครัว เรื่องการค้าการลงทุนหรือหน้าที่การงาน น่าท่องเที่ยวครับจังหวัดสุรินทร์ "ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง" ตั้งอยู่ริมถนนเทศบาล 3 ปากซอยปอยปรีง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเปิดทุกวันตลอดเวลาถ้าหากไปช่วงเวลา 17.00 น. ถ่ายภาพแสงตะวันอ่อน ๆ สวยงามมากครับไป ยามเย็นพระอาทิตย์ตกสวยงามมากครับต้องการข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) สำนักงานสุรินทร์ โทรศัพท์ 044-514447 ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ขอขอบคุณ ผอ.สุชารัตน์ แสงอรุณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) สำนักงานสุรินทร์ ที่ให้การต้อนรับคณะสื่อมวลชนชมรมนักข่าวท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและขอบคุณหนุ่มพเนจรหรือคุณอภินันท์ บัวหภักดี หัวหน้าโครงการฯผลิตหนังสือ E-book คชศาสตร์เรื่องราวโลกของช้างในหมู่บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม ขอบอกภาพถ่ายสวยงดงามมากและขอบคุณน้องต่ายหรือคุณรสวรรณ หงษ์สุวรรณ์ ผู้ประสานงานกับคณะสื่อมวลชนชมรมนักข่าวท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นอย่างดีเยี่ยม "เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับศาลหลักเมืองสุรินทร์เป็นศิลปะแบบขอมสวยงามมากครับเรื่องและภาพโดย :หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์แฟนเพจเฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #ติดต่อวิทยากรด้านการท่องเที่ยวได้ที่ได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ค#เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !