วัดสิรินธรภูพร้าว จังหวัดอุบลราชธานีนอกจากความอัศจรรย์ของโบสถ์เรืองแสงแล้ว ที่มาของการสร้างก็น่าอัศจรรย์ไม่แพ้กัน วัดสิรินธรภูพร้าว จังหวัดอุบลราชธานี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมเข้าเยี่ยมชมจากนักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางผ่านมาที่จังหวัดอุบลราชธานีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการเดินทางที่ค่อนข้างสะดวกสบาย ใช้เวลาออกมาจากตัวเมืองราวหนึ่งชั่วโมงนิดๆ (1.30 ชม.) ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถแวะมาเยี่ยมชมวัดเรืองแสงเสร็จแล้วยังสามารถกลับไปยังที่พักหรือทานอาหารในตัวเมืองอุบลได้อย่างสบายจากความน่าทึ่งด้านสถาปัตยกรรมที่ออกแบบให้มีแสงเรืองรองออกมาจากสารฟอสฟอเรสที่ทาทับไว้บนลวดลายประดับที่อยู่รายล้อมตัวโบสถ์ ด้วยความใส่ใจและการลงมือติดลวดลายด้วยตนเองของผู้ออกแบบและช่างคือ คุณคุณากร ปริญญาปุณโนแล้ว ความน่าอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งซึ่งเป็นการบรรจบกันของศาสนาถึงสองศาสนาที่กลมกลืนคือ ช่างใหญ่ผู้ดูแลงานผู้นี้นับถือศาสนาคริสต์!!!จุดเริ่มต้นของงานสถาปัตยกรรมชุดนี้ได้เกิดขึ้นจาก เดิมพระครูปัญวโรบลเจ้าอาวาสปัจจุบันและคุณคุณากรเป็นเพื่อนกันที่จังหวัดราชบุรีทั้งคู่ได้ผจญภัยในชีวิตมาด้วยกัน จนกระทั่งได้ประสบอุบัติเหตุร่วมกันจนทำให้คุณคุณากรสูญเสียความทรงจำบางส่วน และเพื่อนรักคู่นี้ก็ได้มาร่วมมือพัฒนาสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งชิ้นนี้ร่วมกันอีกครั้ง อันเป็นผลจากสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกันแต่เก่าก่อนเริ่มแรกอุโบสถแห่งนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นเพราะตัวช่างที่เป็นบุคคลต่างศาสนาเห็นว่า เป็นการหากินกับวัด จนกระทั่งเจ้าอาวาสอดีตเพื่อนรักได้ออกปากว่า หากไม่ช่วยจะทำเอง ทำให้ให้คุณคุณากรเห็นแก่ความสัมพันธ์อดีตต้องมาลงมือทำจากคำขอของท่านเจ้าอาวาส แนวคิดการสร้างได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่อง AVATAR ที่ตัวช่างที่เป็นคนคริสต์อยู่ท่ามกลางคนพุทธ โดยมีต้นไม้แห่งจิตวิญญาณหรือวิหารที่กำลังก่อสร้างเป็นสิ่งที่เกาะเกี่ยวผู้คนหลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ศิลปะบวกกับวิทยาศาตร์ตามแนวคิดของดาวินชีก็ถูกนำมาประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ร่วมด้วย"สารฟอสฟอรัสเป็นเหมือนของขวัญจากพระเจ้าที่ประทานมาให้" คุณคุณากร ให้สัมภาษณ์ในเพจประเทศอุบล ที่เป็นเพจสื่อสารเรื่องราวต่างๆของเมืองอุบลทั้งในปัจจุบันและอดีต "สารตัวนี้จะเก็บแสงตอนกลางวันและจะเปล่งแสงตอนกลางคืน ซึ่งมันนาอัศจรรย์มาก" นายช่างเจ้าของแนวคิดกล่าว "และเป็นความฝันของผมตั้งแต่เด็กเลย สำหรับเรื่องของการเรืองแสง" ผมเคยเดินทางไปเยี่ยมชมวัดแห่งนี้เมื่อสักราวหลายปีก่อน