นับตั้งแต่ที่ โรเมลู ลูกากู ย้ายกับมาเล่นให้กับ เชลซี คำรบสองด้วยค่าตัว 97.5 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นการย้ายมาด้วยค่าตัวมหาศาล ทำให้หลาย ๆ คนตั้งความหวังในตัวของ ลูกากู มากด้วยเช่นกัน แม้จะยังไม่จบซีซั่นนี้ ลูกากู กับเชลซี อาจจะดูไม่ราบรื่นอย่างที่ควรเหมือนที่เขาอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน เขาต้องเจอปัญหารุมเร้าพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบาดเจ็บ รวมถึงการตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์หลายครั้งในเกมการแข่งขันฤดูกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าเขาไม่มีความสุขกับแผนการเล่นของ โธมัส ทูเคิ่ล จนต้องถูกลงโทษด้วยการถูกดรอปในเกมบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีกนัดที่เจอกับ ลิเวอร์พูล เท่านั้นยังไม่พอนัดที่เจอกับ คริสตัล พาเลซ นัดล่าสุด ต้องบอกว่ามีอะไรที่ทำให้แฟนบอลเชลซีจดจำมากกว่าการยิงประตู เพราะตั้งแต่เริ่มเกมปรากฏว่า ลูกากู ได้สัมผัสบอลทั้งหมดเพียงแค่ 7 ครั้งเท่านั้น และนี่คือสถิติผู้เล่นที่ลงสนามครบ 90 นาที แล้วสัมผัสบอลน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกอังกฤษเลยก็ว่าได้ เรามาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ ลูกากู ฟอร์มตกได้ขนาดนี้กันครับ 5 ปัจจัยที่ทำให้ ลูกากู ฟอร์มตก ปัจจัยที่ 1 : สไตล์การเล่นของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ พรีเมียร์ลีกอังกฤษอาจเป็นปัจจัยทำให้ ลูกากู ไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าบอลที่หนักหน่วง การเดินเกมที่เร็วขึ้น ทำให้พื้นที่การเล่นเหลือน้อย ซึ่งต้องใช้เทคนิคความคล่องตัวสูงและการหาพื้นที่เข้าทำ ซึ่ง ลูกากู ไม่ใช่ผู้เล่นลักษณะแบบนั้น ปัจจัยที่ 2 : การตกเป็นเป้าการถูกประกบจากคู่แข่ง เริ่มแรกที่เขาย้ายเข้ามาที่เชลซีเจ้าตัวซัดคนเดียว 4 ประตู จากการลงเล่น 4 นัดแรก ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าเขาคือตัวอันตรายเสมอเมื่อเวลาได้บอล จึงมักถูกเฝ้าตามประกบจากฝ่ายตรงข้ามเสมอ จึงทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้เหมือนเคย ปัจจัยที่ 3 : ระบบแผนการเล่น ต้องยอมรับว่าในยุคของ โธมัส ทูเคิ่ล เขาอาจจะไม่ได้เล่นในแบบที่เขาถนัดเหมือนสมัยที่อยู่กับ อินเตอร์ มิลาน ด้วยสไตล์การเล่นและขาดคู่หูที่รู้ใจ ถึงแม้ โธมัส ทูเคิ่ล พยายามที่จะทำอย่างนั้น โดยปรับมาเล่นแผน 3-5-2 โดยส่ง ติโม แวร์เนอร์ มาเล่นร่วมกัน แต่ก็ยังไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งของเขาออกมาได้ ปัจจัยที่ 4 : เพื่อนร่วมทีม ด้วยการเน้นการครองบอลเอาชัวร์ไว้ก่อน การขึ้นเกมที่รัดกุม เลยทำให้เพื่อนร่วมทีมจ่ายบอลไปถึงเขาค่อนข้างน้อยมากต่อเกม นักเตะที่จ่ายบอลระดับเวิลด์คลาสในทีมก็มีน้อยและมิติการเข้าทำที่ยังไม่หลากหลายเท่าที่ควรและปัจจัยสุดท้าย ปัจจัยที่ 5 : ตัวของ ลูกากู เองนั่นแหละ ยังไงคนที่ต้องรับผิดชอบมากที่สุดคงหนีไม่พ้นตัวของเขาเอง ต้องยอมรับว่า ลูกากู มีปัญหาเรื่องความมั่นใจ ไม่ต่างจากอดีตกองหน้าค่าตัวแพงหลาย ๆ คนก่อนหน้านี้ ด้วยสไตล์การเล่นที่ชอบปักหลักอยู่แดนหน้ามากกว่า ไม่ค่อยขยับหาช่องมากนัก เมื่อเทียบกับ ไค ฮาร์แวร์ตซ์ หรือ แม้กระทั่ง ติโมร์ แวร์เนอร์ ที่ขยันวิ่งหาพื้นที่ดึงตัวประกบของคู่แข่งเสมอ หรือว่า ลูกากู จะไม่เหมาะกับเชลซีจริง ๆท้ายที่สุดแล้วต้องให้เวลากับ ลูกากู อีกสักนิดในการเค้นฟอร์มเก่งกลับคืนมาและพาเชลซีทวงบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีกกลับคืนมาให้สโมสรให้ได้อีกครั้งครับขอบคุณเครดิตภาพเพจ : Chelsea Football Club ทั้งหมด , หน้าปก , ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมตช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !