ในชีวิตมีไม่กี่ครั้งที่ได้ลองเที่ยววัดป่า ยิ่งเป็นวัดป่าทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือยิ่งสงบ เพราะเต็มไปด้วยป่าเขาเหมาะสำหรับพระที่เดินธุดงค์หาความสงบ วัดป่าจึงเป็นวัดที่ต้องการความสงบอย่างสูง เพราะมีพระธุดงค์มาพำนักเป็นระยะ รวมถึงพระที่จำวัตรประจำก็ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ไม่ค่อยให้คนนอกเข้ามามากนัก นอกจากมีโอกาสพิเศษ เช่น วันพระ ก็จะมีการทำบุญตักบาตรโดยพุทธศาสนิกชนจำนวนหนึ่ง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา ครอบครัวของฉันได้มาตักบาตรกันพร้อมหน้าแต่เช้าตรู่ มีแม่ พี่ชาย และแฟนพี่ชาย วัดแห่งนี้มีชื่อว่า "วัดป่านานาชาติ" อยู่ที่อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี วัดนี้เป็นวัดป่าที่เป็นสายของหลวงพ่อชา สุภัทโท เหล่าศิษย์มากมายที่เคารพในหลักธรรมของหลวงพ่อชาไม่พลาดที่จะแวะเวียนมาทำบุญและชมวัดที่สวยงามเงียบสงบ จุดเด่นของวัดนี้คือ เป็นวัดสายกรรมฐานสำหรับพระชาวต่างชาติมากมาย แต่กลับเงียบสงบกว่าวัดไทยบางที่เสียอีก เน้นการปฏิบัติกรรมฐานที่เข้มข้นมาก ได้ทราบจากแฟนพี่ชายว่า วัดนี้ไม่ได้มาบวชได้ง่าย ๆ ชาวต่างชาติที่อยากเข้าพุทธศาสนาต้องนุ่งขาวห่มขาวนาน 4-6 เดือนและเป็นสามเณรอีก 1 ปี จึงจะได้บวชเป็นพระห่มผ้าเหลืองเต็มตัว ซึ่งก็เป็นเรื่องดี เพราะเป็นการพิสูจน์ว่าใครมีขันติพอที่จะได้เข้าใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ไม่มีมิจฉาชีพแอบแฝงมาบวชเพียงเพราะหาที่พักและอาหารฟรีแบบนั้น จุดเริ่มต้นก่อนจะมีพระจากนานาชาติมากมายขนาดนี้ก็คือ มีพระภิกษุชาวอเมริกันที่ชื่อว่าพระสุเมโธ (ปัจจุบันคือ พระราชสุเมธาจารย์) ได้มาอยู่กับหลวงปู่ชาเป็นครั้งแรกที่วัด จึงเป็นที่มาที่มีชาวต่างชาติที่สนใจในพระพุทธศาสนาเข้ามาบวชเป็นจำนวนมาก เมื่อตักบาตรเสร็จเรียบร้อย ภายในวัดจะมีป่าไผ่ สูงใหญ่สวยงามไม่แพ้ของญี่ปุ่นเลย แต่สภาพอากาศบ้านเราร้อนชื้นกว่า ป่าไผ่ก็จะออกดิบชื้นเล็กน้อย และเป็นป่าไผ่ธรรมชาติ อาจจะไม่เรียงรายสวยงามเหมือนป่าไผ่ที่ปลูกเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ให้ความรู้สึกสงบเป็นธรรมชาติได้ดีมาก แสงแดดส่องเล็ดลอดจากใบไม้ลงมาเป็นระยะ ๆ ซึ่งป่าไผ่จะเรียงรายยาวตามทางเดินไปโบสถ์ สลับกับต้นไม้ใหญ่ชนิดอื่น ๆ ขอเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกแห่งความทรงจำไว้ เพราะไม่ได้มีโอกาสมาบ่อย ๆ มาถึงโบสถ์แล้ว ด้านนอกมีความเก๋ไก๋ เพราะหลวงพ่อชาให้สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ มีความโดดเด่นลงตัว ไม่ใช่ลายโบราณแบบวัดทั่วไป ผสมผสานการใช้เทคนิคปูนเปลือย แซมด้วยกันสาดในรูปแบบกระจก มีความลาดชันสัมพันธ์กันสัมพันธ์กันขึ้นไปหาหลังคา มุงด้วยกระเบื้องแบบเรียบลาดขึ้นไปหาจุดสูงสุด ตกแต่งด้วยเจดีย์จำลองสีทองขนาดเล็ก สวยงามแบบโมเดิร์นแต่เรียบง่าย เรียกได้ว่าเป็นแนวมินิมอลเลยก็ว่าได้ ถ่ายทอดมาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อชายังมีชีวิตอยู่ มาจนถึงปัจจุบันศิลปะนี้ไม่ดูเก่าหรือใหม่จนเกินไป นอกจากการที่เป็นวัดป่านานาชาติที่ต้อนรับคนจากทั่วโลกแล้ว นี่คืออีกเอกลักษณ์ที่ทำให้วัดมีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมที่ไม่ล้าสมัย และเป็นสากลนิยม พอเดินเข้าภายในอุโบสถวัดป่านานาชาติ ก็ยังคงมีความเรียบง่ายสวยงาม เน้นที่ว่างโล่งเป็นสิ่งสำคัญในการตกแต่ง ภายในมีพระพุทธรูปซึ่งเป็นพระประธานอยู่ด้านบนสุด ประทับบนที่นั่งไม้สวยงาม ตัดกับสีทองกับพระพุทธรูปดูสวยงามระยิบระยับยิ่งขึ้น เมื่อมีแสงส่องลงมาจากกระจกด้านหลัง ทำให้ดูขลังและเรืองรองอย่างมาก ถัดลงมาเป็นรูปภาพของพระอาจารย์ที่มีพระคุณต่อวัดป่านานาชาติสองรูปขนาบข้างพระพุทธรูป และด้านล่างสุดเป็นรูปปั้นจำลองของหลวงพ่อชานั้นเอง พุทธศาสนิกชนที่มาทำบุญ มักมากราบไหว้พระพุทธรูปที่นี่กันเป็นประจำ เงียบสงบมาก เพราะไม่ได้ออกันมา ค่อย ๆ ทยอยสลับกันมา ทำให้ได้รับความสงบในการกราบสักการะเป็นอย่างมาก รวมถึงมีเวลาเก็บภาพเป็นที่ระลึกไว้อีกเช่นเคย ใครอยากลองมาเที่ยววัดป่านานาชาติ ดูความสงบของวัดที่สามารถดึงดูดให้ชาวต่างชาติมาเลื่อมใสได้เป็นจำนวนมากนั้นเป็นอย่างไร ต้องเห็นด้วยตาเพราะพระชาวต่างชาติบางรูปสงบมากจนเราชาวไทยอาจจะอายได้ และนี่แหละคือศรัทธาจากทุกมุมโลกมารวมกันที่ประเทศไทย ณ จังหวัดอุบลราชธานี ใครอยากอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของวัด สามารถไปดูได้ที่เว็บไซต์ วัดป่านานาชาติอุบลราชธานี เที่ยววัดป่านานาชาติ รวมศรัทธาจากทุกมุมโลก