ป่าสีวิเชียร ตั้งอยู่ที่ ตำบลวีเชียร อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี 34600 ป่าสีวิเชียรตั้งอยู่ริมเทือกเขาพนมดงรักและอ่างเก็บน้ำห้วยวังใหญ่ โดยทั่วไปคนในอำเภอน้ำยืนจะรู้จักป่าสีวิเชียร ในนามของป่าในเมือง เนื่องจากตั้งอยู่ในตัวเมืองของอำเภอน้ำยืน ปกติแล้วคนพื้นถิ่นจะมานั่งชมวิวริมอ่างเก็บน้ำห้วยวังใหญ่เพื่อชมบรรยากาศของเทือกเขาพนมดงรักริมน้ำ และมีพระอาทิตย์ตกในยามเย็น ทุ่งหญ้าที่อยู่ติดเทือกเขาพนมดงรัก แต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าอีกฟากหนึ่งของอ่างเก็บน้ำห้วยวังใหญ่ที่ติดอยู่กับป่าสีวิเชียร จะมีทุ่งหญ้าริมน้ำกว้างที่กำลังขึ้นได้เขียวสวยและสะอาดตาให้ได้ไปชม ซึ่งสวยไม่แพ้กับมุมริมน้ำเลย จุดทุ่งหญ้านี้จะอยู่เลยอ่างเก็บน้ำห้วยวังใหญ่ไป โดยเมื่อไปถึงทางที่ขี่ผ่านอ่างเก็บน้ำ ให้ขี่เลยไปจนถึงป่ามันจะพบทางตัน เมื่อหันไปทางขวาจะพบป่ามันและมีทางเล็ก ๆ ที่เหมาะแก่มอเตอร์ไซต์และเกวียนให้ขี่ผ่านเท่านั้น แต่หากใครนำรถยนต์ไปก็จอดไว้ตรงทางลงและเดินมาได้ ประมาณ 150 เมตรก็จะพบกับทุ่งหญ้า ฝั่งริมอ่างเก็บน้ำห้วยวังใหญ่ จุดถ่ายภาพที่นี่มีหลายจุด เช่น จุดที่เป็นโค้งน้ำสายเล็ก ๆ โค้งไปมาพร้อมกับหญ้าเขียว ๆ ริมน้ำ จุดที่เป็นทุ่งหญ้าสีเขียวปนเหลือง และจุดที่เป็นมุมหันไปทางอ่างเก็บน้ำ เป็นต้น หากใครต้องการมุมวิถีชีวิตให้มาช่วงประมาณ 15.00-17.00 น. จะพบชาวประมงมาหาปลาหว่านแห และพายเรือกลางน้ำ ภาพที่เห็นคือวิถีชีวิตของชาวบ้านกระทบกับแสงอาทิตย์ยามเย็นมองดูแล้วสวยมาก ๆ ริมน้ำฝั่งเก็บน้ำห้วยวังใหญ่ การเดินทางมาที่นี่ไม่ลำบากนัก พบถนนลูกรังเป็นบางจุดแต่รถเก๋งผ่านได้ (อาจจะต้องขับช้าสักหน่อย) ร้านค้าร้านอาหาร และห้องน้ำยังไม่มี ดังนั้นหากจะมาที่นี่ควรเตรียมความพร้อมมาให้ดี ไม่อย่างนั้นจะลำบากหาห้องน้ำค่ะ มุมถ่ายกับทุ่งหญ้ากว้าง ช่วงที่ไปถ่ายภาพคือปลายเดือนเมษายน 2563 เป็นช่วงน้ำลดแต่ไม่ลดจนแห้งและหญ้ากำลังเขียวสวย หากมาฤดูฝนผู้เขียนไม่แน่ใจว่าน้ำจะขึ้นจนท่วมหญ้าไหม ดังนั้นหากมาฤดูอื่นไม่การันตีว่าจะเจอวิวมุมนี้ค่ะ มุมโค้งน้ำที่เขียวสวยงาม สำหรับจุดท่องเที่ยวตรงนี้ผู้เขียนให้ 3 เต็ม 5 โดยหักคะแนนความสะดวกสะบายเรื่องห้องน้ำสักหน่อย และหักในส่วนของน้ำสายเล็ก ๆ ซึ่งเป็นน้ำขังทำให้ไม่ใสเท่าใดนัก หากว่าน้ำใสจะน่าเล่นและสวยมาก ๆ และรู้สึกประทับใจเพราะอากาศดีโล่งสบาย เหมาะกับคนที่อยากไปพักผ่อนนั่งเล่มชมวิวค่ะ จุดทุ่งหญ้าใกล้ปากทางเข้า มุมถ่ายย้อนแสง ที่มาภาพ: จิรภรณ์ ยะคำแจ้