วันนี้เราจะมาพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยว อีกแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ ซึ่ง จะเรียกว่า หมู่บ้านช้าง หรือ บ้านตากลาง เรียกได้ทั้ง 2 ชื่อเลยครับคนแถวนี้จะรู้จักดี หมู่บ้านนี้ เป็นศูนย์รวมของช้างเลยก็ว่าได้ เพราะเกือบทุกหลังคาเรือนในหมู่บ้านนี้ เขาจะเลี้ยงช้างกัน ซึ่งการเลี้ยงช้างก็จะดูเหมือนเป็นการ ตกทอดรุ่นสู่รุ่น และก็เลี้ยงมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ทั้งเลี้ยง ทั้งฝึก จนเชื่อง สั่งได้ ทำตามคำสั่งทุกอย่าง น่าทึ่งเหมือนกันนะครับ เคยสงสัยเหมือนกันว่า ทำไม ช้างตัวโตขนาดนี้ ถึงได้เชื่อฟังมนุษย์ตัวเล็ก ๆ ก็แปลกดี แต่พอได้ไปเที่ยว ไปเห็น ก็ถึงบางอ้อ หายสงสัย นี่มันคือความผูกพันธ์ของสัตว์กับคน เพราะคนเหล่านี้ดูแลช้างมาตั้งแต่เล็กๆ แบบชนิดที่ว่า… เหมือนลูกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ไม่แปลกใจเลยว่าช้างทำไมถึงเชื่อฟังพวกเขา ( ควาญช้าง ) เช่นกัน ในแต่ละวันก็จะมีนักท่องเที่ยว มาเที่ยวเยอะมากนะครับ ทั้งชาวต่างชาติ และผู้คนในจังหวัดอื่นๆ นักเรียนนักศึกษาก็มี เพราะโรงเรียนเขาจะพามาทัศนศึกษา พอถึงเวลาแสดงของช้าง ก็จะรู้สึกตื่นเต้นนิดนึงครับ เต้นก็ได้ แตะบอลก็ได้ ชุดบาสเก็ตบอลก็ได้ และมีอีกหลายความสามารถ เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ที่ผมทึ่งก็คือ บางตัวไม่มีควาญช้างมาคุมก็ยังแสดงเองได้เลย ลองถามผู้ชมที่เขาเคยมาชมดู ก็ได้คำตอบว่า เพราะความเคยชินของช้าง ที่แสดงทุกวันจนเกิดความชำนาญและไม่ต้องมีควาญช้างคุมระหว่างแสดงก็ได้ แค่ควบคุมใช้เสียงระยะไกล เห็นไม้ที่อยู่ในมือควาญช้างหรือเปล่าครับ ลักษณะด้ามเป็นไม้ และหัวเป็นเหล็กแหลมโค้ง เรียกว่า ขอช้าง นี่แหละคืออุปกรณ์ ที่ใช้สยบช้างตัวใหญ่ๆนี้ ให้เกรงกลัว และเชื่อฟังได้ บางท่านสงสัยว่าทำไมช้างตัวใหญ่ๆถึงได้กลัวไม้ขอ ผมเลยลองถามควาญช้างเล่นๆดู เขาบอกว่า จุดอ่อนของช้าง อยู่ระหว่างหน้าผากถึงใบหู จะเจ็บง่ายเมื่อโดนกระทบ ถ้าใช้ขอช้าง ถึงจะไม่ใช้ด้านแหลมเขกเข้าไปเบาๆ ช้างก็ถอยแล้วครับ อันนี้คือควาญเขาบอก จะจริงเท็จ หรือผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ ในศูนย์ของหมู่บ้านช้าง ยังมีพวกของที่ระลึกขาย มีประวัติของช้างให้ศึกษา และก็มีการนั่งช้างชมวิวรอบศูนย์ช้าง ผมเลยได้ถ่ายรูปมาให้ดูครับครั้งนี้ไปกับน้องๆหลานๆ แต่ผู้เขียนไม่ได้นั่งนะครับ เพราะช่วงนั้น เป็นช่วง เที่ยง - บ่าย เด็กๆนักเรียน ต่อคิวขึ้นนั่งช้างกันเยอะมาก ก็เลยไม่อยากไปแย่งคิวเด็กๆ เลยได้แต่ถ่ายภาพมาให้ดู ออกตัวก่อนเลยนะครับว่าเป็นคนถ่ายภาพไม่สวย ยิ่งช่วงคนแออัดด้วย ยิ่งหามุมถ่ายสวยๆไม่ได้เลย ได้ภาพมาให้เพื่อนๆดูก็ตามที่เห็น เอาไว้โอกาสดีๆจะมาเก็บภาพให้ดูอีกนะครับ เพื่อนๆคนไหน อยากมาเที่ยวบ้าง ก็แนะนำเลยนะครับ และก็อยากให้เพื่อนๆ มาช่วงข้าวในนากำลังเขียวจะได้บรรยากาศและวิวดีๆ ช่วงที่ว่านี้ก็จะเป็นช่วงเดือน ตุลาคม กำลังดี ส่วนผมมาครั้งนี้เป็นครั้งแรกก็เก็บภาพมาให้เพื่อนๆดูได้เท่านี้แหละครับ ไว้ครั้งต่อไปถ้าได้มาเที่ยวที่นี่อีกจะเก็บภาพมาฝากเยอะๆครับ... 📌พิกัดที่ตั้ง หมู่ 2 ถนนสุรินทร์-ร้อยเอ็ด ท่าตูม, สุรินทร์ 🚘 การเดินทาง การเดินทางมายัง ศูนย์คชศึกษา หรือ หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง จากกรุงเทพใช้เส้นทาง กรุงเทพ- สระบุรี- นครราชสีมา จากนั้นใช้เส้นทางหมายเลข 2 หรือถนนมิตรภาพแล้วแยกเลี้ยวขวาเข้าทางหมายเลข 206 เส้นทาง ไป อำเภอพิมายแยกซ้ายเข้าทางหมายเลข 2175 ไปชุมพวงผ่านอำเภอแคนดง-สตึก-ชุมพลบุรี จากชุมพลบุรี ตรงไปยัง อำเภอท่าตูม ทางหมายเลข 2018 ประมาณ 12 กิโลเมตร จะมีทางเลี้ยวขวาลัดไปยังหมู่บ้านช้างบริเวณบ้านกระสัง ไปบ้านยางบภิรมย์ แล้วตรงไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะถึงหมู่บ้านช้างบ้านตากลาง เส้นทางสะดวกเป็นถนนทางลาดยางตลอดสาย และยังมีป้ายบอกตลอดการเดินทาง ถ้ามาจากตัวเมืองสุรินทร์ ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 214 เส้นสุรินทร์-ร้อยเอ็ด ก่อนถึง อ.ท่าตูม จะมีแยกซ้ายบริเวณหลักกิโลเมตรที่36 เลี้ยวซ้ายไปตามทางลาดยางอีกประมาณ 22 กิโลเมตร ▶เปิดใหบริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ▶ตั้งแต่เวลา 10:00 - 18:00 สิบโมงเช้า ถึง หกโมงเย็น ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ คนละ 50 บาท เด็กโต คนละ 20 บาท เด็กเล็ก คนละ 10 บาท ชาวต่างชาติ คนละ 100 บาท ➡ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมและจองการแสดงล่วงหน้า ศูนย์คชศึกษา หรือ หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง จังหวัด.สุรินทร์ โทร ☎ 044-517461 044-145050 และททท. สนง.สุรินทร์ โทร☎ 044-514447-8 044-518529