ช่วงนี้หลายคน คงตื่นตระหนกและหวาดกลัว เกี่ยวกับโรคที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ และเกิดการระบาดอย่างหนัก ดังนั้น ผู้คนต่างหันมาสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ Covid-19 ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลล้างมือ แอลกอฮอล์ 70% และอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ที่จะช่วยดูแลระบบสุขภาพร่างกายภายในของเรา นั่นก็คือ "วิตามินซี" ก่อนอื่นเรามาทราบกันก่อนว่า วิตามินซี มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ทำไมคนถึงตื่นตระหนกหันมารับประทานวิตามินซีมากขึ้น ประโยชน์ของวิตามินซี วิตามินซี มีประโยชน์ด้วยกันหลักๆ 3 ข้อ คือ 1.ช่วยลดความรุนแรงและระยะเวลาการเป็นหวัด และนอกจากนี้วิตามินซี ยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างและเสริมประสิทธิภาพ การทำงานของเม็ดเลือดขาว จึงช่วยเพิ่มความสามารถในการต้านการอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ดังนั้น เพื่อให้สุขภาพดีเราจึงควรรับประทานวิตามินซี ให้ได้อย่างน้อยวันละ 200 มิลลิกรัม แต่เมื่อหากเราเกิดเป็นหวัดแล้ว ค่อยหันมาทานวิตามินซี ก็จะไม่ช่วยบรรเทาอาการเป็นหวัดให้ดีขึ้นได้ 2.ช่วยป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ เนื่องจากวิตามินซีมีส่วนช่วยในการต้านสารอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวทำลายเซลล์ในร่างกาย และยังเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น อัลไซเมอร์ โรคหลอดเลือดและหัวใจ 3.ช่วยสร้างคอลลาเจน เมื่อเรารับประทานวิตามินซีทุกวัน ร่างกายจะมีการดูดซึมวิตามินซีไปเก็บสะสมที่ผิว และวิตามินจะช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวเรียบเนียน และยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานิน ช่วยลดรอยหมองคล้ำ จุดด่างดำ และช่วยให้ผิวกระจ่างใส รับประทานวิตามินซี เท่าไหร่ ให้ "พอดี" ใน 1 วัน ร่างกายมีความต้องการวิตามินซี อย่างน้อย 500 มิลลิกรัม เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงที่สุด แต่ไม่ควรเกิน 1,000 มิลลิกรัม เพราะ หากร่างกายได้รับในปริมาณที่มาก ร่างกายจะดูดซึมวิตามินซีไปใช้ได้น้อยกว่า 50% และจะขับออกมาจากร่างกายทางปัสสาวะกว่า 25% แต่ถือว่าไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะวิตามินซี เป็นสารที่ละลายในน้ำได้ และเมื่อเรารับประทานวิตามินซี มากเกินกว่า 3,000 มิลลิกรัมต่อวัน จะทำให้เกิดอาการมวนท้อง ท้องเสียได้ ดังนั้น เพื่อให้เกิดการที่ร่างกายจะนำวิตามินซีไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด เราควรที่จะรับประทานวิตามินซีให้ได้ 500 มิลลิกรัมต่อวัน และแหล่งของวิตามินซี เราก็ทราบกันอยู่แล้วว่ามาจาก ผักและผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว สตรอเบอร์รี่ มะเขือเทศ และ บร็อคโคลี่ ติดตามบทความสุขภาพ สาระความรู้ดีๆ และให้กำลังใจผู้เขียน ได้ที่ : เพจ facebook : Healthy society สังคมสร้างสุขภาพดี