ซึ่งในตอนนั้นการทาสารเรืองแสงยังคืบหน้าได้ราวยี่สิบเปอร์เซ็นต์ หรือแค่ในบริเวณด้านหลังของตัวโบสถ์เท่านั้น ซึ่งในรอบนี้เพื่อนผมที่มาจากต่างจังหวัดอยากไปชมวัดดังกล่าว ผมเลยอาสามาพาและได้เห็นว่างานทาสีเรืองแสงคืบหน้าน่าจะสมบูรณ์แล้ว เพราะเห็นแสงเรืองๆ เกิดขึ้นทั่วบริเวณรอบพระอุโบสถ ซึ่งน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก นอกจากจะตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามแล้ว จากการที่ผมตรวจสอบว่า สถานการณ์หลักโควิด การเข้าเยี่ยมวัดดังกล่าวมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ทำให้ผมยังได้พบความน่าตื่นตาตื่นใจของที่มาของสถาปัตยกรรมนี้เพิ่มเติมขึ้นอีกด้วย การร่วมมือร่วมใจในการสร้างสถานที่สักการะบูชาของคนต่างศาสนาน่าจะหาพบได้ยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาสนาพุทธกับคริสต์ที่มีแนวคิดพื้นฐานของศาสนาที่แตกต่างกันมาก (คริสต์เป็นเทวนิยมส่วนพุทธเป็นอเทวนิยม) เบื้องหลังของการร่วมใจในการก่อสร้างนี้ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นเพิ่มขึ้นมาอีก เพราะนอกจากแสงเรืองๆของตัวพระอุโบสถจะเป็นเสมือนแสงธรรมที่จะช่วยนำความสว่างให้แก่คนในยามมืดมิดแล้ว ความร่วมมือร่วมใจของสิ่งที่ยากที่จะมาร่วมกันอย่างคนต่างศาสนามาเป็นตัวตั้งตัวตีในการสร้างสถานที่เคารพบูชาของอีกศาสนาหนึ่ง นั่นคงเป็นสิ่งที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยเท่าไหร่นัก ในโลกที่หลายๆอย่างเริ่มแบ่งขั้วและแบ่งแยก ผมว่าศิลปะชิ้นนี้น่าจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เราได้มองเห็นความหวังของมนุษยชาติกันขึ้นไปอีกว่า จากความแตกต่างของกันและกัน เรายังคงสามารถที่จะนำมาช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งที่อัศจรรย์ในโลกของเราเพิ่มขึ้นอีกได้ และความเป็นเพื่อนกันอย่างแนบแน่นช่วยลบข้อจำกัดบางอย่างของเราออกไปได้ ดังเช่นที่ท่านเจ้าอาวาสใช้ความเป็นเพื่อนร้องขอให้มาช่วยสร้างโบสถ์แห่งนี้ ทั้งๆที่คุณคุณากรมีข้อขัดข้องใจบางอย่างอยู่ มันทำให้เห็นว่ามนุษย์เราถ้าได้เป็นเพื่อนกันได้อย่างแนบแน่นแล้วข้อขัดข้องใจอะไรบางอย่างสามารถยกเลิกหรือยกเว้นไปได้ อยากให้ทุกคนได้มาลองเที่ยวดูนะครับ เพราะนอกจากความอัศจรรย์จากความสวยงามของวัดเรืองแสงแล้ว ความอัศจรรย์ของความร่วมแรงร่วมใจกันก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราจะได้สัมผัสด้วยเช่นกัน "ก็รู้สึกว่าประสบความสำเร็จนะครับ และถ้ามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากทั่วโลกเพื่อรับชมก็น่าจะดีขึ้นไปอีก แต่อย่างไรก็ตามในการสร้างเป็นที่ท่องเที่ยวระดับจังหวัดได้แล้วครับ" คุณคุณากร ปริญญาปุณโน ได้สรุปถึงความสำเร็จในการสร้างวัดเรืองแสงแห่งนี้พิกัด : วัดสิริธรวรารามภูพร้าว จังหวัดอุบลราชธานีเครดิตภาพ:ผู้เขียนอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !